ปชน. ประเดิมบางแค Kick Off ‘เท้งทั่วไทย’ เดินสายพิสูจน์ ฝ่ายค้าน ก็ทำงานให้ปชช.ได้.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4817627
 
 
ณัฐพงษ์ ประเดิมพื้นที่บางแค Kick Off แคมเปญ ‘เท้งทั่วไทย’ ขอเดินสายพิสูจน์ตัวเองทั่วประเทศ ชี้ พื้นที่บางแคเป็นจุดเริ่มต้นก้าวสู่วงการเมือง ลั่นจะทำให้เห็นไม่ว่าเป็น ‘รัฐบาล’ หรือ ‘ฝ่ายค้าน’ ก็ทำงานให้ประชาชนได้
 
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 29 กันยายน ที่ชุมชนรวมใจริมคลอง เพชรเกษม 62/1 กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส .ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส. และทีมงานพรรคประชาชน ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ชุมชนรวมใจริมคลอง หมู่ 3 (เพชรเกษม 62/1) ย่านบางแค โดยเป็นการลงพื้นที่สอบถามปัญหาชาวบ้าน และเปิดโต๊ะเจรจากับผู้นำชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่สะท้อนว่ามีปัญหาเรื่องทางสัญจร ไฟส่องสว่างที่ไม่เพียงพอในช่วงกลางคืน
 
โดยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสแรก หลังจากที่ยุบพรรคก้าวไกลเดินทางมาสู่พรรคประชาชน ตนต้องเริ่มออกเดินทางทั่วทั้งประเทศ เพื่อเก็บเกี่ยวปัญหา สอบถามสารทุกข์สุกดิบของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ซึ่งพื้นที่บางแคนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตนเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขตบางแคเป็นเขตที่เหนียวแน่นของพวกเรา วันนี้จึงไปหลายๆ จุด โดยตั้งแต่ช่วงโควิด-19 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ก็เคยมาช่วยเหลือ วันนี้ก็ได้เห็นปัญหา ทางยังเป็นหลุมเป็นบ่อ ตนเชื่อว่า การที่เราเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่สนว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะเป็นบทพิสูจน์ว่าการอาสามาเป็นผู้แทนราษฎร ทำให้เกิดประโยชน์กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนได้จริง
 
นายณัฐพงษ์ยังประกาศ Kick Off เปิดแคมเปญ เท้งทั่วไทย พบปะประชาชนทั่วประเทศ ถือโอกาสการลงพื้นที่วันนี้เปิดแคมเปญเป็นวันแรก และขอขอบคุณชาวบางแค ที่ตนเคยรับใช้ในฐานะ ส.ส.เขตแล้ว แล้วต่อจากนี้ ก็จะเดินหน้าทั่วประเทศ
 
“และนี่จะเป็นวิธีการทำงานของพวกเราหลังจากนี้นะครับ อีก 2-3 ปี ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก พยายามส่งมอบทุกอย่างให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้เป็นรูปธรรม ครั้งต่อไปการเลือกตั้งพวกเราก็พร้อมที่จะเดินหน้าเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับทุกคน วันนี้ก็เป็นการเปิดแคมเปญ เท้งทั่วไทย ที่ 1 ปี หลังจากนี้ ผมจะเดินทางรอบทั้งประเทศ” นายณัฐพงษ์กล่าว

---

 
ชัชชาติถึงเชียงรายแล้ว พร้อมให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ กทม. ทุกคน ช่วยเต็มที่
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4817696
 
ผู้ว่าฯ ชัชชาติให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กทม. สู้เต็มที่ช่วยเหลือชาวเชียงราย
 
เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจษฏา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ เดินทางไปจังหวัดเชียงรายเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ กทม. ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบภัยจังหวัดเชียงราย และรับทราบปัญหาและอุปสรรคจากการทำงานของเจ้าหน้าที่
 
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ กทม. ประมาณ 62 คน ได้ลงพื้นที่มาจังหวัดเชียงรายพร้อมนำเครื่องมือ อาทิ รถดูดเลน รถน้ำ รถบรรทุก รถเทลเลอร์ มาช่วยเหลือประชาชนชาวเชียงรายให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว โดยการดูดดินโคลนที่อุดตันภายในท่อระบายน้ำ ชุมชนป่าแดง อำเภอเมืองเชียงราย เร่งดูดน้ำบนถนนให้แห้งก่อนดำเนินการดูดโคลนในท่อระบายน้ำ ตามแผนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งขณะนี้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ กทม. มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่จะพักอาศัยอยู่ภายในวัดห้วยปลากั้ง หมู่ที่ 3 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งท่านเจ้าอาวาสวัดได้ให้ความเมตตาอนุเคราะห์ให้ที่พักและอาหาร 3 มื้อ กับเจ้าหน้าที่ กทม.
 
“สำหรับวันนี้เป็นการเลี้ยงอาหารขอบคุณเจ้าหน้าที่ กทม. ที่มาปฏิบัติหน้าที่จังหวัดเชียงราย เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจที่ดี พร้อมลุยต่อสู้งานช่วยเหลือประชาชนจังหวัดเชียงรายในวันพรุ่งนี้ โดยในเวลา 07.00 น. จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที ซึ่งอาหารส่วนหนึ่งก็เป็นอาหารท้องถิ่นของจังหวัดเชียงราย ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่นด้วย”
 
นอกจากนี้ กทม. ยังมีเครื่องมือ อาทิ รถดูดเลนมาเพิ่มอีก 6 คัน ซึ่งเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเช้าวันนี้ สำหรับข้อดีของการลงพื้นที่ในวันนี้ คือการนำบทเรียนปัญหาต่าง ๆ ของสถานการณ์จังหวัดเชียงรายมาใช้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อไป เช่น การสร้างท่อระบายน้ำให้ใหญ่และมีระดับการวางท่อระบายน้ำให้ระบายน้ำได้รวดเร็ว เหมือนจังหวัดเชียงรายเพื่อเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม เป็นต้น

---

ลำปางท่วมวันที่ 9 สังเวยแล้ว 4 ชีวิต 2 เขื่อนใหญ่จ่อล้น เร่งปล่อยน้ำ
https://www.matichon.co.th/local/news_4817793

ลำปาง ท่วม วันที่ 9 สังเวยแล้ว 4 ชีวิต 2 เขื่อนใหญ่จ่อล้น เร่งปล่อยน้ำ
 
ลำปาง – วันที่ 29 กันยายน สถานการณ์แม่น้ำวังในพื้นที่ จ.ลำปาง ขณะนี้ ถึงแม้ระดับน้ำในแม่น้ำวัง จะมีระดับที่ต่ำลงกว่า 1 เมตร จากฝนที่ลดลง และหยุดตกมาได้ 2 วันแล้ว จึงทำให้น้ำฝนที่จะไหลลงมาสมทบในแม่น้ำวัง ลดลง
 
แต่แม่น้ำวัง ก็ยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำวัง ในเขตตัวเมืองลำปาง เทศบาลนครลำปาง เข้าสู่วันที่ 9 แล้ว เนื่องจากการเร่งปล่อยน้ำของเขื่อนใหญ่ 2 แห่งของ จ.ลำปาง ยังคงมีการระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำป่าไหลหลากลงสู่เขื่อนเป็นจำนวนมาก ทำให้เขื่อนมีน้ำที่เต็ม และเกินความจุ
 
ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดลำปาง และชลประทาน ได้พิจารณาร่วมกันที่ต้องปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำวังในอัตราที่มาก และอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อนที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำวัง โดยสถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุดวันนี้ เขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่สุดในจังหวัด ความจุ 170 ล้านลูกบาศ์กเมตร ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 173 ล้านลูกบาศ์กเมตร คิดเป็น 103 % ของความจุ โดยมีการระบายน้ำอยู่ที่ 134 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที
ส่วนเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง ความจุ 106 ล้านลูกบาศ์กเมตร มีน้ำขณะนี้ 77 ล้านลูกบาศ์กเมตร คิดเป็น 72 % ของความจุ ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวัง 314 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ซึ่งในช่วงระยะนี้ ยังมีการพร่องน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับตามประกาศแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่พื้นที่ภาคเหนือ จะเกิดสภาพอากาศที่แปรปรวน จะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจจะเกิดฝนตกหนักได้ในห้วงระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 3 ตุลาคม 2567
 
สำหรับพื้นที่ ที่แม่น้ำวังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตตัวเมืองลำปาง ขณะนี้ ได้แก่ พื้นที่ชุมชนถนนเลียบแม่น้ำวัง บริเวณชุมชนท่านางลอย , ชุมชนท่ามะโอ ใกล้สะพานท่ามะโอ , ชุมชนถนนเลียบป่าไม้ , ชุมชนปงสนุก ใกล้กับสะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี หลังวันเกาะวาลุการาม โดยที่ฝั่งถนนเลียบแม่น้ำวัง ฝั่งชุมชนกาดกองต้า ย่านถนนคนเดิน น้ำลดลง แต่ระดับน้ำยังปริ่มตลิ่ง นอกจากนี้ แม่น้ำวังยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 4 อำเภอตอนล่างของ จ.ลำปาง ด้วย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่ อ.เกาะคา และ อ.สบปราบ คลี่คลายลงแล้ว จากระดับน้ำที่ลดลง แต่ยังคงสร้างผลกระทบในที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ อ.เถิน และ อ.แม่พริก
จังหวัดลำปาง
 
โดยสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ได้รายงานว่า ในห้วงระหว่างวันที่ 23 – 27 กันยายน 2567 พื้นที่ จ.ลำปาง ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 55 ตำบล 273 หมู่บ้าน 4,951 หลังคาเรือน ราษฎรจำนวน 14,525 คน ได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน จำนวน 4 ราย เสียชีวิต 4 ราย เป็นราษฎรในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร 2 ราย อ.วังเหนือ และ อ.เถิน อำเภอละ 1 ราย