ปิยบุตร ซัด 1 ปีรัฐบาลข้ามขั้ว อ้างกลืนเลือด สุดท้ายไปสนธิกำลัง สกัดพลังเปลี่ยนผ่านปชต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4835819

ปิยบุตร ซัด 1 ปีรัฐบาลข้ามขั้ว อ้างกลืนเลือด สุดท้ายไปสนธิกำลัง สกัดพลังเปลี่ยนผ่านปชต.
 
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า 
 
ปัญหาที่ควรต้องอภิปราย ณ เวลานี้ มิใช่แต่เพียง ทำไมพรรคเพื่อไทย “ข้ามขั้ว”? เท่านั้น
 
เรื่องแบบนี้ พรรคเพื่อไทยคงมีเหตุผลอธิบายความจำเป็นนานัปการ และสุดท้าย ตัวแทนของพรรค ก็จะสรุปว่า จำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้ ประชาชนก็มีทั้งชอบ ทั้งไม่ชอบ ประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ย่อมมีเสรีภาพในการวิจารณ์ และสุดท้าย ก็มีโอกาสตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นอกจากนี้ ณ เวลานี้ เขาก็รวมตัวกันตั้งรัฐบาลกันไปแล้วถึงสองครั้งด้วย
 
ณ เวลานี้ ที่รัฐบาล “ข้ามขั้ว” กำเนิดมาปีเศษแล้ว จึงมิใช่แค่ถามว่า “ทำไมต้องข้ามขั้ว” แต่ ต้องเพิ่มเติมว่า “ข้ามขั้วแล้วได้อะไร”
เมื่อตัดสินใจตั้งรัฐบาลแบบนี้แล้ว ได้ทำเรื่องเหล่านี้บ้างหรือยัง ได้ลองผลักดัน พยายามทำเรื่องเหล่านี้บ้างหรือไม่ ได้ใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถบ้างหรือไม่
 
หรือไม่ทำ ไม่คิดทำ จงใจลืมที่จะทำ ทำแบบกล้าๆกลัวๆ ลักปิดลักเปิด ทำแล้วถอยเพราะกลัว
เรื่องเหล่านี้ก็เช่น
 
นิรโทษกรรม (วันนี้ แม้กระทั่งแค่รายงาน กมธ. ก็ถอยอีกแล้ว)
แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา (ถอยแล้ว)
แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ (โยนให้ สว และประชามติ ไม่ทันมีรัฐธรรมนูญใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า)
ผลักดันใช้ระเบียบราชทัณฑ์ นำนักโทษคดี 112 และคดีการเมืองมาคุมขังนอกเรือนจำ (ไม่เคยทำเลย)
ยกเลิกเกณฑ์ทหารภาคบังคับ (เงียบ)
ฯลฯ
 
สุดท้าย ที่ไปตั้งรัฐบาลกันแบบนี้ จึงมิใช่ แค่ปัญหา “ข้ามขั้ว” จึงมิใช่เสียสละกลืนเลือด เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า
แต่ “ข้ามขั้ว”
แต่ “กลืนเลือด (ที่รสชาติหวานละมุน)”
 
เพื่อให้ตนเองได้เป็นรัฐบาล โดยยอมรับทุกเงื่อนไข ภายใต้ “แอก” และการขี่คอของพรรคร่วมรัฐบาล ส.ว. องค์กรอิสระ และชนชั้นนำ
สุดท้าย 4 ปี
 
จะไม่ได้อะไรเลย
 
นอกจาก การได้เป็นรัฐบาล แบ่งเค้กกระทรวง
พาคุณทักษิณกลับประเทศไทย
 
และปกป้องมิให้นายกรัฐมนตรีโดนภัยจากคดีความ จนรัฐบาลไม่กล้าคิดทำอะไรเลย
สุดท้าย ที่อ้างกันว่า “เข้าไปมีอำนาจก่อนเพื่อค่อยๆเปลี่ยน” “ทำให้พวกเขาไว้ใจก่อน ถ้านิ่งเมื่อไร เดี๋ยวทำแน่” “พี่เจ็บมาก่อน พี่รู้ดี”
ก็จะกลายเป็นเพียงข้ออ้าง โฆษณาชวนเชื่อ
 
นี่ไม่ใช่ การ “เสียสละ” ยอมโดนด่า เข้าไปเป็นรัฐบาลเพื่อการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย แบบที่ปัญญาชนของพรรคเพื่อไทยอ้างกัน
แต่เป็นการ “เต็มใจ” สนธิกำลังสร้างพลังสกัดการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ.
 
https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/pfbid02nZT3dCK1R7Mn5Es2xDahtLHqejNRMTDw9kz4v3oauSjvF5Lji79QQBMPq7fRbWP6l
 

---

อาจารย์มช. ข้องใจณัฐวุฒิกลับคำ รับกุนซือรบ.ข้ามขั้ว เชื่อจะถูกจำแบบไหน วันเวลาพิสูจน์แน่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4835656

อาจารย์มช. ข้องใจณัฐวุฒิกลับคำ รับกุนซือรบ.ข้ามขั้ว ชี้แค่จะนิรโทษจะยังถูกต้าน เชื่อเรื่องนี้จะถูกจำแบบไหน วันเวลาพิสูจน์ได้แน่
 
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ “เต้น” (ณัฐวุฒิ) โดยมีเนื้อหาดังนี้
 
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ “เต้น” (ณัฐวุฒิ)
ได้ยินไหม
ได้ยินไหม
ได้ยินไหม
 
แม้จะไม่ได้รู้จักกันการส่วนตัว แต่ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ติดตามฟังการปราศรัย การวิเคราะห์ การแสดงท่าทีของคุณ “เต้น” มาอย่างต่อเนื่องในเหตุการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง และหากเทียบกับบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงแล้ว ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่มีจุดยืนมั่นคงไม่น้อยไปกว่าหลายคน
ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นคนทำงานให้กับพรรคเพื่อไทย ด้วยฐานะของขุนพลคนสำคัญในระหว่างการเสียง เพื่อรวบรวมและกระตุ้นคนเสื้อแดงให้ยังคงสนับสนุนต่อพรรคเพื่อไทย รวมทั้งคำสัญญาในการคืนความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดง อย่างไรก็ตาม เขาได้ยุติบทบาทเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยเมื่อได้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่ นำโดยเศรษฐา ทวีสิน แบบตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว

ผมจึงแปลกใจ เมื่อมีการประกาศรายชื่อณัฐวุฒิ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

เราก็ต่างเห็นกันอยู่ว่า รัฐบาลชุดนี้ประกอบไปด้วยนักการเมืองที่มาจากขั้วตรงกันข้ามแบบไม่อาจผสมกันได้ ทั้งหลายคนที่ดำรงตำแหน่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เคยกระทำย่ำยีต่อคนเสื้อแดงทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และที่เสียชีวิตไปแล้ว
 
ไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่า อะไรเป็นแรงดลใจให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ต้องมานำ ซึ่งคำถามอย่างมากจากคนจำนวนมาก คิดหรือว่าเงื่อนไขที่รายล้อมรัฐบาลอยู่ขณะนี้จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำอะไรได้มากไปกว่าการแจกเงิน ลองนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ (และองค์กรอิสระอีกจำนวนมาก) ที่พร้อมจะลงดาบได้ตลอดเวลาที่มีสัญญาณ พรรคร่วมรัฐบาลที่เคยเป่านกหวีดมาอย่างสุดแรงที่ขวางนิรโทษกรรมอย่างชัดเจน รวมทั้งผู้นำรัฐบาลที่ไร้ความจัดเจนทางการเมือง ทั้งหมดนี้จะไม่ได้ทำให้การทำงานกับรัฐบาลสามารถกรุยทางไปสู่การเปลี่ยนแปลง หรือปฏิรูปอะไรได้แม้แต่น้อย
 
คุณเต้น อาจมองโลกในแง่ดี ด้วยการคิดว่า จะเป็นโอกาสในการใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในการประคับประคองรัฐบาลให้เดินหน้าต่อไป บทบาทของตนเองจะไม่ได้เป็นแค่ผักชีโรยหน้าให้กับพรรคเพื่อไทยในห้วงเวลานี้
 
ถ้าคิดในแง่มุมดังกล่าว ผมอยากท้าให้ลองเริ่มต้นด้วยการเสนอแนะความเห็นว่า ให้ตามตัว ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีตากใบกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม เหตุการณ์ตากใบเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมากต่อสังคมไทย รวมถึงเป็นบาดแผลทั้งกับคุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทย การคืนความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสียที่ผ่านไปเกือบครบ 20 ปี พวกเขาเหล่านั้นสมควรได้รับความยุติธรรมอย่างที่ควรจะเป็นเสียที
 
ถ้าลำพังการตามตัว ส.ส. ในพรรคให้กลับมาขึ้นศาลยังไม่อาจกระทำได้ ก็น่าจะเป็นคำตอบให้คุณเต้น ได้ว่าความคาดหวังต่อเรื่องอื่นๆ มันจะมีผลลงเอยในแบบใด
 
หลังจากเหตุการณ์พฤษภาเลือดเมื่อ พ.ศ. 2553 มีคนจำนวนมากได้เสียชีวิต และสูญหายไปจากผู้คนที่รายรอบ และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่แม้จะไม่เสียชีวิต แต่เขาก็ได้สูญหายไป จากความรู้สึกของคนที่รู้จัก ได้แต่หวังว่าคุณเต้น จะยังคงมีชีวิตอยู่ให้เป็นที่จดจำของผู้คนได้อยู่ต่อไป

ด้วยความปรารถนาดี
สมชาย ปรีชาศิลปกุล

https://www.facebook.com/lawlawcmcm/posts/pfbid02QUk3UWXxRhCjuq2igp9bz7K8cWYHySyRSfhopvdxKquUtKyLy83spSf2ZsHsFhEgl

---

บางบาลระทม น้ำขึ้นรายชั่วโมง ถนนบ้านเรือน จมน้ำ วอนชลประทานแจ้งข้อมูลตามจริง
https://www.matichon.co.th/region/news_4836102

ชาวบางบาลระทม น้ำขึ้นรายชั่วโมง 10 เซนติเมตร ถนนบ้านเรือนประชาชนจมน้ำวอนชลประทานแจ้งข้อมูลตามจริง
 
วันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชน ใน ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าแม่น้ำเจ้าพระยาได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมภายในชุมชน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำที่ 2,199 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มจะเพิ่มการะบายน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก ส่งผลทำให้ถนนในชุมชนถูกน้ำท่วมสูง ประมาณ 1-3 เมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ บ้านเรือนถูกนำท่วมสูงหลายคังคาเรือรน้ำท่วมพื้นบ้าน
 
นายบัญชา ปั่นดี อายุ 54 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า เฉพาะหมู่ที่ 4 บ้านเรือนประชาชน ถูกน้ำท่วมมาได้ประมาณ2 เดือน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก บ้านเรือนที่ปลูกติดริมแม่น้ำระดับน้ำสูงเกือบ 3 เมตร ถนนภายในชุมชนถูกน้ำท่วมซึ่งเหลือเพียงเมตร1 เมตรกว่า ก็จะเท่ากับระดับน้ำปี 2565 อยากฝากถึงกรมชลประทาน ให้การแจ้งเตือนเรื่องของการระบายน้ำเป็นข้อมูลที่เท็จจริง ชัดเจน ชาวบ้านได้เตรียมตัวได้ทัน บางบ้านเตรียมตัวไม่ทันเพราะต้องไปทำงาน
 
ซึ่งบ้านบางหลัง มีฐานะไม่ดี ก็จะไม่ได้มีโอกาสดีดบ้านหนีน้ำ ต้องใช้ภูมิปัญญา ชาวบ้าน ในการใช้ไม้กระดานเสริมในตัวบ้านเพื่อยกพื้นหนีน้ำแบบถาวร ถึง 2 ชั้น โดยไม่มีการรื้อออกเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ รองรับน้ำและจะถูกน้ำท่วมทุกปีมากน้อย ชาวบ้านจะปรับตัวตามสถานการณ์น้ำยกของขึ้นที่สูง
ปัจจุบันนี้ ระดับน้ำยังคงขึ้นต่อเนื่องนับเป็นราย ชั่วโมง นับ 3 ชั่วโมง ระดับจะขึ้นทีละ 10 เซนติเมตร และคาดการณ์ว่าจะขึ้นต่อเนื่องทั้งวัน ชาวบ้านต้องอยู่อย่างลำบาก เข้าออกใช้เรือเป็นพาหนะ น้ำท่วมทำให้ถนนเส้นทางในชุมชนยังคงจมบาดาล รถยนต์ยานพาหนะต่างๆต้องจอดอยู่บนถนนกันมานานนับเดือน
 
ส่วนนางอารุณ อายุ 75 ปี กล่าวว่า น้ำท่วมทุกปีก็ลำบากทุกปี ไม่ว่าจะกิน จะนอน เพราะรถขายของไม่สามารถเข้าไปขายด้านในซอยได้เพราะถูกน้ำท่วมตนเองจึงต้องพายเรือออกมาริมถนนไกลกว่า 100 เมตรเพื่อออกมาซื้ออาหารเข้าไปกินในบ้านยอมรับว่าลำบากมากแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องทนและอยู่กับน้ำให้ได้