ดูแลแฟนที่ป่วยเต็มที่เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้ แต่แฟนบอกว่าเราดูแลเขาไม่ดีเท่าแม่ของเขา

ตามหัวข้อเลยค่ะ เราคบกับแฟนมา 7 ปี ขอท้าวความตั้งแต่แรกยาวนิดหนึ่งนะคะ ก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ความสัมพันธ์แบบคบซ้อนหลายคนของฝั่งผู้ชาย 

ในครั้งนั้นเราเลือกที่จะให้อภัยและเดินหน้าต่อ แต่หลังจากนั้นเราได้ยินข่าวมาเรื่อย ๆ ว่าแฟนของเรา พยายามติดต่ออีกฝั่งหนึ่งอยู่หลายครั้ง หลายหน ที่ทะเลาะกัน นานกว่า 3 ปี จนฝั่งนั้นมีแฟนใหม่ แฟนเราถึงเลิกโทรไป แต่เราก็รู้สึกไม่ดีมาตลอด แต่ไม่อยากพูดออกไป เพราะคงทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำใจ 

หลังจากนั้นมาเรื่อย ๆ 2 ปีกว่า 3 ปี ก็ใช้ชีวิตด้วยกันปกติ มีทะเลาะกันบ้าง เลิกกันบ้างตามประสา แต่ก็กลับมาคืนดีกัน จนวันนึงความรู้สึกที่มีมันก็เริ่มเปลี่ยนไป ด้วยระยะเวลา และเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราสองคนไม่เข้าใจกัน ไม่ปรับตัวเข้าหากัน 

ด้วยเรารู้สึกว่า เขาออกเที่ยวกับเพื่อนมากเกินไป 1 สัปดาห์ ออกจากบ้านตอนกลางคืนมากกว่า 3 ครั้ง และที่ทำให้เรารู้สึกไม่โอเคก็คือ เขาไม่รักษาคำพูดเลย บอกจะกลับบ้านเวลานั้น เวลานี้ ก็ไม่ทำตามที่พูดหลายครั้ง จนเรารู้สึกเบื่อ ไม่อยากคุยด้วย และเริ่มเฟดตัว ออกไปอยู่บ้านตัวเองเป็นอาทิตย์ นาน ๆ จะกลับมาที่บ้านแฟน เพราะตอนนั้นรู้สึกว่า อยู่บ้านแล้วมันสบายใจกว่า เป็นแบบนี้มานานนับปี 

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรดี ก็เหมือนต่างคนต่างใช้ชีวิต แฟนเราก็ไม่เคยคิดที่จะถามหาเหตุผลว่าทำไมเราไม่ค่อยคุยกัน ชวนคุยด้วยคำพูดก็น้อยลงทุกที แต่เราก็ไม่ซักถามอะไรกลับ หรือเรียกร้องอะไร เพราะมองว่าพูดมาเยอะแล้ว เลยเหนื่อย ไม่อยากทำอะไรต่อ 

จนมาวันหนึ่งช่วงที่คบกันได้ 5 ปี เขาก็ยังมีพฤติกรรมเดิม ๆ อยู่ตลอด ออกเที่ยวกับเพื่อน ไปกินเหล้าบ้านเพื่อน แถมไปต่อบ้านเพื่อนอีกคนเรื่อย ๆ จนหนักเข้าเราก็ไม่ยุ่งเลย ไม่ตาม ไม่โทร 

ไปมีตติ้งกับที่ทำงานนอกบ้าน ถามจะกลับเวลาไหน ก็บอกตลอดว่าไม่รู้เลย ไม่แน่ใจว่าจะกลับกี่โมง เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง เราก็โกรธอีก งอน เพราะมันเริ่มหนักขึ้น จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว 

จนเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะเกิดอีกครั้ง มันก็วนกลับมาอีก มีแชตเฟซบุ๊คผู้หญิงคนหนึ่งทักมาหาเรา บอกว่าแฟนเราอยู่กับเขานะ มานอนด้วยกันหลายคืนแล้ว ไม่มีอะไร แค่อยากมาบอกเฉยๆ 

และก็เป็นเรื่องใหญ่โต สรุปได้เลยว่าเราโดนนอกใจอีกละ ในใจคิดนะว่า ทำไมอะ อีกแล้วหรอ ทำไมต้องเป็นฉันวะ ไม่เข้าใจ 

และเราก็ได้ไปคุย ไปถามแฟนเราว่า คืออะไร และจะเอายังไง ตอนนั้นใจเราจะเลิกกับเขาเลยวันนั้น แต่เขาขอเอาไว้ว่าไม่ได้อยากเลิกกับเรา และไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้น (แต่ไปอยู่ ไปนอนด้วยกันมากกว่า 10 วันเต็ม) ใจเราคือตอนนั้นไม่เชื่อเลย ว่าจะไม่คิดอะไร เพราะขนเสื้อผ้าไปเยอะมาก เหมือนจะฟีลผัวเมีย100%

จนเคลียร์ไปเคลียร์มา แฟนเราก็บอกว่าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นที่เป็นมือที่สาม แต่จะไปเก็บของก่อน และเอาคีย์การ์ดคอนโดไปคืน แต่จะไม่ให้เราไปด้วย เพราะเขาจะเคลียร์เอง 

แต่เหตุการณ์วันนั้นก็เหมือนจะจบไป แต่ก็ไม่ เพราะตอนกลับมาถึงบ้าน แฟนเราบอกว่าจะบล็อคช่องทางติดต่อผู้หญิงคนนั้น แต่สรุปก็ไม่ทำ เราเลยถามว่าทำไมไม่ทำตามที่บอก 

เขาก็แสดงอาการไม่พอใจ และก็ทำสิ่งนั้นให้เราแบบส่ง ๆ ถ้าใครได้เห็นก็มองว่าไม่ได้อยากทำ และไม่ได้อยากเลิกมือที่สามจริง 

สุดท้ายก็เป็นอย่างที่คิด ตลอดเวลานั้นมันก็ยังปลดบล็อค และแอบคุยกันมาตลอด จนกลับไปหากันอีก เราจับได้แบบคาหนังคาเขา และวันนั้นก็จะปล่อยให้อยู่ด้วยกันไปเลย เพราะไม่เอาแล้ว 

แต่ก็เหมือนเดิมค่ะ ใช้คำพูดที่ว่า “ทำผิดไปแล้ว จะขอแก้ตัว ไม่ได้ตั้งใจ” ให้เราให้อภัย และขอโอกาสจากเรา 

แต่อันนี้เราต้องขอโทษทุกคนจริง ๆ ว่าตอนนั้นเราก็ยังรักเขาอยู่ เลยให้โอกาส 

แต่โอกาสที่ให้ไป รู้สึกว่ามันผิดคน ไม่ควรให้คนนี้เลยด้วยซ้ำ 

เพราะการกระทำมันสวนทาง หลังจากออกมาจากคอนโดมือที่สาม ก็ไม่ได้จะปรับตัว หรือแก้ไขอะไรตามที่พูดไว้ 

แต่สิ่งที่ทำคือ ไม่ว่าจะเป็น ท่าทาง ภาษากาย ภาษาใจ มันไม่ได้แสดงออกเลยว่าสำนึก หรือขอโทษเราอย่างจริงใจ แต่แสดงท่าทีเหมือนไม่ชอบเรา ทำอะไรให้ก็ไม่พอใจ ไม่ต้องการให้ทำ เปรียบเทียบเรากับอีกคนแต่ไม่เอ่ยชื่อ

ตอนนั้นบอกเลยว่าก็เสียใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เลยปรับที่ตัวเองก่อน เพราะเราก็มองว่าตัวเราก็ผิดเอง ที่ไม่ใส่ใจ ไม่ยอมพูดอะไรเลย จนทำให้มันเป็นแบบนี้ 

แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อย เหมือนไร้ค่า ไม่มีตัวตน เพราะเขาไม่ได้แสดงความรัก หรือทำอะไรที่ปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานแบบนี้ให้ดีขึ้น 

มีแต่คำพูดว่า ไร้สาระ รำคาญ ไม่อยากฟัง เดินหนี ไม่คุยด้วย ไม่แคร์เราสารพัด ครอบจักรวาลของคำว่าไม่แคร์ ไม่สน นั่นแหละ เหตุผลก็เพราะ ราโทรตาม เวลาออกไปข้างนอก แต่ไม่ได้จิกจนเวอร์ขนาดนั้น ก็โทรปกติแบบที่แฟนกันทำ โทรหาช่วงเที่ยงตอนพักเบรคที่ทำงาน เพื่อแก้ใขทีอย่าง ที่เราละเลยไป แต่อาการที่เห็นคือ ไม่อยากคุย อ้างเรื่องงานตลอด บอกว่าไม่ชอบวิดีโอคอล ไม่ชอบโทรคุย ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหามือที่สามก็ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร 

แต่เราก็ยังไม่ท้อ พยามทำสิ่งนั้นต่อไป เพราะคิดว่าสักวันมันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่ เพราะถ้าอีกคนไม่เดินไปด้วยกัน มันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร เราอดทน พยายามทุกอย่างเพื่อเขา แต่เขาไม่เคยทำเพื่อเรา ผิดเองที่คาดหวังมากเกินไป

หนักสุดก็คือ เปรียบเทียบเรากับคนอื่น ว่าเราไม่ดี ไม่มีความอ่อนโยน และให้ความสำคัญกับคนอื่น ๆ มากกว่า ที่ไม่ใช่เรา รวมถึงเวลาอยู่กับเราเขาจะหน้าบึ้งตึง ไม่มีสายตาที่บอกว่ารักเลย แต่กับคนอื่นเขาจะมีความสุข ร่าเริง ยิ้มหัวเราะปกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรารู้สึกเสียใจ น้อยใจ ว่าทำไมไม่เห็นทำแบบนั้นที่ทำกับคนอื่นให้เราบ้าง 

อีกเรื่องคือ เวลาออกมารับเราจากกลับมหาลัย มาถึงปากซอยเขาก็ทำหน้าบึ้งตึง ไม่พอใจ เหมือนฝืน ไม่เต็มใจที่จะทำ และวันนึงฝนตก แต่ว่าหยุดไปแล้ว เราเลยให้เขาออกมารับหน่อย อาการที่แสดงกลับมาก็คือ ไม่อยากออกฝนตก แต่เราบอกว่าหยุดแล้ว ออกมารับหน่อยได้ไหม เขาก็พิมพ์ตอบกลับมาว่า ไปก็ไปละกัน จะได้ไม่มีปัญหา และก็เหมือนเดิมค่ะ หน้าบึ้ง ไม่มองหน้าเรา ทำแบบนี้มาหลายเดือนตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น เราก็รู้สึกไม่ดีทุกครั้ง ที่มันเป็นแบบนี้ 

จนกลับไปถึงบ้าน เขาก็หน้าบึ้ง ไม่พูดคุยกับเรา เราก็เลยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่า “เบื่อ” ไม่โอเคที่เราให้ออกไปรับตอนฝนตก 

เขาพูดกลับมาว่า จะเปียกก็ต้องเปียกด้วยกันอะไรอย่างนั้น แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ที่ให้ออกมารับเพราะฝนมันหยุดตกแล้ว แต่เขามาพูดแบบนี้ 

เราก็เลยบอกไปว่า ถ้างั้นครั้งต่อไปก็ไม่ต้องก็ได้ ไม่เป็นไร และหลังจากวันนั้นเราก็ไม่พึ่งพาเขาอีกเลย เวลาออกไปไหนก็ขึ้นวินเอง ทั้งไปและกลับ หรือไม่ว่าจะไปไหนก็ตามเราก็จะไปเอง 

หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวต้องทะเลาะกันตลอด ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก หรือ ใหญ่ เพราะเราสังเกตุว่าพฤติกรรมมันไม่ปกติ ปัญหาที่บอกว่าจะแก้ไขก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไร เป็นแบบนี้มาต่อเนื่องปีกว่า แล้วเราเองก็เก็บความรู้สึกแย่ๆ นั้นมาตลอด 

เวลาเรามองหน้าเขา เขาก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ ออกอาการแบบนักเลงโต ถามเราว่า มีอะไรหรอ? มองไรหรอ? มีไรเปล่า บึ้งตึงใส่เราแต่เราก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจ

และยังมีอีกเยอะหลายเรื่องราวที่เล่ายังไงก็ไม่หมด มันเล็กน้อย แต่ก็รุนแรงและฝังใจต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ พีคสุด ๆ เราจะมีปัญหาเรื่องการนอน จะตื่นช่วงกลางดึกเวลาเดิมทุก ๆ วัน หลังจากเกิดเรื่องนั้น เราก็มักจะเห็นเขานอนละเมอ สไลด์หนอน หลายครั้ง แทบทุกคืน เหมือนฝันอะไรอยู่ซักอย่าง แล้วทำแบบนั้น บางคืนมีวิ่งไปต่อในห้องน้ำก็มี หายไปเป็นชั่วโมงกว่าจะออกมา 

บางครั้งก็เห็นทำอุบาทว์ในห้องน้ำ และพูดครางชื่อเป็นมือที่สาม หลายครั้งอีกเช่นกัน บอกเลยภาพนั้นก็ติดตาเรา ทำให้เรายิ่งรู้สึกเกลียด และไม่อยากอยู่กับผู้ชายคนนี้ 

จนวันหนึ่งอยู่ดี ๆ เขาก็เริ่มมาทำดีกับเรา แต่จะว่าเราอคติหรืออะไรก็ได้นะคะ ตอนที่ได้รับสิ่งนั้น หลังจากผ่านมาเกือบสองปี เราเลยไม่รู้สึกอิน และดีใจกับสิ่งที่เขาทำให้เลย เหมือนกับความรู้สึกมันเสียไปเยอะแล้ว เลยเอากลับคืนมายาก ก็ปล่อยให้เวลาผ่านไป 

โอเคค่ะ เข้าเรื่องที่เป็นอีกปัญหา และทำให้เรารู้สึกสงสัยในตัวเอง ว่าต้องทำยังไงถึงจะดีพอ?

ล่าสุดเขาป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำใส้ ต้องแอดมิตที่โรงพยาบาล เราก็เดินทางไปหาเขาทุกวันหลังเลิกงาน ตลอด 7 วัน ด้วยรถสาธารณะ โดยใช้เวลาประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง ทั้งไปและกลับ ไปกินข้าวด้วย ซื้อข้าวให้กิน เพราะที่โรงพยาบาลเขาไม่กินข้าวเลย เราก็เลยซื้อของที่ชอบไปให้ แต่ก็กินได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะเขากินไม่ค่อยลง 

แต่ระหว่างนั้นเราก็ต้องกลับไปที่บ้านด้วย เพราะยายเราก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน 

จนออกจากโรงพยาบาล เราก็ไปรับเหมือนเดิม และต่อเนื่องกันก็ต้องมีนัดพบหมออีกเว้นสัปดาห์ เพื่อตรวจโรคอื่น ๆ เพิ่มเติม บางวันต้องตื่นเช้า ตี 5 ของทุกวันเสาร์ เราไม่ได้พักเลยวันหยุด ก็รู้สึกเหนื่อยนะคะ แต่เราก็ไม่ได้บ่น หรือ พูดว่าไม่อยากไปซักคำ ก็ไปด้วยทุกครั้ง 
รวมถึงวันธรรมดา ที่ต้องทำงานบางวันเราก็ไปบ้าง มีไม่ได้ไปเพราะติดประชุม เขาเลยต้องไปคนเดียว 

ระหว่างนั้นเขาก็ได้ยากลับมากินที่บ้าน เราก็ทำหน้าที่เดิม จัดยาใส่กล่องให้ ดูแลเรื่องอาหารให้ แนะนำเมนูบางอย่างสำหรับคนป่วยโรคนั้น ๆ กิน แต่เขาก็ไม่ค่อยรับเท่าไหร่ จะกินแต่เมนูที่ชอบ กับอาหารที่อยากทานเท่านั้น เราก็ไม่ได้บังคับอะไร เพราะคิดว่าไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น 

ด้วยผลข้างเคียงของยา ก็ทำให้เขารู้สึกคลื่นใส้ อาเจียน ไม่มีแรง เอาแต่นอน เราก็ไม่ได้อะไรเพราะก็ทราบดี แค่คืนนั้นที่เขานอน เราเองก็ปลุกให้ลุกขึ้นมากินยา แล้วก็นอนต่อซะ แต่ก็ไม่ยอมลุกเลย เรียกอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ลุก แต่ลืมตาขึ้นมาพูดคำหยาบใส่เรา แล้วก็ไม่ลุก 

จนเราเหนื่อย ก็ไม่ได้เรียกต่อ ก็กลับมานอนที่เตียง จนกลางดึกก็ได้ยินเสียงเขาอาบน้ำ กินยา และก็ได้ยินเสียงอาเจียนเหมือนเดิม 

และเช้าอีกวันเราก็ไม่ได้คุยอะไรกัน ช่วงเย็นก็คุยกันว่า ทำไมเราไม่เข้าใจคนป่วยหรอ เราก็เลยบอกไปว่าเราแยกไม่ออกเลย เพราะนิสัยเดิม กับอาการตอนนี้มันไม่ต่างกันเลย อีกอย่างพยายามเรียกหลายครั้งแล้ว แต่ทำไมไม่ยอมตื่น แถมพูดจากวนประสาทอีก เลยไม่อยากยุ่ง ก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน 

เขาก็พูดกลับมาอีกว่าแบบนี้มันทำให้เขา นึกถึงใครรู้ปะ 

เราก็ถามว่าใคร?

เขาก็บอกว่าแม่ ถ้าเป็นแม่เขาคงต้องให้เขาตื่นกินยาให้ได้แน่อะ ไม่ปล่อยแบบนี้

เราก็เลยตอบไปว่า งั้นไปอยู่กับแม่มั้ย? เพราะเราดีไม่พอหรอก พยายามเท่าไหร่มันก็ไม่พอดีอยู่แล้ว ก็ท้อเป็นเหมือนกัน 

เขาก็ตอบว่า “ก็คิดนะ” เราก็ตอบไปว่า ไปอยู่กับแม่ก็ได้ จะได้ไม่มีปัญหา เพราะทางนี้ก็ทำดีที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องเป็นคนแบบไหนแล้วด้วย 

เขาก็ตอบว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ 

เราก็เลยสับสนว่า จะเอายังไง ถ้าไม่ดีไม่ถูกใจ ไม่เห็นค่าอะไร ทำไมไม่ไปอยู่ที่ตัวเองพอใจ 

เรายินดีถอนตัวอยู่แล้ว ไม่มีข้อแม้อะไร เพราะก็รู้ตัวดีว่าดีไม่พอ เสียความรู้สึกมาเยอะก็อยากจะพอแล้ว 

ความจริงเราก็มีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วค่ะ ว่าจะเอายังไง 

แต่มาระบายเพื่ออยากรู้ว่า เราก็ผิดใช่ไหม ที่ทำหน้าที่แฟนไม่ได้ดีมากตะโกนขนาดนั้น จนเขาต้องรู้สึกชอบ หรือพอใจ เราพยายามเต็มที่แล้วจริง ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่