ขอให้ข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับ รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ตามนี้ค่ะ
ข้อดี
- เป็น รร.ที่มีประวัติมายาวนาน  
- ค่าเทอมไม่แพง  ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท  ไม่เกิน 3 หมื่น
- สังคมดี  ไม่มีความรุนแรงใน รร.  นักเรียนไม่มีการทะเลาะกันถึงขั้นตบตีใช้ความรุนแรงกัน   แต่อาจจะใช้แบบสงครามประสาทก่อกวนกัน 555      
- มีข้อกำหนดเรื่องระเบียบวินัยเคร่งครัด    นักเรียนต้องถักผมเปีย 2 ข้าง  ผูกโบว์สีขาว  ปลายหางเปียต้องเหลือความยาวประมาณ 1 กำมือ, ห้ามแต่งหน้ามา รร.,  ห้ามไว้หน้าม้า  , แต่งชุดนักเรียนให้ตรงตามระเบียบเคร่งครัด  
- คุณครูดูแลนักเรียนได้ทั่วถึง (รร.เล็ก)  ผู้ปกครองสามารถติดต่อครูประจำชั้นได้โดยตรง  คุณครูมีการสื่อสารกับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี  
- มีหลักสูตรให้เลือกหลายสาย  มีทั้งสายวิทย์ สายศิลป์คำนวณ ศิลป์ภาษา    รร.มีจ้างครูพิเศษข้างนอกมาสอน นร. มัธยมปลายที่เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย  (แต่ก็ยังต้องไปเรียนติวข้างนอกเพิ่มอยู่ดี)   นอกจากนั้นมีหลายวิชาให้นักเรียนมัธยมปลายได้ลองเรียนเพื่อให้ได้รู้ว่าตัวเองชอบหรือถนัดวิชาไหนเพื่อเลือกคณะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย  
- มีสถิติจำนวนนักเรียนติด ม.จุฬา มากเป็นอันดับสองรองจาก รร.เตรียมฯ    (แต่นักเรียนที่ติดส่วนใหญ่จะไม่ใช่สาขาแพทย์,วิศวะ     สาเหตุที่นักเรียนติดจุฬาฯเยอะ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่คิดว่า  สอบติดคณะอะไรก็ได้  แต่ขอให้เป็น ม.จุฬาฯ)  

ข้อเสีย
- รร.มีบริเวณแคบมาก   ไม่สามารถขยายพื้นที่ได้เนื่องจากติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว    ไม่มีเนื้อที่ให้นักเรียนทำกิจกรรมเหมือน รร.อื่น   สนามบาสในอาคารจะเป็นสถานที่ที่ใช้ประโยชน์ทุกอย่างทั้งเข้าแถว  นั่งเล่นเวลาพัก  กินข้าว  ฯลฯ     นอกจากนั้นห้องสมุดก็ไม่กว้างพอที่จะรองรับ นักเรียนได้  ทำให้เวลาเลิกเรียน  นร.จะรีบกลับบ้านกัน  เพราะอยู่กันแน่นมาทั้งวันแล้ว    เวลาดูรูปในเว๊ปไซด์จะสวย  เพราะมีรูปถ่ายเน้นมุมสวยๆของโรงเรียน   โชคดีที่โรงเรียนติดกับโบสถ์  ทำให้ใช้บริเวณหน้าโบสถ์จัดงานต่างๆได้
- โรงอาหารมีขนาดเล็ก  มีโต๊ะให้นั่งน้อย   ร้านอาหารมีน้อย  อาหารจึงมีให้เลือกน้อย   ถ้านักเรียนคนไหนลงมาช้า  ก็จะไม่มีข้าวให้กิน    ตอนลูกสาวเรียน ม.1  ต้องเรียนที่อาคาร 1  ลูกสาวต้องซื้อข้าวแล้วไปหาที่นั่งกินตรงพื้นหรือใต้ต้นไม้  ช่วงหน้าฝน  ถ้าฝนตกตอนกลางวัน   ทำให้ไปนั่งบริเวณใต้ต้นไม้ไม่ได้   ต้องซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งยืนกินกันใต้อาคารเอา  (แอบสงสารลูกมาก 555)
- รร.มีนโยบายให้นักเรียนทุกคนต้องถอดรองเท้านักเรียนตลอดทั้งวัน  (ยกเว้นช่วงโควิด)   ไม่อนุญาตให้นักเรียนใส่รองเท้าสลิปเปอร์    นักเรียนต้องใส่ถุงเท้าเดินไปทุกที่  ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ โรงอาหาร  ทำให้พื้นถุงเท้าเปื้อนดำมาก  บางครั้งก็ต้องเหยียบน้ำหรือเศษอาหารระหว่างวัน    แต่ละเทอมต้องใช้ถุงเท้าหลายคู่      และรองเท้านักเรียนจะหายบ่อยมากจนเป็นเรื่องปกติ     จะมีคนหยิบรองเท้าใหม่ๆของเราไป  และก็ทิ้งคู่เก่าให้เราเอากลับบ้านเป็นเรื่องปกติ  
- ข้อกำหนดหรือแนวการสอนของ รร.อาจจะไม่สอดคล้องกับการโลกปัจจุบัน   เช่น รร.ห้ามนักเรียนเป็นนักแสดงหรือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางออนไลน์    ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านี้มีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเด็กๆแล้ว   และบางครั้งการมีผลงานทางด้านออนไลน์ก็สามารถเป็นผลงานนำไปสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้   แต่ทาง รร.ก็ยังไม่อนุญาต

นอกจากนั้นคุณครูหลายคนก็ยังเน้ยย้ำให้นักเรียนเป็นกุลสตรี   เชื่อฟังและปฏิบัติคำสั่งสอนของคุณครูอย่างเคร่งครัด  จนบางครั้งดูเป็นการสอนเด็กๆแบบสมัยเก่า   ถ้านักเรียนแสดงความคิดเห็น  คุณครูบางท่านก็จะดุและตินักเรียนว่าเป็นการเถึยงคุณครูซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กไม่ควรทำ     ดังนั้นหาก ผปค.อยากจะให้ลูกได้เรียนใน รร.ที่ให้สิทธิต่อนักเรียนในการแสดงความคิดเห็น   หรือค้นหาแนวทางของตัวเองให้เจอ    รร.ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ท่านได้     นอกจากนั้นแล้ว   ครู รร.นี้มักจะมีแนวปฏิบัติกับเด็กคือ  หากใครทำผิดระเบียบวินัย (ที่ไม่ได้ทำให้เพื่อนหรือคนอื่นบาดเจ็บหรือเดือดร้อน) นอกจากครูจะดุด่าอบรมสั่งสอนเป็นการส่วนตัวแล้ว   ครูจะถ่ายรูปเด็กๆและนำไปแชร์ในกลุ่มเพื่อนใน รร.  พร้อมกับตำหนิเด็กเสมือนเป็นการเตือนการสอน    แต่ครูคิดไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ครูกำลังทำอยู่นั้น  มันเป็นการประจานเด็กๆให้รู้สึกอับอายกับเพื่อนในกลุ่ม รร.   เป็นสิ่งที่ครูไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง    

สำหรับความเห็นส่วนตัวในประสบการณ์ของลูกสาวที่เรียนที่นี่   ขอให้คะแนน 6/10 ค่ะ    รร.นี้มีหลายเรื่องที่น่าประทับใจและก็ไม่น่าประทับใจเยอะ     การสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย   ปัจจุบันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ รร. ที่เรียน  เพราะเด็กทุกคนต้องไปติวกับสถาบันติวพิเศษข้างนอกเพื่อสามารถสอบแข่งขันเข้าเรียนต่อได้   ขอให้ข้อมูลไว้ตามนี้นะคะ