กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ยอมรับค่ายรถกุมขมับเร่งผลิต EV ชดเชยตามมาตรการ EV 3.0 ที่ 1 เท่าอาจไม่ทันตามที่ตกลงไว้ ยกยอดปี 2567 หนักกว่าต้องชดเชย 1.5 เท่า จับตาความพร้อมแต่ละโรงงานทำหืดจับหนักกว่าเดิม หวังกำลังซื้อไตรมาสสุดท้ายข้ามถึงปีหน้า ด้าน “บีโอไอ” รอลุ้นบอร์ด EV ชุดใหม่ครบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ วันที่ 4 ตุลาคม 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า บริษัทค่ายรถที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ภายใต้มาตรการ EV 3.0 (สิ้นสุดมาตรการปี 2566) อยู่ระหว่างการรวมตัวเพื่อขอเข้าพบและหารือกับรัฐบาลใหม่ ขอขยายเงื่อนไขการผลิตชดเชย เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่เป็นไปตามเป้า จึงมีผลต่อยอดการผลิต
ซึ่งตามเงื่อนไขของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ระบุว่า สำหรับโครงการลงทุนของบริษัทค่ายรถ EV ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น ในปี 2567 ให้บริษัทเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 คัน หรือ 1 เท่า เพื่อชดเชยตามปริมาณรถสำเร็จรูปที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และต้องผลิตชดเชยในอัตรา 1 ต่อ 1.5 คัน หรือ 1.5 เท่า ภายในปี 2568 คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะมาการประชุมร่วมกันหลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เสร็จ
ซึ่งหากดูจากการผลิตรถยนต์เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 119,680 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ถึง 20.56% ส่วนที่ผลิตขายในประเทศและผลิตเพื่อส่งออกก็ลดลงเช่นกัน ทำให้ยอดผลิตรวม 8 เดือน (มกราคม-สิงหาคม 2567) รวม 1,005,749 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 17.69% มาในส่วนของยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) เฉพาะเดือนสิงหาคม 2567 มีการจดทะเบียนใหม่ 8,804 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 3% แต่เมื่อดูตัวเลข 8 เดือน (มกราคม-สิงหาคม 2567) BEV จดทะเบียนใหม่สะสม 69,047 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 17.34% รวมแล้ว BEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จดทะเบียนทั้งสิ้น 200,109 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 120.13%
“สิ่งที่ต้องติดตามคือเรื่องของความพร้อมของโรงงานในการเร่งการผลิตสำหรับปี 2568 มากกว่า เพราะเขาให้ผลิตชดเชยอัตราส่วน 1 : 1.5 คัน ซึ่งก็เป็นยอดที่สูง หากวิเคราะห์จากสถานการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อยังไม่มี สถาบันการเงินยังไม่ผ่อนคลายกฎระเบียบการปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าปีนี้ปีหน้าจะยังพอมีเวลาที่ต้องผลิตชดเชย แต่ก็ถือว่าผิดเงื่อนไข เขาจึงต้องหารือให้รัฐบาลขยายเวลาให้ ซึ่งต้องรอดูว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือยังไง แต่ถ้าผลิตปีนี้ไม่ทันก็ไปทบกับปีหน้าได้ คาดว่ายังทันอยู่ สถานการณ์ตอนนี้ค่ายรถยนต์หลายค่ายที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ก็เริ่มจะผลิตเพื่อส่งออกและขยายภายในประเทศด้วย ตอนนี้รัฐบาลเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงครึ่งปี 2567 รวมถึงที่ประชุมสภาอนุมัติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 แล้ว อาจทำให้กำลังซื้อกลับมาบ้าง”
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ขณะนี้ทางบีโอไอได้อยู่ระหว่างการเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ในคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) ซึ่งเดิมบีโอไออยู่ในฐานะกรรมการและเลขานุการ
โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน แต่ในรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่ทราบว่าโครงสร้างแต่ละหน่วยงานใครจะอยู่ในตำแหน่งใด อย่างไรก็ตาม หากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเสร็จแล้ว คาดว่าจะมีการหารือถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับ EV ทั้งหมด ส่วนการจะขยายเงื่อนไขที่เอกชนต้องผลิตรถ EV ชดเชยหรือไม่นั้น ต้องรอให้บอร์ดชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา
ข่าวต้นฉบับ :
https://www.prachachat.net/economy/news-1667451
แหม่...รับเงินเต็ม แต่ขอผลิตนิดนึงก่อนนะ
รอดูท่า ว่ารัฐไท่กั๋วเรา จะกล้าไปปรับบริษัทประเทศมหามิตรมั้ย
บางยี่ห้อ ยังไม่เริ่มสายการผลิตเลย แหม่ จะไปเอายอดที่ไหนมาโปะปีนี้?
หยวนหน่อยน่า ...แพ็กเกจ EV 3.0 ออกฤทธิ์ค่ายรถขอพบรัฐบาล ผลิตชดเชยไม่ทันปีหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวต้นฉบับ : https://www.prachachat.net/economy/news-1667451
แหม่...รับเงินเต็ม แต่ขอผลิตนิดนึงก่อนนะ
รอดูท่า ว่ารัฐไท่กั๋วเรา จะกล้าไปปรับบริษัทประเทศมหามิตรมั้ย
บางยี่ห้อ ยังไม่เริ่มสายการผลิตเลย แหม่ จะไปเอายอดที่ไหนมาโปะปีนี้?