ผมเสียเวลามาแล้ว3ปีครับ

ผมออกจาก รร. ตอนม.3(อายุ15)เพราะอยากรีบหาเงินมาช่วยแบ่งเบาภาระแม่ไวๆ (ครอบครัวผมมีปัญหาเรื่องการเงินตลอดตั้งแต่ผมเด็กๆ) 
 
ตอนผมออกจาก รร. ผมแพลนว่าจะเรียนเตรียมสอบวุฒิgedและเข้ามหาลัยตอนอายุ16จะได้จบมหาลัยไวขึ้นและได้เริ่มทำงานหาเงินไวขึ้น
 
โอเคหลังจากนี้จะแปลกๆนิดนึง คือผู้ชายวัยช่วงนี้ต้องมีการช่วยตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ยครับ ก่อนที่ผมจะออกจากรร. ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับการชตอ.
 
แต่หลังจากผมออกจาก รร. ผมแพลนตารางชีวิตว่าจะเรียนบทนี้บทนู้นให้เสร็จภายในกี่สัปดาห์  หักเวลาทำงานบ้านกินข้าวและธุระอื่นๆในชีวิต มีเวลาเหลือในการเรียนต่อวันกี่ชม. ผมลบเกมทิ้งทั้งหมด และแพลนไว้ว่าจะไม่เสียเวลาเสพสื่อบันเทิงอะไรเลย จะเรียนอย่างเดียว และนั้นรวมไปถึงจะไม่ชตอ ด้วย

คือตอนนั้นผมไม่รู้ตัว ว่าตัวเองเป็นperfectionist ก็คือถ้าเผลอเล่นโทรศัพท์เสียเวลาไปเสพสื่อบันเทิง  มีอะไรพลาดผิดเพี้ยนจากตารางที่ตั้งไว้นิดเดียวจะปล่อยทุกอย่างพังหมดเลย พอรู้ตัวว่าพลาดปึปจะหมดกำลังใจแล้วเลื่อนโทรศัพท์ต่อให้พังไปทั้งวันแล้วเริ่มใหม่พรุ่งนี้ ผมเรียกนิสัยนี้ว่าall or nothing 

 และนี้เป็นเหตุผลที่ผมเริ่มมีปัญหากับการชตอ เพราะ ผมเลิกชตอไม่ได้ 
 
เป็นอย่างนั้นอยู่2เดือน พอรู้ตัวว่าตัวเองเสียเวลามา2เดือนแล้ว ก็รู้สึกชีวิตพังมาก แต่ก็ตั้งใจใหม่บอกตัวเองว่าคราวนี้จะไม่เสียเวลาอีก  แต่ก็เสียเวลาอีก
 
คือเหมือนผมเรียนได้ติดต่อกัน5วันแล้วพอพลาดวันที่6ปึปผมก็จะกลับไปลูปเดิม ลูปชีวิตพัง และสิ่งที่ทำพลาดบ่อยที่สุดจากตารางที่ตั้งไว คือการชตอ555ต้องพิมขำหน่อยเดี๋ยวมันดูโรคจิต คือชตอเสียเวลาเฉลี่ยประมาณ10นาทีแต่ประเด็นคือมันไม่ใช่แค่นั้นเราตั้งใจแล้วว่าจะไม่ทำ แต่พอพลาดทำไปแล้วก็ผิดหวังกับตัวเองแล้วเลื่อนโทรศัพท์ไปอีก1ชม. โอเคทีนี้เสียเวลาไป1ชม.กว่า 1ชม.กว่าผมเรียนอะไรได้ตั้งเยอะ พอผมคิดอย่างนี้ผมก็ปล่อยให้พังไปทั้งวันเลย
 
โอเคเพราะเหตุนี้ผมเสียเวลาเพิ่มอีก4เดือน รวมเป็น6เดือนแบบเรียนบ้างไม่เรียนบ้าง และผมรู้สึกว่าเวลาจำนวนนี้มันเยอะมาก นี้ผมทำอะไรลงไป 6เดือนนี้ตอนผมออกจากรร. ผมแพลนว่าต้องเรียนจบหมดแล้ว แต่ผมกลับยังเรียนไปไม่ถึง10เปอเซนเลยด้วยซ้ำ 
 
ตอนนั้นผมพิดหวังกับตัวเองมาก  ผิดหวังกับตัวเองด้วย สมองเบลอๆด้วย เพราะตลอด6เดือนผมไม่ได้ไปรร.ใช่ไหมครับ แทนที่จะเรียนแต่กลับเลื่อนโทรศัพท์พวกคลิปสั้นอ่ะครับtiktok shorts เลื่อนทั้งวัน และก็อย่างที่บอกผมมีนิสัยแบบทำพลาดแล้วคือปล่อยมันพังไปเลยเริ่มใหม่พรุ่งนี้ใช่มั้ยครับ บางวันพลาดชตอไปแล้วอีกนานกว่าจะวันต่อไป ระหว่างทั้งวันบางครั้งก็มีชตอ3ครั้งในวันเดียว(55ขำตัวเอง)
 
และพี่ๆหรือน้องๆลองนึกดูครับสมองจะไม่เบลอได้ไง เลื่อนtiktokทั้งวัน(สำหรับคนที่ไม่รู้พวกสื่อคลิปสั้นมีผลกระทบต่อสมองที่เป็นข้อเสียอยู่ครับลองเสริชดูนะครับ) + ชตอเยอะเกินปกติเพราะอยู่บ้านว่างๆ
 
ผิดหวังตัวเอง+สมองเบลอ=งงไปหมดแล้วว่าตัวเองควรทำยังไง ตอนนั้นเลยคิดว่าเออเราไม่ไหวจริงๆว่ะเราควบคุมตัวเองให้เรียนไม่ได้ พ่อเห็นว่าเราบ้าพ่อเลยให้มาอยู่กับพ่อแล้วพากลับไปเรียน ตอนนั้นเราก็ยอมเพราะผิดหวังกับตัวเองมากเสียความมั่นใจไปหมด เลยคิดว่าเชื่อคำแนะนำของพ่อดีกว่า
 
พอกลับไปเรียนไม่ถึง1เดือน ก็รู้สึกว่าเสียเวลามากทั้งเวลาเดินทางทั้งการสอนของครู เราคิดว่าเราเรียนได้ไวกว่านี้ในยูทูป เลยไม่ไปรร. ดื้อกับพ่อ ขอโอกาสพ่อเรียนที่บ้านอีกครั้ง  พ่อเลยให้
 
ผมได้เรียนที่บ้านอีกครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนมิหน่ำซ้ำยังโหลดเกมกลับมาเล่นด้วย 3เดือนผ่านไปพ่อเห็นแล้วว่าผมไม่ได้ตั้งใจเรียน พ่อบอกถ้าเป็นอย่างนี้โรงเรียนก็ไม่ไป นั้นก็ต้องไปทำงาน ผมบอกขออีก3เดือนผมจะตั้งใจเรียนจริงๆถ้าผ่าน3เดือนนี้ผมสอบวุฒิgedไม่ได้ผมจะยอมไปทำงาน
 
ผมลบเกมทิ้งแล้วกลับมาตั้งใจเรียนแต่ก็ทำไม่ได้ ความขี้เกียจมันเป็นสันดานแล้วเพราะขี้เกียจมานาน มาถึงตอนนี้ผมเสียเวลาไปแล้วเกือบ1ปี หลังจากที่ออกจากรร.ตอนม.3 วุฒิgedก็ไม่ได้ตามที่แพลนไว้
 
ผมไปทำงานแรงงานตามที่พ่อบอก(พ่อไปฝากงานให้ในร้านอาหาร เด็กอายุ16ที่ทำอะไรไม่เป็นแบบผมเลยได้งานทำ)
 
ผมทำเป็นระยะเวลาเกือบปี แล้วก็รู้สึกยอมรับตัวเองไม่ได้ เด็กที่อายุเท่าผมคนอื่นเขาไปถึงไหนแล้ว แต่ผมกับทำงานแรงงานอยู่อย่างนี้ ผมเลยเลิกทำงานแล้วหนีไปอยู่กับแม่(พ่อกับแม่ผมแยกทางกันะครับอยู่คนล่ะที่กัน) ไปอยู่กับแม่เพื่อที่จะได้เรียนอยู่บ้าน มาถึงตอนนี้ผมอายุ17และเรียนอยู่บ้านแม่
 
และหลังจากนั้นผมเรียนอยู่บ้านแม่สักพักนึงนานอยู่ ก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี ผมอยู่บ้านจนรู้สึกแย่เหมือนเป็นซึมเศร้า เลยออกมาทำงานเหมือนเดิม แต่คราวนี้ผมออกมาเช่าห้องอยู่เองและทำงานเลี้ยงดูตัวเอง
 
โอเคเรื่องราวที่ยาวมากนี้ตอนนี้มาถึงปัจจุบันที่ผมกำลังพิมอยู่แล้ว ปัจจุบันผมอายุ18 และไม่ได้สนใจเรื่องหาเงินแล้ว แต่เป็นเรื่องของpassionที่มีต่อพวกsciและtechแทน เพราะจริงๆครอบครัวก็ไม่ได้อยากให้เรามากังวลเรื่องหาเงินช่วยเขาอยู่แล้ว เขาบอกเขาจะดีใจมากกว่าถ้าลูกเขาจบวิศวะคอมจริงๆ (เขาเคยรู้ว่าผมชอบวิศวะคอม แต่ผมบอก ถ้าผมเรียนสายอื่นผมจะหาเงินให้เขาได้ไวกว่า) แม่บอกว่าปัญหาของแม่เดี๋ยวแม่จัดการเอง ลูกไปทำตามความฝันของลูก นั้นแหละด้วยเหตุนั้นผมเลยเลิกโฟกัสเรื่องหาเงินไปช่วยแก้ไขปัญหาครอบครัว และหันมาโฟกัสกับสิ่งที่ผมสนใจแทน  ผมทำงานแล้วหลังเลิกงานก็กลับห้องมาเรียนเตรียมสอบ ged เก็บตังส่งตัวเองเรียนสายนี้
 
ดูสิครับ planว่าจะสอบให้ได้ตอน16 แต่ตอนนี้18แล้ว ผมลองโพสเรื่องราวของผมน่ะครับ เผื่อเจอคนที่คล้ายกันสนใจในสิ่งเดียวกัน เพราะผมออกจากรร.ตั้งแต่ตอนอายุ15เลยไม่มีเพื่อนเลย เพื่อนที่ทำงานส่วนใหญ่ก็จะไม่ใช่แนวเดียวกันและอายุห่างกันมากด้วย 
 
บางครั้ง เวลาเหงา จะไปหาเพื่อนคุยในแอปhello talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่ไม่ได้เจอคนที่เหมือนกันเลยน่ะครับ อยากมีเพื่อนที่ความคิดคล้ายกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่