(รีวิวผัวทองประกายแสด)ผัวคนที่ 5 มนตรา หนุ่มป่าดงดิบ ผัวที่สมบูรณ์ ลูกที่ลำบากใจ แฟนที่เอาแต่ใจ และตายเพราะประมาท

ไว้อาลัยให้กับผัวที่ทองรักมากที่สุดในชีวิต
ปล. ที่แท็กปัญหาความรัก เพราะชีวิตของมนตรา มีความใกล้เคียงกับผู้ชายที่ประสบปัญหาชีวิตในครอบครัวไทยที่เรามีโอกาสจะพบเจอเยอะสุด (แม้แต่พ่อเราเองก็เจอปัญหาแบบมนตรา เอาไว้เล่าท้ายกระทู้)
มนตราเราคิดตอนแรกว่า เขาน่าจะเป็นตัวละครที่รีวิวไม่ยาก เพราะดีไปทุกด้าน แต่พอได้ติดตามจนจบ รู้สึกได้ถึงความหลากหลายและความบกพร่องบางอย่างในตัวเขา แต่นี่แหละเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัวละครนี้มีความเรียลแบบที่สามารถหาเจอกับผู้ชายใกล้ตัวในสังคมได้

มนตรา ถึงจะเป็นผัวคนที่ 5 ของทอง แต่ตามบทละคร ตัวละครนี้ได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ก็คือพระเอกเลย จึงนับว่าเป็นผัวคนที่ทองรักมากที่สุด ด้วยคุณสมบัติของหนุ่มป่าดงดิบ (ศัพท์ไว้เรียกหนุ่มธงเขียวสุดๆ) เป็นผัวที่ทองมาเจอในช่วงชีวิตที่กำลังบัดซบ เป็นช่วงที่ทองพอแล้วกับเงินทองลาภยศ จากเดิมที่ตอนอยู่กับผัวคนก่อนๆ ทองต้องการเงินทอง แต่สุดท้ายเมื่อมันมากเกินไปจนกัดกินอิสระของเธอ ดังนั้นเมื่อทองมาเจอมนตรา ต่อให้มนตราฐานะทางการเงินไม่ได้ร่ำรวย ทองจึงไม่ได้สนใจในจุดนี้ และเหมือนเธออยากพักชีวิตอันบัดซบ เหน็ดเหนื่อยจะต่อสู้แล้ว

อนุมานจากพื้นฐานครอบครัวของมนตรา โตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ด้วยความจิตใจดี แทบไม่คิดกับใครในแง่ร้ายเลย จนบางทีก็ไม่เท่าทัน ถ้าจะแปลกใจก็ตรงที่ว่า แม่สอนให้มนเอาตัวรอดคนเดียว อย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งกับปัญหาของใคร แต่มนกลับดื้อกับสิ่งที่แม่สอน ด้วยการหาทางช่วยทองออกมาจากฮาเร็มสารวัตรมิตรได้ ชนิดว่าไม่กลัวจะถูกเก็บเลย (ได้โชคดีที่สารวัตรหลงชอบในเสียงร้องของมนนี่แหละมั่ง 555)

มนตราตอบสนองความรักความอบอุ่นความอ่อนโยนที่ให้ทองได้เพียงคนเดียว ไม่กักขังอิสรภาพ ยามทุกข์ก็เป็นกำลังใจ เป็นคุณสมบัติที่ทองตามหามานาน

ยิ่งตอนที่รับเป็นพ่อของลูกในท้องทอง พยายามฮีลให้ทองเชื่อว่าเด็กเป็นลูกของ พวกเรา พาไปจดทะเบียนสมรส ผญ.คนไหนก็อยากหยุดที่เขาทั้งนั้น

แต่บัคในชีวิตของทั้งคู่ คือ แม่ของมน

และยังเป็นจุดอ่อนของมนอีกต่างหาก

ในขณะที่มนมีคุณสมบัติที่ ผญ.ทุกคนอยากได้เป็นผัว มนก็มีคุณสมบัติของลูกชายที่แม่ทุกคนอยากได้เป็นลูกเช่นกัน 

แต่โชคร้ายที่แม่ไม่ยอมรับทองเป็นสะใภ้ ถึงขั้นตัดแม่ตัดลูกกับมน ถึงมนจะมั่นคงในการยืนหยัดเลือกทองแค่ไหน แต่เขาก็ทุกข์ใจที่แม่กระทำแบบนี้ใส่เขา

มองในมุมของคนที่เชียร์มน เขาเป็นคนกลางที่ลำบากใจมาก ทำไมแม่ถึงเอาแต่ใจ ขัดขวางความรักของลูก

แต่หากมองในมุมของคนนอกที่ไม่เชียร์มน เราจะเห็น ความเห็นแก่ตัวบางอย่างของเขา เช่น เขาบังคับที่จะให้ทั้งแม่ทั้งทองอยู่ปรองดองร่วมกันให้ได้ ด้วยความคิดว่าถ้าทองทำดีกับแม่ ยังไงสักวันแม่ต้องเห็นความดีนั้น (เมื่อไหร่?) แต่เราแทบไม่เห็นฉากที่มนทำหน้าที่คนกลางที่ดีที่เคลียร์เลย สิ่งที่ละครแสดงให้เห็นคือ มนพาทองหนีจากสถานการณ์นั้น กดดันแม่ทางอ้อมว่า ถ้าแม่อยากมีมนในชีวิต แม่ต้องยอมรับทองให้ได้ โดยไม่สนใจความรู้สึกแม่อีก

หรือการพยายามยัดเยียดให้แม่ยอมรับเด็กในท้องทองให้ได้ ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่า เด็กไม่ใช่ลูกตัวเอง แต่จะให้แม่ตัวเองรับหลานที่ไม่ใช่เลือดเนื้อตัวเอง ถ้าเราคิดแบบปุถุชนคนธรรมดา จะให้มามัดมือชกได้ยังไง แม่ก็อยากได้หลานที่เกิดจากลูกตัวเอง ไม่ใช่มาเลี้ยงหลานจากลูกใครก็ไม่รู้

หรือการที่ทองพยายามหาทางออกว่า ออกไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอก แล้วมนไปมาสองบ้าน มนก็ไม่เอาอีก (ถ้ามองมุมมน ยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ ผญ.ทั้งสองห่างเหินกันไปอีก ทำไมถึงไม่พยายามปรับความเข้าใจอยู่ร่วมกัน) (แต่ถ้ามองในมุมทอง นางไม่อยากให้แม่ลูกมีปัญหา แล้วนางก็ไม่ได้อยากยึดชีวิตมนเอาไว้ 24 ชม.อยู่ฝ่ายเดียว นางแค่ขอแบบต่างคนต่างอยู่เพื่อลดปัญหา แต่มนไม่ยอมรอมชอม และก็ไม่คิดจะแก้แบบจริงจัง) แล้วตัวมนไม่มีความคิดจะไปเช่าบ้านหรือซื้อบ้านใหม่ด้วย (อาชีพเขาก็ไม่อำนวยจะให้ซื้อ ไม่สิ มนไม่คิดจะไปมีที่ทางเป็นของตัวเอง เขาจะอยู่บ้านหลังเดิม ด้วยความคิดว่าดูแลแม่ แต่ในละคร เราแทบไม่เห็นว่ามนดูแลแม่ยังไง ขับรถไปส่งวัดก็แทบนับครั้งได้ เราจะเห็นแต่แม่มนทำงานบ้านอยู่คนเดียว) นี่มองว่ามนเป็นลูกชายที่โตมาแบบแม่ทำให้ทุกอย่าง ไม่ต้องแตะงานบ้านอะไร (ยกเว้นแต่ตอนมาช่วยเมียซักผ้า) แค่มนโตมาเป็นลูกที่ดี (ซึ่งโอกาสน้อยมากที่จะโตมารักดี เพราะเลี้ยงแบบนี้ส่วนใหญ่ จะเอาแต่ใจสุดดิ่ง)

จริงๆ เรามองเห็นความบกพร่องของมนเรื่องนึงคือ การไม่ทำตามตรอกออกตามประตู การพาทองเข้ามาบ้าน หนีแม่พากันขึ้นไปพลอดรักกันสองคน ถ้าในมุมผู้ใหญ่ นี่เราว่ามันหยามกันชัดๆนะ และตรงนี้เองที่น่าจะตรงกับปัญหาชีวิตใครหลายคนในห้องชานเรือน ที่ลูกชายตัวเองพาผู้หญิงมาบ้านแบบยังไม่จดทะเบียน ไม่มีพิธีกรรม ให้มาอยู่กินไปเลย ใครได้สะใภ้ดีก็ดีไป ได้สะใภ้แย่ก็แทบอยากจะหนีจากบ้านตัวเอง (ถ้ามองแบบมุนเจน Y,Z ที่คิดว่า จะไปจัดงานให้สิ้นเปลืองทำไม จดทะเบียนย้ายเข้ามาอยู่ก็จบ แต่เราก็รู้สึกว่ามันข้ามหน้าผู้ใหญ่ไปนะ อย่างน้อยบ้านที่คุณพาผู้หญิงเข้ามา มันก็บ้านพ่อแม่คุณ ใช่บ้านคุณคนเดียวซะที่ไหน)

อีกเรื่องที่คิดได้สองฝั่งคือ การทะเลาะกับแยม แฟนเก่า เรื่องลูกในท้องแยม 
หากในฝั่งของเฟม ใช่ ลูกอยู่ในท้องแยม นางมีสิทธิ์ในร่างกาย 100% ว่าจะเก็บหรือเอาลูกไว้ไหม ในขณะที่มนมีสิทธิ์ครึ่งเดียว แต่มันถูกปัดตรงทิ้งไปแล้ว ในเมื่อแยมไม่ยินยอม มนก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเสกลูกให้ไปอยู่ในท้องมนได้ แยมก็คงทำแล้ว
แต่ก็คิดได้อีกด้าน แล้วผู้ชายที่เขาต้องการลูกจริงๆ เขาไม่มีสิทธิ์มีความคิดที่จะอยากขอให้ ผญ.คลอดแล้วยกให้เขาไม่ได้เหรอ
แต่มันก็จะคิดย้อนมาอีก แล้วต้องให้ ผญ.สูญเสียสรีระในการตั้งท้อง 9 เดือน ในระหว่างนั้นเหรอ ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ต้องการเป็นแม่
หากจะมองแบบคนนอก ก็ต้องโทษความผิดด้วยกันทั้งคู่ที่ไม่ป้องกัน หรือโทษการไม่ทำข้อตกลงก่อนคบกันก่อน หรือต่างฝ่ายตอนนั้นกำลังอินเลิฟ อะไรก็ได้หมด หรือบอกไม่หมด ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดไปเองฝ่ายเดียว?
เรื่องราวของมนกับแยม เป็นเคสศึกษาได้ชัดเจนในการตกลงเรื่อง คสพ. คุณต้องชัดเจนว่าคุณจะคบกันแค่ไหน จะไปถึงการสร้างครอบครัวมีลูกไหม
ถ้ายินยอมทั้งสองฝ่าย แยกทางไปหาคนใหม่ดีกว่า อย่าไปคิดว่าจะเปลี่ยนใจใครได้ เสียเวลาและความรู้สึกด้วยกันทั้งคู่
(แต่ขออคติกับแยมนะคะ ประโยคว่ายังอยากมีตัวตนในชีวิตมนในฐานะแฟนเก่า นางย้ำสถานะนี่บ่อยมาก แม้แต่กับทองกับแม่ นี่เราว่าแยมอยากมี คสพ.ว่ามีแฟนแต่อยากมีอิสระ นางจะไปแต๊ดแต๊ไกลแค่ไหนก็ได้ แต่กลับมาต้องมีมนอยู่ที่ที่นางรอนะ แต่แยมสร้างภาพว่าฉันเฟียส ฉันไม่สนผช. แม่คุณ ไอ่ที่ทำนี่ไม่สนผช.เล้ยยยยย ถ้าเราเลิกกับแฟนเก่า เราก็ไม่อยากไปพรีเซ้นส์ตัวเองให้ใครรู้หรอก แถมนี่ว่าแยมไม่เอาแม่มน เพราะกลัวแม่มนรู้ว่านางไปทำแท้งหลานแม่เอง ซึ่งแม่ที่ถือศีล คงรับไม่ได้แน่นอน และนางอาจจะไม่ชอบการถูกแม่ผัวมาจู้จี้ชีวิต)

มองในข้อบกพร่องของมนคือ ติดกับดักภาพฝันครอบครัวใหญ่ไปหน่อย จริงอยู่ว่าเขาไม่กักขังทองแบบพี่วี แต่เขาเหมือนวางบทบาทว่า ทองจะต้องอยู่ดูแลแม่ตอนที่เขาไปทำงาน ทองต้องทำดีกับแม่ ในขณะเดียวกันก็ไปกดดันให้แม่รับหลานที่ไม่ใช่เลือดแท้ของเขาให้ได้อีก

พอแม่ไม่ยอมตามเกมมน มนหาทางออกชีวิตไม่ได้ ทองก็ให้คำปรึกษาไม่ได้ เพราะทองจะไปอยู่ท่าเดียว เสนอทางออกขอไปอยู่ข้างนอก มนก็ไม่เอา เหมือนมนต้องการแผนชีวิตแบบครอบครัวอยู่พร้อมหน้าให้ได้

เหล้าจึงกลายเป็นเพื่อนที่ตอบโจทย์ และนั่นกลายเป็นสิ่งที่พาให้มนไปถึงจุดจบ (อายุเบญจเพศเข้าไปอีก) ตอนนี้มนอาจจะอยู่กับเจ้าตัวเล็ก ลูกของทองที่มนอยากได้ให้มาเกิดก็ได้

แต่หากมนยังไม่ตายละ

ถ้ามนไม่ตายและทองไม่อยู่ด้วยแล้ว
ก็ซึมเศร้านั่นแหละค่ะ ซังกะตายในชีวิตไป ทรงหมาโบ้ รักเขาไปแล้ว ผ่านทุกข์สุขมา แถมทองจะมีเด็กให้ คงยิ่งทุกข์หนัก (แต่ไม่แน่ อาจเป็นตัวเร่งให้แม่ใจอ่อน ยอมให้มนไปตามทองกลับมาก็ได้)

ถ้ามนไม่ตายและทองอยู่ด้วย
สงครามแม่ผัวกับลูกสะใภ้คงนาน สุขภาพจิตเสีย มนอาจจะดื่มหนักกว่าเดิม และการผันตัวกลายเป็นพี่วีสองก็ได้ เพราะเหล้ามันมีแต่ทำให้แตกแยก แต่ถ้าทองทนไหว ปลายทางอาจจะดีก็ได้ เพราะถ้านางคลอดลูก คงเอาเวลาไปดูแลลูก ไม่มาปสด.กับแม่ผัว

บทสรุป
มนตราเป็นคนกลางที่ลำบากใจในปัญหาชีวิตระหว่างเมียกับแม่ที่ต้องการให้อีกฝ่ายเลือกข้าง มนใช้ชีวิตประมาท เอาเหล้ามาแก้ปัญหา ทั้งที่จะจบดีแท้ๆ แต่เราก็เห็นจุดจบว่า ประมาทแค่ครั้งเดียว ชีวิตหมดสิ้นได้ (ฉากที่มีอุบัติเหตุทางรถที่มนเกือบจะชนหลายครั้ง เหมือนชะตามันก็เตือนสติมนมาหลายครั้งแล้วว่า อย่าประมาทสิวะไอ่หนุ่ม กุเตือนหลายครั้งแล้วนะ แต่มนมันก็ยังทำ เล่นมือถือ ตาไม่มองทาง ขยับนู้นนี้ไปมา นี่เป็นคนนั่งด้วยก็กลัวเหมือนกัน ขับรถแบบไม่มีสติกับชีวิตเลย พอทุกข์ก็ทุกข์สุด พออิ่มเอมก็ไม่สนอะไรปลอดภัยรอบตัวอีก ชะตาเลยจัดให้ไปเลย)

ส่วนได้ข้อคิดยังไง ก็ขอยกชีวิตพ่อเรามาเลย คือ ย่าไม่ชอบแม่เราแค่ว่าเป็น คนไทย แล้วค่ะ ดังนั้นแม่ทำดีให้ตายยังไงก็ไม่ได้ผล
พ่อเลยเด็ดขาดว่า เลือกแม่ แต่งเป็นเขยเข้าบ้าน งานแต่งพ่อแม่เรา ย่ามาแค่กินข้าวช่วงเช้า แล้วนั่งรถกลับ ตจว.ไปเลย 
แม้แต่ตอนเสียไปแล้ว ย่ากับแม่เราก็ไม่เคยดีกัน ป้าๆ (พี่สาวพ่อ) ก็ไม่ชอบแม่เรา หาว่าแม่เราคือตัวทำให้แม่ลูกเขาแตกคอกัน
แต่เราเคยฟังชีวิตพ่อคือ ย่าตามใจลุง(พี่ชายพ่อ)มาก จนวิถีคนจีน พอลุงตายเพราะเอาสมบัติไปผลาญจน ฆตต.หนีหนี้ ย่ากับพ่อๆก็ต้องรับกรรมไปด้วย โดยเฉพาะพ่อถูกให้ออกจาก รร. มาทำงานให้บ้านพี่เขย โดนเขาทำร้ายสารพัด ย่าปกป้องไม่ได้เพราะต้องง้อลูกเขย จนลุงอีกคน(พี่ชายคนรอง)ทนไม่ไหว พาพ่อเราหนีไปอยู่ กทม. จนได้เรียนหนังสือต่อ พ่อบอกลุงมีบุญคุณให้ชีวิตใหม่กับพ่อ ถ้าไม่ได้ลุง พ่ออาจจะไม่ได้มีสังคมในระดับที่จะมาเจอแม่เราที่เรียนมหาลัยได้ แล้วมาเจอยายที่มีแต่ลูกสาว ยายเลยเลี้ยงดูปูเสื่อพ่อตั้งแต่เป็นเพื่อนกับแม่ใหม่ๆ แบบชวนมากินข้าวเย็นทุกมื้อ พ่อเลยรักยายเรามาก เพราะนี่คือความรักที่พ่อไม่เคยได้จากย่า พ่อเราเลยไม่ลังเลที่จะเลือกแม่ต่อ แต่พ่อก็ยังมาหาย่าเสมอในวันเทศกาล 
แต่ยังไงย่าก็ไม่รักแม่เราอยู่ดี แล้วก็มาลามมาเกลียดเรา หาว่าแม่กับเรา แย่งความรักจากพ่อไป ทั้งที่พ่อก็ไม่ได้ทิ้งย่าให้อยู่คนเดียวนิ ลูกคนอื่นก็มีดูแล เงินบางส่วนก็ส่งให้ แต่เรากับแม่ยังโดนด่าด้วยข้อหานี่ตลอด
ถามว่าแม่เราเคยพยายามไหม แม่ว่าเคยพยายาม แต่ถ้ามันไม่ได้ผล ก็ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าไหม แล้วแม่มีลูก ก็ต้องดูแลลูก จะต้องมา ปสด.กับแม่ผัวทำไม ต่างคนต่างอยู่คนละจังหวัดพอแล้ว (บ้านเกิดเราเป็นจังหวัดที่เจริญส่งเสริมหน้าที่การงานของพ่อแม่ แต่บ้านพ่อเป็นจังหวัดยากจน นี่เป็นปัจจัยนึงที่พ่อเลือกจะไม่ลงหลักปักฐานบ้านเดิมค่ะ เพราะมันบาดแผลมาเยอะ)

ถ้าสำหรับเราถ้าแนะนำมนได้ก็คือ ถ้ามนไม่อยากทุกข์ การให้ทองแยกบ้านออกไป มันดีกว่าวะมน

เพราะการพาทั้งสองมาอยู่ด้วยกัน มนออกไปทำงานลอยตัวแล้ว กลับมาก็มาอ้อนทอง แต่ต้องทองอยู่กับแม่ที่เป็นระเบิดลูกใหญ่ กลับมาก็ไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปฟ้องมนอีก มนอยากมีชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆจริงดิ? 

เรายังเคยคิดเลยว่า ถ้าแม่เราพยายามแบบทอง ลาออกย้ายเข้ามาบ้าน โดนแม่ผัวกับพี่ผัวกดหัว แม่เราจะสุขภาพจิตแย่ขนาดไหน ชีวิตแม่ไปไหนไม่ได้แล้ว ในขณะที่แม่เลือกจะต่างคนต่างอยู่ แม่สุขภาพจิตดีกว่าอีก มีเงินเกษียณ ได้ใช้ชีวิตที่เขาชอบ ส่วนพี่ผัวยังติดอยู่กับคำว่า แม่แย่งพ่อไปจากครอบครัวเมื่อ 40 ปีก่อน ไม่ไปไหนสักที

เราไม่สามารถเอาทั้งชีวิตไปพิสูจน์ใจใครเป็นเวลา 10-20 ปีไป โดยที่สุขภาพจิตเราเสียไปเรื่อยๆได้หรอก เพราะถึงวันนั้นผลตอบแทนอาจจะเป็นจริงก็ได้ แต่คุ้มกับสุขภาพจิตที่เราเสียไปไหม?

มนเป็นตัวอย่างผช.ที่ดีนะ แต่ถ้า ผญ.สักคนจะเลือกเขาเป็นชีวิตคู่ ลองเข้าไปในชีวิตแม่มนก่อน เพราะมนติดบัคเรื่องไม่แยกบ้านกับแม่แน่นอน 

ไม่อยากใช้คำหยาบว่า รอแม่เธอตายแล้วค่อยมาคบกันดีกว่า เพราะตัวอย่างชีวิตพ่อแม่เรา แม่เราก็ไม่ประชดขนาดนั้น ถ้าตอนนั้นพ่อเราไม่เด็ดขาด จะให้แม่เรายอมรับย่าให้ได้ แม่เราเคยบอกว่าถ้าแบบนั้นขอเลิกดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่