จงปฏิบัติธรรม...ในแบบของตนเอง: จี้กง

จี้กง (ค.ศ. 1130-1209) นามเดิมว่า หลี่ซิวหยวน เป็นบุคคลในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ ครอบครัวของจี้กงชอบทำบุญและฝักใฝ่ในพุทธศาสนา จี้กงจึงผูกพันกับศาสนาและออกบวชตั้งแต่อายุยังน้อย ได้รับฉายาว่า “เต้าจี้” จําพรรษาอยู่ที่วัดกั๋วชิงซื่อ ต่อมาย้ายไปอยู่ที่วัดหลิงอิ่นซื่อ เมืองหลินอาน ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของเมืองหังโจว

แต่การปฏิบัติตัวแปลกแตกต่างไปจากหลวงจีนอื่นทั่วไป เช่น พูดจาไม่สำรวม, ไม่ชอบนั่งสมาธิ, ไม่ชอบสวดมนต์ แต่ชอบกินเนื้อ(ผิดทังมหายานและเถรวาทเพราะคือเนื้อสุนัข) ,ดื่มเหล้า, ชอบหุ่งห่มจีวรเก่าซ่อมซ่อ, ชอบช่วยเหลืออผู้คนที่ถูกรังแกหรือประสบภัย... 
กิริยาแปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้ผู้คนเรียกท่านว่า หลวงจีนบ้า หลวงจีนสติเฟื่อง ฯลฯ และถูกขับออกจากวัด

ทว่า หลวงจีนฮุ่ยหย่วน เจ้าอาวาสวัดหลิงอิ่นซื่อ กลับรับจี้กงเป็นศิษย์ ครั้งนั้นท่านได้กล่าวว่า “ประตูแห่งศาสนาพุทธกว้างใหญ่ เหตุใดจะยอมรับพระบ้าสักคนไม่ได้เล่า” นับจากนั้นก็ไม่มีพระรูปใดมาวุ่นวายกับหลวงจีนจี้กงอีก ภายหลังท่านเจ้าอาวาสฮุ่ยหย่วนมรณภาพแล้ว จี้กงจึงต้องย้ายไปอยู่ที่วัดจิ้งฉือซิ่อ เป็นเลขาเจ้าอาวาสเต๋อฮุ่ย

แม้ภาพภายนอกของจี้กงจะดูแปลกประหลาด แต่แท้จริงท่านเป็นพระสมถะที่รอบรู้ กล่าวคือ เข้าใจเนื้อหาในพระไตรปิฎกอย่างถ่องแท้, มีความรู้เรื่องสมุนไพรสามารถรักษาอาการเจ็บป่วย, มีความสามารถในการแต่งโคลงกลอน... 

ทุกวันชีวิตย่อมเป็นไปตามลิขิต   วอนขออะไร 

ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้   อวดโก้ทำไม

อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร   อร่อยไปไย

ที่ดินหรือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง   โกงกันทำไม 


เหล้า เนื้อ อยู่ในท้อง พุทธะอยู่ในใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่