เราเป็นไรไม่รู้ อยู่ดีก็กลัวเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ทั้งๆที่แต่ก่อน
เราอยากแต่งงานมาก อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
เพราะคนที่บ้านชอบบอกว่าถ้าเราอยากมีชีวิตที่อิสระต้องมีคนมาขอแต่งงานเท่านั้นถึงจะให้ชีวิตที่อิสระได้
แต่พอแฟนจะมาขอแต่งจิงๆในใจเรากับกลัวขึ้นมาสะงั้น
กลัวว่าเราจะเข้าพ่อแม่เขาได้ไหม กลัวว่าจะอยู่บ้านกับเขาได้หรือเปล่า เพราะเราไม่ชอบที่บ้านเขาตรงที่เขา
เลี้ยงหมากับแมว เราไม่ชอบเห็บหมัด แล้วอีกอย่างเราแพ้ขนหมากับแมวมากเพราะเราเป็นภูมิแพ้
แต่เราต้องไปอยู่กับทางบ้านเขา เขาคือลูกคนเดียว
ก่อนที่เราจะแต่งเราพูดคุยถามกับเขาว่าเราไปอยู่กันข้างนอกดีกว่าไหม เราไม่อยากเจอความยุ่งยาก เกี่ยวกับที่บ้านแฟนเราเลย เพราะขนาดยังไม่แต่งที่บ้านก็ทะเลาะกันทุกวัน ในเรื่องค้าใช้จ่ายที่บ้าน
ค่ากับข้าว เพราะแม่เขาให้ลูกชายเขาช่วยทำงานหาเงินให้ เพราะน้องชายเขาก็ไม่ทำงานนอนอยู่บ้านเชยๆ
แม่เขาก็พูดว่าถ้าต่อไปลูกคนโตแต่งงานไป แม่เขาก็จะไม่มีใครช่วยหาเงินแล้ว แล้วแม่ก็ยังเป็นหนี้อีกมากมาย
แฟนเราก็เลยต้องอยู้กับแม่ แต่งเราเข้าไปเพื่อจะให้เราไปช่วยงานที่บ้านเขาเพื่อแบ่งเบาภาระแม่ ให้แม่เหนื่อยน้อยลง
แล้วให้เราทำแทนแม่ แล้วก็ยังคาดหวังว่าเราต้องมาทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอีก แบบปกติ
เขาอยากขายของที่ตลาด แต่เขาไม่กล้ากลัว
เลยอยากมีเราไปช่วยเขาไปทำให้เขา เขาจะได้เลิกกลัว
แต่มันกลายเป็นความกดดันเรา ขนาดยังไม่แต่งเลย เขาพูดบอกมาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกคิดหนัก
เหมือนข้างในมันไม่ดีใจเลย มันมีแต่ความกลัวเช่นกัน
กลัวว่าถ้าวันไหนเราทำไม่ได้ล่ะ
จะเกิดไรขึ้น หลัวต้องมาะเราะกับแม่ผัวอีก
กลัวปัญหาการเงินจะตามมาหลายๆอย่างมากเลย
เราอยากถามทุกคนมากเลยว่า มีใครเคยเจอหรือเคยกลัวแบบนี้เหมือนเราไหม
เราอาจจะพูดวกไปวนมาสักหน่อย เรื่องมันเยอะมากแต่นี้คือย่อๆมา
เราคิดว่าในเมื่อคุณอยากแต่งงานกับเรา คุณก็ต้องดูแลเราได้ ไม่ใช่ให้เราไปดูแลคุณอย่างเดียว ช่วยที่บ้านคุณทุกเรื่องแบบนี้ไม่ไหว
มันรู้สึกเหมือนไม่มีความสุข ถ้าจะต้องแต่งไปอยู่ด้วยกันจริงๆ
เรากับแฟนคบกันมา 3 ปี เราอายุ 27 แล้ว แฟนเรา 25 ปี
ทุกคนว่าเรื่องนี้ยังไงดี เราควรแต่งไปดีไหม
มีใครเคยกลัวการมีใช้ชีวิตคู่หรือการมีครอบครัวเป็นของตัวเองไหมค่ะ
เราอยากแต่งงานมาก อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
เพราะคนที่บ้านชอบบอกว่าถ้าเราอยากมีชีวิตที่อิสระต้องมีคนมาขอแต่งงานเท่านั้นถึงจะให้ชีวิตที่อิสระได้
แต่พอแฟนจะมาขอแต่งจิงๆในใจเรากับกลัวขึ้นมาสะงั้น
กลัวว่าเราจะเข้าพ่อแม่เขาได้ไหม กลัวว่าจะอยู่บ้านกับเขาได้หรือเปล่า เพราะเราไม่ชอบที่บ้านเขาตรงที่เขา
เลี้ยงหมากับแมว เราไม่ชอบเห็บหมัด แล้วอีกอย่างเราแพ้ขนหมากับแมวมากเพราะเราเป็นภูมิแพ้
แต่เราต้องไปอยู่กับทางบ้านเขา เขาคือลูกคนเดียว
ก่อนที่เราจะแต่งเราพูดคุยถามกับเขาว่าเราไปอยู่กันข้างนอกดีกว่าไหม เราไม่อยากเจอความยุ่งยาก เกี่ยวกับที่บ้านแฟนเราเลย เพราะขนาดยังไม่แต่งที่บ้านก็ทะเลาะกันทุกวัน ในเรื่องค้าใช้จ่ายที่บ้าน
ค่ากับข้าว เพราะแม่เขาให้ลูกชายเขาช่วยทำงานหาเงินให้ เพราะน้องชายเขาก็ไม่ทำงานนอนอยู่บ้านเชยๆ
แม่เขาก็พูดว่าถ้าต่อไปลูกคนโตแต่งงานไป แม่เขาก็จะไม่มีใครช่วยหาเงินแล้ว แล้วแม่ก็ยังเป็นหนี้อีกมากมาย
แฟนเราก็เลยต้องอยู้กับแม่ แต่งเราเข้าไปเพื่อจะให้เราไปช่วยงานที่บ้านเขาเพื่อแบ่งเบาภาระแม่ ให้แม่เหนื่อยน้อยลง
แล้วให้เราทำแทนแม่ แล้วก็ยังคาดหวังว่าเราต้องมาทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอีก แบบปกติ
เขาอยากขายของที่ตลาด แต่เขาไม่กล้ากลัว
เลยอยากมีเราไปช่วยเขาไปทำให้เขา เขาจะได้เลิกกลัว
แต่มันกลายเป็นความกดดันเรา ขนาดยังไม่แต่งเลย เขาพูดบอกมาแบบนี้ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกคิดหนัก
เหมือนข้างในมันไม่ดีใจเลย มันมีแต่ความกลัวเช่นกัน
กลัวว่าถ้าวันไหนเราทำไม่ได้ล่ะ
จะเกิดไรขึ้น หลัวต้องมาะเราะกับแม่ผัวอีก
กลัวปัญหาการเงินจะตามมาหลายๆอย่างมากเลย
เราอยากถามทุกคนมากเลยว่า มีใครเคยเจอหรือเคยกลัวแบบนี้เหมือนเราไหม
เราอาจจะพูดวกไปวนมาสักหน่อย เรื่องมันเยอะมากแต่นี้คือย่อๆมา
เราคิดว่าในเมื่อคุณอยากแต่งงานกับเรา คุณก็ต้องดูแลเราได้ ไม่ใช่ให้เราไปดูแลคุณอย่างเดียว ช่วยที่บ้านคุณทุกเรื่องแบบนี้ไม่ไหว
มันรู้สึกเหมือนไม่มีความสุข ถ้าจะต้องแต่งไปอยู่ด้วยกันจริงๆ
เรากับแฟนคบกันมา 3 ปี เราอายุ 27 แล้ว แฟนเรา 25 ปี
ทุกคนว่าเรื่องนี้ยังไงดี เราควรแต่งไปดีไหม