สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน คือตอนนี้หนูรู้สึกดิ่งกับคำพูดนี้มา 5 เดือนแล้ว และรู้สึกแย่ที่เราโดนว่าต่อหน้าคนในทีม
คือเราเรียนจบสายการพยาบาลมาค่ะ ช่วงไปเรียนคิดว่าเรียนได้ ทำได้ถ้าพยายาม ตอนเรียนก็ง่ายค่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือ ส่วนมากก็สอบผ่านตลอด แต่พอปฎิบัติจริงๆ(ฝึกงาน)ต้องเจอคนจริงๆ มันทำให้รู้เลยว่าเราไม่ได้ชอบอาชีพนี้เลย คือทั้งเก็บอึ เปลี่ยนแพมเพิส ล้างแผล เช็ดตัว อยู่กับเลือด หนอง เสมหะ น้ำลาย ถามว่าเตรียมใจแต่แรกไหม เราเตรียมมาอยู่แล้ว แต่พอเจอจริงๆ บางเคสโอเคเราช่วยได้เราทำได้ ตอนฝึกงานก็ไม่ค่อยแย่ค่ะ เครียด กลัว แต่บางวันก็สนุก
หลังจากเรียนจบก็หาสมัครงาน จนเราได้งานเอกชนที่นึง ได้อยู่ตำแหน่งที่ลดลงมาจากวุฒิที่เราจบ ตอนนั้นอยู่ วอร์ด ICU (ไม่มีพักเที่ยง ว่างๆคือหาเวลากิน) เราได้ทำกะ เช้า ทั้งเดือน คือวอร์ดนี้เครื่องมือเยอะมากๆ เราพึ่งจบใหม่ด้วย ตอนไปทำงานก็โอเคค่ะ พี่ที่ทำงานส่วนพี่มากจะอายุห่างกับเรา 5-15ปี มีรุ่นน้องเราแค่ 1 คน เนี่ยเริ่มกดดันตรงนี้ เราคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นเลย (ส่วนมากเขาก็คุยแต่เรื่องลูก เรื่องข่าว)
หน้าที่เราคือช่วยดูแลคนไข้ เบิกของนับของ ส่งเอกสาร เบิกยา เบิกเลือด ส่งยาที่ไม่หมดคืนห้องยา เอาอุปกรณ์ที่ใช้แล้วลงไปฝากห้องอบ วิ่งขึ้นลงขาลาก
เรามีพี่เลี้ยง คนนี้สอนเราดีมาก แต่ดุมากที่สุด เด็กใหม่ผ่านพี่คนนี้หมด แต่เราเรียนรู้งานช้า ส่วนตัวยอมรับนะว่าเราช้าจริงๆ พี่ก็จะมีวันที่ดุบ้างเรื่องนับเครื่องมือไม่ครบ (ต้องเช็คของ) แต่เราจำอุปกรณ์ในรถฉีดยาไม่ได้ เพราะมีหลายรูปแบบคล้ายๆกัน (ไม่ต้องเช็คจำนวน) ตอนนั้นรวมๆเครื่องมือทุกอย่าง ก็เกือบ ร้อยรายการเลย จนพี่เลี้ยงก็เริ่มบ่นนิดหน่อย เราก็เริ่มใจออก ทักไลน์ไปหาหัวหน้าว่าขอลาออก แบบมันไม่ใช่ทางเราแล้ว หัวหน้าก็ไม่ตอบเลย เราไม่กล้าคุยต่อหน้า รองหัวหน้าแกคงดูท่าทางเราว่าใจออกแน่ๆ เลยทักไลน์มาให้กำลังใจเรายาวมาก เรารู้สึกดีมากจริงๆ
แต่พอทำงานไปเรื่อย เอาจริงเราติดปัญหาคือจำเครื่องมือในรถฉีดยาไม่ได้เลย เครื่องมือรอบตัวอื่นๆก็พอจำได้ เพราะต้องเช็คทุกวันเลยจำได้ แต่ติดอยู่อย่างเดียวเลยคือรถฉีดยา จนพี่เลี้ยงเหมือนหงุดหงิด บอกให้คนอื่นมาสอนแทน ไม่อยากสอนแล้ว ตอนนั้นเราคิดว่าเราทำเต็มที่แล้วนะเว้ย แต่เราไม่เคยรู้จักเครื่องมือนี้มาก่อน สมองจะระเบิดมากเพราะเยอะจริงๆ ลืมหน้าลืมหลัง จดในสมุดเยอะมากๆ
ใช่ค่ะ สุดท้ายเราใจออก ทำได้ 1 เดือน เราเลยไลน์บอกรองหัวหน้า แกเลย บอกหัวหน้าให้ จนได้คุยกับหัวหน้า วันนั้นเป็นสิ้นเดือนพอดี เราเลยบอกว่าเราอยากลาออก อ้างเหตุผลต่างนานาอยากกลับไปทำธุรกิจที่บ้าน(มีจริงๆ หนูแต่อยากลองพึ่งพาตัวเองเลยเรียนเพื่อหางาน) หัวหน้าตอบมาประโยคนึง คือ
โคตรจี๊ดเลย
หัวหน้า: จริงๆเรามี% จะผ่านงานน้อยมากเลยนะ แต่ถ้าจะลาออก ออกสิ้นเดือนนี้ได้เลย (คือวันนี้แหละ)
เราก็เอ๊ะ จริงๆเราต้องแจ้งก่อนออก 1 เดือนรึป่าว เพราะเท่าที่รู้มาต้องแจ้งไว้ก่อน ตอนนั้นคือเสียความรู้สึกมากๆเลย มันเหมือนเราทำงานไม่มีประสิทธิภาพเกินไป เขาให้โอกาสเราแค่ 1 เดือนเองหรอ พอเราขอออกก็ได้ออกวันนั้นเลย ซึ่งใจจริงเราอยากออกเดือนหน้า แจ้งออกไว้ล่วงหน้าก่อนตามความถูกต้อง
เราเลยขอทำงานถึงสิ้นเดือนหน้าได้ไหม แต่ดูทรงหัวหน้าเขาไม่อยากให้ทำเลย เขาเลยให้เราทำครึ่งเดือน เราก็โอเค แต่ได้ทำวอร์ดดูแลผู้สูงอายุแทน วอร์ดสบายมาก ทำเหมือนตอนฝึกงาน จนพี่คนนึงพูดกับเราว่า เป็นงานขนาดนี้ยังจะออกอีกหรอ
จริงๆพี่หลายๆคนก็งงนะว่าทำไมเราถึงจะลาออก ทำไมหัวหน้าให้ทำแค่ครึ่งเดือน ขอไม่ลงดีเทลอะไร สุดท้ายก็ได้ออกค่ะ
ตอนนั้นเสียใจมากที่ทำไมหัวหน้าให้ออกเลย แต่ไม่ติดใจอะไรเพราะหัวหน้ามาตรฐานสูงเราเข้าใจ แต่ก็เสียใจอยู่ดี ส่วนพี่เลี้ยงถึงจะดูดุแต่จริงใจ อยากให้เราเป็นงานไวๆจะได้ช่วยกันได้ ที่นี่ไม่เคยเห็นใครนินทาใครเลยถือว่าดีมาก
มาต่อเอกชนที่ 2 ที่นี่ได้ทำงานตรงตำแหน่งตัวเอง เราได้ทำวอร์ด VIP รวมคนไข้ทุกประเภท เราได้ขึ้น ช บ ด เหมือนคนอื่นปกติเลย มีพี่เลี้ยงที่ตำแหน่งลดลงมาจากเรา(เหมือนที่เก่า) เขาได้มาสอนงานเรา เราไม่ได้เหยียดเรื่องตำแหน่งนะคะ เพราะพี่เขาทำงานเกือบ 10 ปีแล้ว พี่คนนี้ใจดีมาก สอนเราดีพูดจาหวานๆ เป็นมิตรมาก พี่ในทีมก็ยิ้มแย้มอายุก็ 5-10ปีเหมือนเดิมแต่สดใสกว่าที่เก่าเยอะ มีรุ่นน้อง 2 คน โอเคเราชอบที่นี่จัง
ที่นี่เราต้องจำชื่อห้องต่างๆจำว่าในห้องมีฟอนิเจอร์อะไรบ้าง ในห้องๆนี้ แต่ละห้องจะต่างกันออกไป เราได้ทำงานแต่อยู่บนวอร์ด คอยรับสายคนไข้ เอาของไปให้บ้าง เชคขึ้น ดูแลคนไข้ ถือว่าโอเค
เราได้มีโอกาสแชทกับรุ่นน้องที่เคยทำอยู่วอร์ดนี้ น้องบอกว่าให้ดูไปก่อนนะ เราก็ไม่เอะใจอะไร
พออยู่ๆไปก็เห็นคนนินทากันตลอด พูดถึงข้อเสียคนอื่นเรื่องงาน อีกคนไม่อยู่ก็พูดถึงอีกคนว่าทำงานไม่ดี
มีวันนึงเรานับของผิดเพราะจำสลับ พี่คนนึงเดินเชคให้เพราะพี่เลี้ยงเราไม่มา เลยถามเราว่าไม่รู้จักหรอ มันมีหรอ พี่เลี้ยงไม่สอนหรอ เราเลยตอบว่าไม่ได้สอน ยอมรับว่าลืมจริงๆว่าพี่เขาสอนเราแล้ว ไม่ได้กลัวความผิดแล้วตอบปัดๆแต่ลืม
พี่คนนี้เราเคยขึ้นเวรบ่ายด้วย ช่วงพักแกหายไป ชั่วโมงกว่า พี่ที่ขึ้นเวรด้วยกันก็เลยพูดว่า เนี่ยชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่เรื่อย วันไหนไม่ขึ้นกับพี่เลี้ยงเราก็จะชอบขึ้นมาทำงานช้า พี่คนนี้เหมือนชอบคุยกับผู้ชายที่ทำงานในโรงบาล คนวอร์ดเลยพูดว่าทำไมไม่ขึ้นมาจกกันบนห้องล่ะเดี๋ยวเอาผ้าปิดให้ เอ้อออ5555
(พูดตอนนางไม่อยู่)
วันต่อมาพี่เลี้ยงมาทำงานเขาก็เรียกเรามาถามว่าพี่ไม่ได้สอนหรอ พี่ก็สอนไปแล้ว ถ้าลืมก็บอกว่าลืมสิ พี่เสียความรู้สึกนะมาบอกไม่ได้สอน ตอนนั้นเราก็รู้สึกผิด+กับอายพี่ๆในห้องนั้นมาก เพราะทุกคนอยู่กันครบเลย แต่ตอนนั้นเราผิดจริงๆ
หลังจากนี้ก็มีว่าเราบ้าง ต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมตลอด แต่เราก็โอเคปรับปรุงตัว แต่ก็ยังมีช้าๆบ้าง ไม่รู้อะไรบ้าง เพราะต่างจากที่เก่าเหลือเกิน แต่ที่รู้สึกแย่คือ ชอบเปรียบเทียบเรากับคนอื่นซึ่งเป็นรุ่นน้องเรา
น้องคนนี้เคยทำรัฐบาลมา 1 ปีกว่า วอร์ดICU
ส่วนเรา ICU 1 เดือน ดูแลผู้สูงอายุ 15 วัน🫠
ชอบบอกเราว่าเนี่ย ทำไมน้องคนนี้ยังทำได้เลย มาแค่2 เดือนเอง ยังทำได้ เราไม่แอคทีฟตัวเองเลย บลาๆ ทุกครั้งที่เปรียบเทียบ น้องคนนี้จะต้องอยู่ด้วยตลอด โอเค เราช้าจริงๆ แต่ติดใจตรงเปรียบเทียบกับน้องคนนี้ ประสบการณ์เราจริงๆก็เรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้นะ แค่คิดนะว่าน้องมันไม่รู้สึกดีหรอก เอาความเก่งน้องมาเปรียบเทียบกับคนอื่น
(เปรียบเทียบอยู่ 2 ครั้ง ต่อหน้าน้องและคนในทีม)
ช่วงนั้นเราก็คุยกับน้องที่เคยทำงานที่นี่แต่ไม่ได้เล่าอะไรไม่ดี อยู่ดีๆน้องเลยพูดว่าใครไม่อยู่โดน(นินทา) เราเข้าใจเลย
พอทีนี้ใกล้ครบ 1 เดือน เหมือนพี่เลี้ยงโมโหว่าทำไมเราทำงานช้า ทำไมทำจำซักที เดี๋ยวหลงเดี๋ยวลืม แล้วพูดประโยคนึงออกมาว่า “ขอพูดแบบเห็นแก่ตัวนะ พี่อ่ะเงินเดือนน้อยกว่าเรา ทำไมพี่ต้องได้ทำมากกว่าด้วย หรือคิดเหมือนแค่ว่ามาทำงานให้ผ่านไปแล้วได้เงินเดือน อันนี้พี่พูดตรงๆนะจะโกรธก็แล้วแต่เลย”
ใช่ค่ะรอบนี้ก็พูดต่อหน้าคนในทีมเหมือนเดิม สังเกตทุกรอบเวลาที่พี่เลี้ยงว่าเราจะว่าเราต่อในคนในทีมที่อยู่ครบ
เราคิดเลยนะเหนื่อยว่ะ ทำงาน เช้า บ่าย ดึก
เช้า 08.00-16.00
บ่าย 16.00-24.00
ดึก 24.00-08.00
ยังต้องมาเจอแบบนี้หรอ แบบเออเราช้าจริง แต่ต่อหน้าคนอื่นนี่นะ ละดูแต่ละคนปากแซ่บ มี10 นินทาไปแล้ว 8
ใช่ค่ะ ประโยคนี้แบบโคตรจี๊ด ทำทุกวิถีทางอยากลาป่วยว่ะ โอเคเราทำงาน รพ ก็เลยได้สิทธิ์รักษาฟรี ดีมากๆเลยของเอกชน ขนาดพึ่งมาทำงาน วันนั้นเรากะ บ่ายดึก 16.00-8.00 ของอีกวัน ทีนี้จุดพีค เราเหมือนอ้วกเป็นสีดำ 2 วันติด เลยหาเรื่องขอหัวหน้าลงมาตรวจ พอตรวจหมอก็สรุปไม่ได้ แต่จ่ายยามาให้ตามอาการ
พอตอนรับยากับเภสัช เขาเลยถามว่า ปจด มาล่าสุดตอนไหน สรุป ปจดเราขาดไป 9 วันแล้ว จริงๆเรารู้ว่าขาดเพราะมีแอพนับไข่ตก เภสัชเลยเตือนว่ายานี้เป็นอันตรายกับคนท้องนะ ลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะ เราก็อ่ะข้ออ้างละ เบื่อพี่เลี้ยงเข้ากะบ่ายดึกเหมือนเรา เราขอหัวหน้าลา ดึก(00.00-8.00) ดีกว่า ซึ่งวันพรุ่งนี้ก็วันหยุดแต่ขอลาหน่อย อยู่ไปก็บั่นทอน ต้องอดนอนทั้งคืนอีก อยู่ด้วยกันมา 8 ชั่วโมง
รู้สึกเพลียแบบแปลกๆ เหมือนจะไม่สบายตลอดเวลา สงสัยอีอาการอ้วกเป็นสีดำมันทำให้ป่วย แต่หมอสรุปไม่ได้อีกกกก!!!
บอกก่อนนะคะเราชอบซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเวลา ปจด มาช้า พอตรวจ ปจด ก็มาตลอด ทีนี้ก็พูดเล่นๆกับแฟนว่าเนี่ยเรียกอาถรรพ์ที่ตรวจ เราเลยออกไปซื้อที่ตรวจ ซื้อเสร็จก็กลับมานอน
ตื่นเช้ามาโอเคฉี่ตอนเช้าเขาว่าชัวร์
ละ 2 ขีด
กูท้องงงง รีบเดินไปหาแฟนเรียกแฟนมาดู ปกติแฟนจะไม่ยอมตื่น แต่วันนี้ลุกควับ เดินมาดู แล้วพาเราเข้าห้อง แล้วกอดเรา ลูบหัวเรา ไม่พูดอะไรเลย ปรึกษากันนิดหน่อย เหมือนแฟนตกใจและดีใจ แต่เราก็ยังไม่พร้อม แต่เขาก็ดีใจมาก พอผ่านไป 1 ชม. เรามีเลือดเหมือน ปจด เห้ยเดี๋ยวนะ สรุปคือ?? พอตกเย็นมาเราตรวจอีกก็ยัง 2 ขีด
วันต่อมาเราเลยไปหาหมอ รพ รัฐ หมอสรุปว่ามีโอกาสแท้งหรือตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะซาวน์ไปไม่เห็นอะไรเลย เราเลยขอให้หมอออกใบรับรองแพทย์มา เพื่อขอลาออก หมอเขียนว่าตั้งครรภ์ และมีเลือดออกผิดปกติ อืมม เราทำงานมาทั้งเดือนเลยอ่ะ
ขอเล่านะคะ ก่อนทำงาน เราตรวจฉี่ตรวจเลือดแล้วก่อนจะทำงานไม่กี่วันเอง ผลออกมาปกติ ไม่ท้อง
แต่พอทำงานเกือบครบ 1 เดือน เราท้องเลย
ซึ่งเรายังไม่ผ่านโปรแต่ท้อง เลยขอลาออก เพราะร่างกายพังมาก เสียเลือดเยอะ ซึ่งแท้งรึป่าวไม่รู้ แต่รอตรวจอีก หัวหน้าก็เหมือนไม่อยากให้ออก เราเลยบอกว่าเราไม่ไหวเลยตอนนี้ ปวดท้อง ปวดตัว ปวดหลัง แล้วเราก็ต้องขึ้นเวร ช บ ดตามปกติ เพราะยังไม่ผ่านโปร แต่ลึกๆแอบดีใจจะได้ออกไปซักที ไม่อยากขึ้นเวรแล้วเหนื่อยจัง โดนว่าต่อหน้าคนอื่นอายมาก ส่วนคนที่นั่งฟัง ก็ชอบนินทา ด่าคนนั้นคนนี้ในที่ทำงานวันที่เขาไม่มา
ผลสรุปคือได้ออกจริงๆ และเราก็แท้งลูกเรียบร้อย
เรื่องราวก็มีประมาณนี่ค่ะ คือเราเข้าใจนะคะ
ถ้าโดนว่าโดนสั่งสอน ผิดก็ยอมรับ
แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ พูดเรื่องตำแหน่งและเงินเดือน มันรู้สึกแบบ นี่เราผิดมากใช่ไหม ที่มากินแรงกินเงินเดือน ทั้งๆที่เราไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
หรือจริงๆเราอยู่ในสังคม toxic กันแน่
พอเราลาออกไม่กี่เดือนน้องอีกคนในวอร์ดก็ทักมาขอซื้อชุดทำงานต่อ เราเลยนัดรับแล้วก็ถามว่าเป็นไงบ้าง น้องเลยบอกว่า คนที่เข้ามาใหม่อยากลาออกกันมาก อยู่นี่มีแต่คนว่าให้กัน เขาอยู่กันไม่ได้😂
นี่ขนาดเราไม่ได้ถามถึงคนอื่นนะเนี่ย
พอนึกๆแล้ว ก็คิดถึงที่เก่านะคะ ถ้าไม่โฟกัสหัวหน้า พี่ๆร่วมทีมคือดูโอเคเลย ไม่เคยได้ยินเขานินทาใคร
เราจะผ่านความคิดที่โดนว่าแบบนี้ยังไงดีคะ เขาชอบว่าเราต่อหน้าคนในทีม พอเล่าให้ครอบครัวฟัง เขาก็ถามว่าตำแหน่งอะไร เขาตำแหน่งน้อยที่สุดในนั้นแต่เขาอยู่นานค่ะ และไม่ใช่หัวหน้าและรองหัวหน้า ทุกคนเลยบอกว่าไม่ต้องสนใจ
โดนพี่ที่สอนงานว่าต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน
คือเราเรียนจบสายการพยาบาลมาค่ะ ช่วงไปเรียนคิดว่าเรียนได้ ทำได้ถ้าพยายาม ตอนเรียนก็ง่ายค่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือ ส่วนมากก็สอบผ่านตลอด แต่พอปฎิบัติจริงๆ(ฝึกงาน)ต้องเจอคนจริงๆ มันทำให้รู้เลยว่าเราไม่ได้ชอบอาชีพนี้เลย คือทั้งเก็บอึ เปลี่ยนแพมเพิส ล้างแผล เช็ดตัว อยู่กับเลือด หนอง เสมหะ น้ำลาย ถามว่าเตรียมใจแต่แรกไหม เราเตรียมมาอยู่แล้ว แต่พอเจอจริงๆ บางเคสโอเคเราช่วยได้เราทำได้ ตอนฝึกงานก็ไม่ค่อยแย่ค่ะ เครียด กลัว แต่บางวันก็สนุก
หลังจากเรียนจบก็หาสมัครงาน จนเราได้งานเอกชนที่นึง ได้อยู่ตำแหน่งที่ลดลงมาจากวุฒิที่เราจบ ตอนนั้นอยู่ วอร์ด ICU (ไม่มีพักเที่ยง ว่างๆคือหาเวลากิน) เราได้ทำกะ เช้า ทั้งเดือน คือวอร์ดนี้เครื่องมือเยอะมากๆ เราพึ่งจบใหม่ด้วย ตอนไปทำงานก็โอเคค่ะ พี่ที่ทำงานส่วนพี่มากจะอายุห่างกับเรา 5-15ปี มีรุ่นน้องเราแค่ 1 คน เนี่ยเริ่มกดดันตรงนี้ เราคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นเลย (ส่วนมากเขาก็คุยแต่เรื่องลูก เรื่องข่าว)
หน้าที่เราคือช่วยดูแลคนไข้ เบิกของนับของ ส่งเอกสาร เบิกยา เบิกเลือด ส่งยาที่ไม่หมดคืนห้องยา เอาอุปกรณ์ที่ใช้แล้วลงไปฝากห้องอบ วิ่งขึ้นลงขาลาก
เรามีพี่เลี้ยง คนนี้สอนเราดีมาก แต่ดุมากที่สุด เด็กใหม่ผ่านพี่คนนี้หมด แต่เราเรียนรู้งานช้า ส่วนตัวยอมรับนะว่าเราช้าจริงๆ พี่ก็จะมีวันที่ดุบ้างเรื่องนับเครื่องมือไม่ครบ (ต้องเช็คของ) แต่เราจำอุปกรณ์ในรถฉีดยาไม่ได้ เพราะมีหลายรูปแบบคล้ายๆกัน (ไม่ต้องเช็คจำนวน) ตอนนั้นรวมๆเครื่องมือทุกอย่าง ก็เกือบ ร้อยรายการเลย จนพี่เลี้ยงก็เริ่มบ่นนิดหน่อย เราก็เริ่มใจออก ทักไลน์ไปหาหัวหน้าว่าขอลาออก แบบมันไม่ใช่ทางเราแล้ว หัวหน้าก็ไม่ตอบเลย เราไม่กล้าคุยต่อหน้า รองหัวหน้าแกคงดูท่าทางเราว่าใจออกแน่ๆ เลยทักไลน์มาให้กำลังใจเรายาวมาก เรารู้สึกดีมากจริงๆ
แต่พอทำงานไปเรื่อย เอาจริงเราติดปัญหาคือจำเครื่องมือในรถฉีดยาไม่ได้เลย เครื่องมือรอบตัวอื่นๆก็พอจำได้ เพราะต้องเช็คทุกวันเลยจำได้ แต่ติดอยู่อย่างเดียวเลยคือรถฉีดยา จนพี่เลี้ยงเหมือนหงุดหงิด บอกให้คนอื่นมาสอนแทน ไม่อยากสอนแล้ว ตอนนั้นเราคิดว่าเราทำเต็มที่แล้วนะเว้ย แต่เราไม่เคยรู้จักเครื่องมือนี้มาก่อน สมองจะระเบิดมากเพราะเยอะจริงๆ ลืมหน้าลืมหลัง จดในสมุดเยอะมากๆ
ใช่ค่ะ สุดท้ายเราใจออก ทำได้ 1 เดือน เราเลยไลน์บอกรองหัวหน้า แกเลย บอกหัวหน้าให้ จนได้คุยกับหัวหน้า วันนั้นเป็นสิ้นเดือนพอดี เราเลยบอกว่าเราอยากลาออก อ้างเหตุผลต่างนานาอยากกลับไปทำธุรกิจที่บ้าน(มีจริงๆ หนูแต่อยากลองพึ่งพาตัวเองเลยเรียนเพื่อหางาน) หัวหน้าตอบมาประโยคนึง คือ โคตรจี๊ดเลย
หัวหน้า: จริงๆเรามี% จะผ่านงานน้อยมากเลยนะ แต่ถ้าจะลาออก ออกสิ้นเดือนนี้ได้เลย (คือวันนี้แหละ)
เราก็เอ๊ะ จริงๆเราต้องแจ้งก่อนออก 1 เดือนรึป่าว เพราะเท่าที่รู้มาต้องแจ้งไว้ก่อน ตอนนั้นคือเสียความรู้สึกมากๆเลย มันเหมือนเราทำงานไม่มีประสิทธิภาพเกินไป เขาให้โอกาสเราแค่ 1 เดือนเองหรอ พอเราขอออกก็ได้ออกวันนั้นเลย ซึ่งใจจริงเราอยากออกเดือนหน้า แจ้งออกไว้ล่วงหน้าก่อนตามความถูกต้อง
เราเลยขอทำงานถึงสิ้นเดือนหน้าได้ไหม แต่ดูทรงหัวหน้าเขาไม่อยากให้ทำเลย เขาเลยให้เราทำครึ่งเดือน เราก็โอเค แต่ได้ทำวอร์ดดูแลผู้สูงอายุแทน วอร์ดสบายมาก ทำเหมือนตอนฝึกงาน จนพี่คนนึงพูดกับเราว่า เป็นงานขนาดนี้ยังจะออกอีกหรอ
จริงๆพี่หลายๆคนก็งงนะว่าทำไมเราถึงจะลาออก ทำไมหัวหน้าให้ทำแค่ครึ่งเดือน ขอไม่ลงดีเทลอะไร สุดท้ายก็ได้ออกค่ะ
ตอนนั้นเสียใจมากที่ทำไมหัวหน้าให้ออกเลย แต่ไม่ติดใจอะไรเพราะหัวหน้ามาตรฐานสูงเราเข้าใจ แต่ก็เสียใจอยู่ดี ส่วนพี่เลี้ยงถึงจะดูดุแต่จริงใจ อยากให้เราเป็นงานไวๆจะได้ช่วยกันได้ ที่นี่ไม่เคยเห็นใครนินทาใครเลยถือว่าดีมาก
มาต่อเอกชนที่ 2 ที่นี่ได้ทำงานตรงตำแหน่งตัวเอง เราได้ทำวอร์ด VIP รวมคนไข้ทุกประเภท เราได้ขึ้น ช บ ด เหมือนคนอื่นปกติเลย มีพี่เลี้ยงที่ตำแหน่งลดลงมาจากเรา(เหมือนที่เก่า) เขาได้มาสอนงานเรา เราไม่ได้เหยียดเรื่องตำแหน่งนะคะ เพราะพี่เขาทำงานเกือบ 10 ปีแล้ว พี่คนนี้ใจดีมาก สอนเราดีพูดจาหวานๆ เป็นมิตรมาก พี่ในทีมก็ยิ้มแย้มอายุก็ 5-10ปีเหมือนเดิมแต่สดใสกว่าที่เก่าเยอะ มีรุ่นน้อง 2 คน โอเคเราชอบที่นี่จัง
ที่นี่เราต้องจำชื่อห้องต่างๆจำว่าในห้องมีฟอนิเจอร์อะไรบ้าง ในห้องๆนี้ แต่ละห้องจะต่างกันออกไป เราได้ทำงานแต่อยู่บนวอร์ด คอยรับสายคนไข้ เอาของไปให้บ้าง เชคขึ้น ดูแลคนไข้ ถือว่าโอเค
เราได้มีโอกาสแชทกับรุ่นน้องที่เคยทำอยู่วอร์ดนี้ น้องบอกว่าให้ดูไปก่อนนะ เราก็ไม่เอะใจอะไร
พออยู่ๆไปก็เห็นคนนินทากันตลอด พูดถึงข้อเสียคนอื่นเรื่องงาน อีกคนไม่อยู่ก็พูดถึงอีกคนว่าทำงานไม่ดี
มีวันนึงเรานับของผิดเพราะจำสลับ พี่คนนึงเดินเชคให้เพราะพี่เลี้ยงเราไม่มา เลยถามเราว่าไม่รู้จักหรอ มันมีหรอ พี่เลี้ยงไม่สอนหรอ เราเลยตอบว่าไม่ได้สอน ยอมรับว่าลืมจริงๆว่าพี่เขาสอนเราแล้ว ไม่ได้กลัวความผิดแล้วตอบปัดๆแต่ลืม
พี่คนนี้เราเคยขึ้นเวรบ่ายด้วย ช่วงพักแกหายไป ชั่วโมงกว่า พี่ที่ขึ้นเวรด้วยกันก็เลยพูดว่า เนี่ยชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่เรื่อย วันไหนไม่ขึ้นกับพี่เลี้ยงเราก็จะชอบขึ้นมาทำงานช้า พี่คนนี้เหมือนชอบคุยกับผู้ชายที่ทำงานในโรงบาล คนวอร์ดเลยพูดว่าทำไมไม่ขึ้นมาจกกันบนห้องล่ะเดี๋ยวเอาผ้าปิดให้ เอ้อออ5555
(พูดตอนนางไม่อยู่)
วันต่อมาพี่เลี้ยงมาทำงานเขาก็เรียกเรามาถามว่าพี่ไม่ได้สอนหรอ พี่ก็สอนไปแล้ว ถ้าลืมก็บอกว่าลืมสิ พี่เสียความรู้สึกนะมาบอกไม่ได้สอน ตอนนั้นเราก็รู้สึกผิด+กับอายพี่ๆในห้องนั้นมาก เพราะทุกคนอยู่กันครบเลย แต่ตอนนั้นเราผิดจริงๆ
หลังจากนี้ก็มีว่าเราบ้าง ต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมตลอด แต่เราก็โอเคปรับปรุงตัว แต่ก็ยังมีช้าๆบ้าง ไม่รู้อะไรบ้าง เพราะต่างจากที่เก่าเหลือเกิน แต่ที่รู้สึกแย่คือ ชอบเปรียบเทียบเรากับคนอื่นซึ่งเป็นรุ่นน้องเรา
น้องคนนี้เคยทำรัฐบาลมา 1 ปีกว่า วอร์ดICU
ส่วนเรา ICU 1 เดือน ดูแลผู้สูงอายุ 15 วัน🫠
ชอบบอกเราว่าเนี่ย ทำไมน้องคนนี้ยังทำได้เลย มาแค่2 เดือนเอง ยังทำได้ เราไม่แอคทีฟตัวเองเลย บลาๆ ทุกครั้งที่เปรียบเทียบ น้องคนนี้จะต้องอยู่ด้วยตลอด โอเค เราช้าจริงๆ แต่ติดใจตรงเปรียบเทียบกับน้องคนนี้ ประสบการณ์เราจริงๆก็เรียกว่าไม่มีเลยก็ว่าได้นะ แค่คิดนะว่าน้องมันไม่รู้สึกดีหรอก เอาความเก่งน้องมาเปรียบเทียบกับคนอื่น
(เปรียบเทียบอยู่ 2 ครั้ง ต่อหน้าน้องและคนในทีม)
ช่วงนั้นเราก็คุยกับน้องที่เคยทำงานที่นี่แต่ไม่ได้เล่าอะไรไม่ดี อยู่ดีๆน้องเลยพูดว่าใครไม่อยู่โดน(นินทา) เราเข้าใจเลย
พอทีนี้ใกล้ครบ 1 เดือน เหมือนพี่เลี้ยงโมโหว่าทำไมเราทำงานช้า ทำไมทำจำซักที เดี๋ยวหลงเดี๋ยวลืม แล้วพูดประโยคนึงออกมาว่า “ขอพูดแบบเห็นแก่ตัวนะ พี่อ่ะเงินเดือนน้อยกว่าเรา ทำไมพี่ต้องได้ทำมากกว่าด้วย หรือคิดเหมือนแค่ว่ามาทำงานให้ผ่านไปแล้วได้เงินเดือน อันนี้พี่พูดตรงๆนะจะโกรธก็แล้วแต่เลย”
ใช่ค่ะรอบนี้ก็พูดต่อหน้าคนในทีมเหมือนเดิม สังเกตทุกรอบเวลาที่พี่เลี้ยงว่าเราจะว่าเราต่อในคนในทีมที่อยู่ครบ
เราคิดเลยนะเหนื่อยว่ะ ทำงาน เช้า บ่าย ดึก
เช้า 08.00-16.00
บ่าย 16.00-24.00
ดึก 24.00-08.00
ยังต้องมาเจอแบบนี้หรอ แบบเออเราช้าจริง แต่ต่อหน้าคนอื่นนี่นะ ละดูแต่ละคนปากแซ่บ มี10 นินทาไปแล้ว 8
ใช่ค่ะ ประโยคนี้แบบโคตรจี๊ด ทำทุกวิถีทางอยากลาป่วยว่ะ โอเคเราทำงาน รพ ก็เลยได้สิทธิ์รักษาฟรี ดีมากๆเลยของเอกชน ขนาดพึ่งมาทำงาน วันนั้นเรากะ บ่ายดึก 16.00-8.00 ของอีกวัน ทีนี้จุดพีค เราเหมือนอ้วกเป็นสีดำ 2 วันติด เลยหาเรื่องขอหัวหน้าลงมาตรวจ พอตรวจหมอก็สรุปไม่ได้ แต่จ่ายยามาให้ตามอาการ
พอตอนรับยากับเภสัช เขาเลยถามว่า ปจด มาล่าสุดตอนไหน สรุป ปจดเราขาดไป 9 วันแล้ว จริงๆเรารู้ว่าขาดเพราะมีแอพนับไข่ตก เภสัชเลยเตือนว่ายานี้เป็นอันตรายกับคนท้องนะ ลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะ เราก็อ่ะข้ออ้างละ เบื่อพี่เลี้ยงเข้ากะบ่ายดึกเหมือนเรา เราขอหัวหน้าลา ดึก(00.00-8.00) ดีกว่า ซึ่งวันพรุ่งนี้ก็วันหยุดแต่ขอลาหน่อย อยู่ไปก็บั่นทอน ต้องอดนอนทั้งคืนอีก อยู่ด้วยกันมา 8 ชั่วโมง
รู้สึกเพลียแบบแปลกๆ เหมือนจะไม่สบายตลอดเวลา สงสัยอีอาการอ้วกเป็นสีดำมันทำให้ป่วย แต่หมอสรุปไม่ได้อีกกกก!!!
บอกก่อนนะคะเราชอบซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเวลา ปจด มาช้า พอตรวจ ปจด ก็มาตลอด ทีนี้ก็พูดเล่นๆกับแฟนว่าเนี่ยเรียกอาถรรพ์ที่ตรวจ เราเลยออกไปซื้อที่ตรวจ ซื้อเสร็จก็กลับมานอน
ตื่นเช้ามาโอเคฉี่ตอนเช้าเขาว่าชัวร์ ละ 2 ขีด
กูท้องงงง รีบเดินไปหาแฟนเรียกแฟนมาดู ปกติแฟนจะไม่ยอมตื่น แต่วันนี้ลุกควับ เดินมาดู แล้วพาเราเข้าห้อง แล้วกอดเรา ลูบหัวเรา ไม่พูดอะไรเลย ปรึกษากันนิดหน่อย เหมือนแฟนตกใจและดีใจ แต่เราก็ยังไม่พร้อม แต่เขาก็ดีใจมาก พอผ่านไป 1 ชม. เรามีเลือดเหมือน ปจด เห้ยเดี๋ยวนะ สรุปคือ?? พอตกเย็นมาเราตรวจอีกก็ยัง 2 ขีด
วันต่อมาเราเลยไปหาหมอ รพ รัฐ หมอสรุปว่ามีโอกาสแท้งหรือตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะซาวน์ไปไม่เห็นอะไรเลย เราเลยขอให้หมอออกใบรับรองแพทย์มา เพื่อขอลาออก หมอเขียนว่าตั้งครรภ์ และมีเลือดออกผิดปกติ อืมม เราทำงานมาทั้งเดือนเลยอ่ะ
ขอเล่านะคะ ก่อนทำงาน เราตรวจฉี่ตรวจเลือดแล้วก่อนจะทำงานไม่กี่วันเอง ผลออกมาปกติ ไม่ท้อง
แต่พอทำงานเกือบครบ 1 เดือน เราท้องเลย
ซึ่งเรายังไม่ผ่านโปรแต่ท้อง เลยขอลาออก เพราะร่างกายพังมาก เสียเลือดเยอะ ซึ่งแท้งรึป่าวไม่รู้ แต่รอตรวจอีก หัวหน้าก็เหมือนไม่อยากให้ออก เราเลยบอกว่าเราไม่ไหวเลยตอนนี้ ปวดท้อง ปวดตัว ปวดหลัง แล้วเราก็ต้องขึ้นเวร ช บ ดตามปกติ เพราะยังไม่ผ่านโปร แต่ลึกๆแอบดีใจจะได้ออกไปซักที ไม่อยากขึ้นเวรแล้วเหนื่อยจัง โดนว่าต่อหน้าคนอื่นอายมาก ส่วนคนที่นั่งฟัง ก็ชอบนินทา ด่าคนนั้นคนนี้ในที่ทำงานวันที่เขาไม่มา
ผลสรุปคือได้ออกจริงๆ และเราก็แท้งลูกเรียบร้อย
เรื่องราวก็มีประมาณนี่ค่ะ คือเราเข้าใจนะคะ
ถ้าโดนว่าโดนสั่งสอน ผิดก็ยอมรับ
แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ พูดเรื่องตำแหน่งและเงินเดือน มันรู้สึกแบบ นี่เราผิดมากใช่ไหม ที่มากินแรงกินเงินเดือน ทั้งๆที่เราไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
หรือจริงๆเราอยู่ในสังคม toxic กันแน่
พอเราลาออกไม่กี่เดือนน้องอีกคนในวอร์ดก็ทักมาขอซื้อชุดทำงานต่อ เราเลยนัดรับแล้วก็ถามว่าเป็นไงบ้าง น้องเลยบอกว่า คนที่เข้ามาใหม่อยากลาออกกันมาก อยู่นี่มีแต่คนว่าให้กัน เขาอยู่กันไม่ได้😂
นี่ขนาดเราไม่ได้ถามถึงคนอื่นนะเนี่ย
พอนึกๆแล้ว ก็คิดถึงที่เก่านะคะ ถ้าไม่โฟกัสหัวหน้า พี่ๆร่วมทีมคือดูโอเคเลย ไม่เคยได้ยินเขานินทาใคร
เราจะผ่านความคิดที่โดนว่าแบบนี้ยังไงดีคะ เขาชอบว่าเราต่อหน้าคนในทีม พอเล่าให้ครอบครัวฟัง เขาก็ถามว่าตำแหน่งอะไร เขาตำแหน่งน้อยที่สุดในนั้นแต่เขาอยู่นานค่ะ และไม่ใช่หัวหน้าและรองหัวหน้า ทุกคนเลยบอกว่าไม่ต้องสนใจ