ความจริงถ้าจริงก็คงจะไม่ปลื้มไม่พอใจ"ฮุนเซน"ผู้เป็นพ่อมากกว่าเพราะทองคาพยพการขับเคลื่อนของกัมพูชาตอนนี้ยังไงเสียก็"ฮุนเซน"ผู้พ่อยังกำกับอยู่คล้ายๆกับประเทศที่ติดๆกันอยู่...ดังนั่นข่าวที่ออกมามาว่า"สีไม่ปลื้มสีไม่ทน"กับนายกกัมพูชาส่วนตัวก็ว่าน่าจะมีมูลเพราะก่อนที่"ฮุนเซน"เปลี่ยนถ่ายอำนาจมาสู่ลูกนั่นกัมพูชาก็จะคล้ายๆ"ลาว"เหมือนเป็นมลฑลๆหนึ่งการขับเคลื่นทางสังคม,การค้าขายเสมือน"จีน"ครอบคลุมหมดโดยเฉพาะการสร้างเมือง"สีหนุวิลล์"ที่นักลงทุนจีนเข้าไปทุ่มทุนสร้างดูแล้วน่าจะใหญ่ก่วา"คิงโรมัน"ในลาว แล้วอยู่ๆก็เหมือนทุนจีนยกทัพกลับในช่วง"โควิด"จนป่านนี้เมืองนี้ก็เสมือนเมืองร้าง..ตึก,ถนนหนทางสาธารณูปโภคอื่นๆถูกปล่อยทิ้งกลางครัน นี่หลังโควิดมาสองปีก่วาแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า นี่แค่การลงทุนสร้างเมืองเพื่อดำเนินธุรกิจของจีนในกัมพูชาเมืองเดียวยังมีเมืองท่าชายทะเลที่จีนไปสร้างลงทุนเพื่อรับการท่องเที่ยว แต่ก็อาจจะมีปัจจัยนอกในอย่างอื่นที่เงียบไม่บูมอย่างที่จะเป็นคิดว่านักลงทุนก็คงกระอักเลือดกับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นที่น่าสังเกตุคือช่วงปีสองปีมานี้กัมพูชาร่วมกับไทยทำการปราบปราม"แก๊งหลอกลวงคอนเซนเตอร์จีน"อย่างหนักหน่วงมีการจับกุมกันทั้งในตัวเมืองและตามชายแดนไทยเมืองที่เป็น"บ่อนการพนัน"จนต้องย้ายหนีไปเปิดศูนย์บัญชาแห่งใหม่แถบชายแดนอีสาน(ช่องจอม,สุรินทร์)หรือขึ้นไปแถวเขตชนกลุ่มน้อยขายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นเขตที่จีนมีอิทธิพลกับชนกลุ่มน้อยที่ว่า(กะเหรี่ยง KNA) วกกลับที่รัฐบาลมหม่กัมพูชาซึ่งนายก..ที่จบการศึกษา รร.นายร้อยจากสหรัฐและดูเหมือนจะโปรตะวันตกค่อนข้างเต็มตัว
สิ่งนี้ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายค่างประเทศที่เอนไปหาสหรัฐและฝ่ายตะวันตกจนสร้างความไม่พอใจใน"จีน"ก็เป็นได้.