วันนี้เข้ามาตรวจสอบบัตรเครดิต เจอยอดแปลก ๆ เข้ามา
ซึ่งเราไม่ได้ใช้แน่นอน เลยติดต่อ Call Center ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารก็ได้แจ้งว่าบัตรดังกล่าวโดนอายัดไว้แล้ว เพราะธนาคารก็มีมาตรการพวกโดนแฮกจากเว็บพวกนี้อยู่ (แต่ไม่เห็นมี sms แจ้งเลยว่าโดนอายัด) ซึ่งธนาคารก็ให้ผมทำการยืนยันอายัดบัตรแล้วออกบัตรใหม่ให้ (ตอนนี้จะได้รับ sms ละว่าบัตรโดนอายัด) โดยยอดดังกล่าวก็ไม่ต้องชำระ ยกเลิกยอด
ซึ่งผมก็สอบถามถึงการโต้แย้งยอดเหล่านี้ โดยธนาคารจะมีเวลาให้อายัดยอด 60 วัน ดังนั้นถ้าดูบิลบัตรเครดิตทุกเดือนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยอดไหนแปลก ๆ ก็อายัดไว้ก่อนได้ แต่ทั้งนี้ ยอดที่ถูกอายัด ทางธนาคารจะสอบถามไปกับผู้ตัดเงินว่า มีหลักฐานยืนยันไหมว่ามีการใช้งานจากเจ้าของบัตรจริง ถ้าไม่มี ยอดดังกล่าวเราไม่ต้องจ่าย แต่ถ้ามี เรายังต้องจ่ายยอดดังกล่าวนะ ซึ่งธนาคารบอกว่า ส่วนใหญ่ยอดที่โดนแฮกลักษณะนี้จะไม่มีหลักฐานตรงนี้ ก็คือไม่ต้องจ่ายนั่นแหละ
แต่ ๆ ประเด็นคือ ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ต้องคอยเช็คยอดทุกเดือน เพราะบัตรใบนี้ผมใช้ระวังมาก ไม่น่าโดนแฮกได้ ปกติจะใช้งานบัตรที ไหนจะต้องใส่ รหัส ccv ไหนจะต้อง otp แต่ทำไมพอมิจฉาชีพใช้ มันใช้ได้เลย ซึ่งธนาคารแจ้งว่า มิจฉาชีพจะสุ่มเลขบัตรแล้วเอาไปใช้กับเว็บพวกที่ไม่มีการ confirm otp หรือ ccv คือมีแค่เลขหน้าบัตรก็ทำเรื่องตัดเงินได้เลย (ส่วนใหญ่ก็พวกเว็บต่างประเทศ) แต่ธนาคารก็มีเวลา 60 วันให้โต้แย้งก็ยังดี ก็หมั่นตรวจเช็คยอดกันให้ดี ๆ สรุปคือสุ่มได้เลขบัตรเราว่างั้น
ผมก็ถามต่อว่ามีการ filter ร้านค้าพวกนี้ออกไหม ถ้าไม่มี otp ไม่ให้ทำธุรกรรมเลย ทางหน่วยงานอายัด ก็ได้มีการโอนไปฝ่ายดูแลบัตรเครดิต ซึ่งตรงนี้ แย่มาก ๆ คือ ไม่สามารถ Filter ใด ๆ ได้ ผมก็ถามว่าแบบนี้ก็ไม่ปลอดภัยสิ ก็ได้คำตอบว่า ขออภัยค่ะ แล้วแบบนี้ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ขออภัยค่ะ แบบนี้ผมปิดบัตรเลยดีกว่าไหม ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ ก็เลยถามกลับไปว่าเป็น พนง.ธนาคาร หรือ outsource ปรากฏว่าเป็น Outsource โอเค เข้าใจได้ ตอบตามสคิปแหละ (ก็ไม่แปลกใจละรับเงินเดือนเต็ม ลูกค้าจะปิดบัตรก็ช่างลูกค้าค่ะ) ยังดีนะเหมือนกลับลำได้ แนะนำว่าให้ไปลง App ธนาคาร มันจะแจ้งทุกยอดการใช้จ่ายให้ทราบทันที เอาไว้ป้องกันได้ระดับนึง
ใช้งานบัตรเครดิต ก็ระวัง หมั่นตรวจสอบยอดให้ดี ๆ กันครับ
โดนมิจฉาชีพเอาบัตรเครดิตไปใช้งาน ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน
ซึ่งเราไม่ได้ใช้แน่นอน เลยติดต่อ Call Center ธนาคาร ซึ่งทางธนาคารก็ได้แจ้งว่าบัตรดังกล่าวโดนอายัดไว้แล้ว เพราะธนาคารก็มีมาตรการพวกโดนแฮกจากเว็บพวกนี้อยู่ (แต่ไม่เห็นมี sms แจ้งเลยว่าโดนอายัด) ซึ่งธนาคารก็ให้ผมทำการยืนยันอายัดบัตรแล้วออกบัตรใหม่ให้ (ตอนนี้จะได้รับ sms ละว่าบัตรโดนอายัด) โดยยอดดังกล่าวก็ไม่ต้องชำระ ยกเลิกยอด
ซึ่งผมก็สอบถามถึงการโต้แย้งยอดเหล่านี้ โดยธนาคารจะมีเวลาให้อายัดยอด 60 วัน ดังนั้นถ้าดูบิลบัตรเครดิตทุกเดือนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยอดไหนแปลก ๆ ก็อายัดไว้ก่อนได้ แต่ทั้งนี้ ยอดที่ถูกอายัด ทางธนาคารจะสอบถามไปกับผู้ตัดเงินว่า มีหลักฐานยืนยันไหมว่ามีการใช้งานจากเจ้าของบัตรจริง ถ้าไม่มี ยอดดังกล่าวเราไม่ต้องจ่าย แต่ถ้ามี เรายังต้องจ่ายยอดดังกล่าวนะ ซึ่งธนาคารบอกว่า ส่วนใหญ่ยอดที่โดนแฮกลักษณะนี้จะไม่มีหลักฐานตรงนี้ ก็คือไม่ต้องจ่ายนั่นแหละ
แต่ ๆ ประเด็นคือ ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ต้องคอยเช็คยอดทุกเดือน เพราะบัตรใบนี้ผมใช้ระวังมาก ไม่น่าโดนแฮกได้ ปกติจะใช้งานบัตรที ไหนจะต้องใส่ รหัส ccv ไหนจะต้อง otp แต่ทำไมพอมิจฉาชีพใช้ มันใช้ได้เลย ซึ่งธนาคารแจ้งว่า มิจฉาชีพจะสุ่มเลขบัตรแล้วเอาไปใช้กับเว็บพวกที่ไม่มีการ confirm otp หรือ ccv คือมีแค่เลขหน้าบัตรก็ทำเรื่องตัดเงินได้เลย (ส่วนใหญ่ก็พวกเว็บต่างประเทศ) แต่ธนาคารก็มีเวลา 60 วันให้โต้แย้งก็ยังดี ก็หมั่นตรวจเช็คยอดกันให้ดี ๆ สรุปคือสุ่มได้เลขบัตรเราว่างั้น
ผมก็ถามต่อว่ามีการ filter ร้านค้าพวกนี้ออกไหม ถ้าไม่มี otp ไม่ให้ทำธุรกรรมเลย ทางหน่วยงานอายัด ก็ได้มีการโอนไปฝ่ายดูแลบัตรเครดิต ซึ่งตรงนี้ แย่มาก ๆ คือ ไม่สามารถ Filter ใด ๆ ได้ ผมก็ถามว่าแบบนี้ก็ไม่ปลอดภัยสิ ก็ได้คำตอบว่า ขออภัยค่ะ แล้วแบบนี้ความปลอดภัยอยู่ที่ไหน ขออภัยค่ะ แบบนี้ผมปิดบัตรเลยดีกว่าไหม ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ ก็เลยถามกลับไปว่าเป็น พนง.ธนาคาร หรือ outsource ปรากฏว่าเป็น Outsource โอเค เข้าใจได้ ตอบตามสคิปแหละ (ก็ไม่แปลกใจละรับเงินเดือนเต็ม ลูกค้าจะปิดบัตรก็ช่างลูกค้าค่ะ) ยังดีนะเหมือนกลับลำได้ แนะนำว่าให้ไปลง App ธนาคาร มันจะแจ้งทุกยอดการใช้จ่ายให้ทราบทันที เอาไว้ป้องกันได้ระดับนึง
ใช้งานบัตรเครดิต ก็ระวัง หมั่นตรวจสอบยอดให้ดี ๆ กันครับ