ธปท.ยอมรับ แทรกแซงเงินบาท เนื่องจากบาทแข็ง

ธปท.ยอมรับแทรกแซงเงินบาท เนื่องจากบาทแข็ง แจงเหตุต้องเข้าไปดูแล เพราะถือเป็นหนึ่งในการดูแลเสถียรภาพด้านราคา ก่อนที่เงินบาทจะปิดตลาดที่ระดับ 32.19/20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/9) ที่ระดับ 32.33/345 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/9) ที่ระดับ 32.39/405 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
โดยคืนวันศุกร์ (27/9) ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.5% ในเดือน ก.ค.
และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้นที่ระดับ 0.1% ในเดือน ส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือน ก.ค. และดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้นที่ระดับ 2.7% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ จากระดับ 2.6% ในเดือน ก.ค.

และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือน ส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือน ก.ค. และวันศุกร์ (27/9) ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมิชิแกนอีกทั้งได้เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 70.1 ในเดือน ก.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 69.3 จากระดับ 69.0 ในเดือน ส.ค. สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดจับตาข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ ถ้อยแถลงเฟด รวมถึงรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิต

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ช่วยบ่ายวันนี้ (30/09) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค. 67 ว่า เศรษฐกิจไทยทรงตัวจากเดือนก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกสินค้าปรับตัวดีขึ้น ซึ่งบางส่วนมาจากปัจจัยชั่วคราว ด้านการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน

อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวชะลอลงตามรายรับ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน ลดลงจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว ส่วนหนึ่งมาจากสินค้าคงคลังในหลายหมวดยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ลดลงจากหมวดพลังงานเป็นสำคัญ จากผลของฐานและราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่ลดลงตามราคาตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากหมวดอาหารเป็นสำคัญ
พร้อมระบุว่า เมื่อเงินบาทมีความผันผวนเร็วและแรง การเข้าไปดูแลค่าเงินเป็นสิ่งที่ ธปท.จะต้องดำเนินการ เพราะถือเป็นหนึ่งในการดูแลเสถียรภาพด้านราคา ขณะเดียวกันก็ดูการทำงานของตลาดด้วยว่า Demand และ Supply ยังทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากเห็นจุดไหนที่การทำงานไม่ปกติ ธปท.ก็จะเข้าไปดูแลด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ในระหว่างวันบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 32.15-32.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.19/20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/9) ที่ระดับ 1.1168/69 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/9) ที่ระดับ 1.1158/60 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สำนักงานแรงงานกลางของเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลในวันศุกร์ที่ผ่านมา (27/9) ว่า จำนวนคนว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป

โดยสำนักงานแรงงานรายงานว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 17,000 คน เป็น 2.82 ล้านคน หลังจากปรับตัวเลขตามฤดูกาลแล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 12,000 คน แม้คนว่างงานจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการว่างงานที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้วยังคงทรงตัวที่ระดับ 6.0%
ส่วนตำแหน่งงานว่างในเดือน ก.ย.อยู่ที่ 696,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลง 65,000 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ในระหว่างวัน ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1.1157-1.1208 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1198/99 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (30/9) ที่ระดับ 142.64/65 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (27/9) ที่ระดับ 143.16/18 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยในวันนี้ (30/09) นายชิเงรุ อิชิบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ประกาศว่า เขาจะยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 ตุลาคม

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเลือกตั้งทั่วไปต้องจัดขึ้นก่อนที่วาระปัจจุบันของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งอิชิบะกล่าวถึงวันเลือกตั้งว่า “ยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี” เพื่อยืนยันถึงเสียงสนับสนุนจากประชาชนหลังจากที่เขาก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ อิชิบะเพิ่งชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเตรียมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในการประชุมสภานิติบัญญัติสมัยพิเศษวันพรุ่งนี้ โดยพรรค LDP และพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคโคเม (Komeito) ครองเสียงข้างมากในทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

โดยในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 141.66-142.95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 142.49/50 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ก.ย. (1/10), ดัชนีภาคการผลิตเดือน ก.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ส.ค. (1/10), ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ย. (2/10), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (3/10) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. (4/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap Point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.3/-7.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -7.25/-6.75 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ... 

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1664244

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่