สวัสดีครับ
ผมมีเรื่องอยากจะมาระบายเกี่ยวกับปัญหาความรักที่มันมีแนวโน้มจะเลยเถิดเป็นปัญหาชีวิต
ผมเป็นเกย์ครับ และกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะกับผู้ชายคนนึงมาเป็นระยะเวลาเข้าปีที่ 4 แล้วครับ
เราพบกันในที่อโคจรเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมา
เขาเป็นผู้ชายอายุอ่อนกว่าผมเล็กน้อย และมีแฟนอยู่แล้วเป็นสุภาพสตรี ซึ่งแฟนของเขาไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ที่ซ้ำซ้อนนี้
ผมกับเขา เรามีความสัมพันธ์ทางเพศกันและคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษากันมาตลอดช่วงระยะเวลา4ปีมานี้
เรามาเจอกันอย่างน้อยๆเดือนละครั้ง ตามแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคน
สำหรับตัวผม ถ้าตัดคำว่าศีลธรรมและความเหมาะสมออกไป ผมชัดเจนในความรู้สึกว่าผมรักเขา รักเขามาก
ผมไม่สนว่าเขาจะมีผู้หญิงกี่คน นั่นเป็นโลกอีกใบของเขา ผมไม่ก้าวล่วง
ผมขอเพียงแค่ผมเป็นผู้ชายคนเดียวของเขา แค่นั้นผมโอเค
ส่วนเขาเอง เขาก็บอกผมเสมอๆว่า เขาก็รักผม โดยเขาใช้คำว่า "รักในแบบของเขา"
ซึ่งผมก็ไม่ทราบในรายละเอียดของคำว่า "รักในแบบของเขา" ว่าเนื้อหาแก่นในมันเป็นอย่างไร
ผมเริ่มมองไปที่ภาพอนาคต ระยะ 1 ปี , 5 ปี , 10 ปี แล้วก็เกิดความรู้สึกกลัวครับ
กลัวเพราะว่าผมไม่เห็นภาพอนาคตเลย
ผมมองไม่ออกว่า เราจะอยู่ในความสัมพันธ์แบบลักกินขโมยกิน เป็นชู้ คบซ้อน กันไปแบบนี้ได้นานแค่ไหน
ผมมองไม่ออกว่า ถ้าความสัมพันธ์ของเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆแล้วเขาแต่งงานกับสุภาพสตรีของเขา เราจะอยู่กันแบบใด
ผมมองไม่ออกจริงๆนะ
นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องศีลธรรมในใจ ความถูกต้อง ความเหมาะสม
ว่ากันแค่เรื่องความรู้สึกเพียงอย่างเดียวล้วนๆ
เมื่อไม่นานมานี้ ผมตัดสินใจทิ้งคำถามไปที่เขา ว่าเขามองภาพความรัก ที่เขาบอกว่า "รักในแบบของเขา" ว่าเป็นอย่างไร?
รักแบบพี่ชาย? รักแบบเพื่อน? รักแบบคนในครอบครัว? หรือ รักแบบใด?
และเขามองภาพความสัมพันธ์ของเราสองคนในอนาคตอย่างไร?
ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อคำถามที่ผมทิ้งไว้
ผมรู้และยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน เราตีความและมีมุมมองต่อคำว่า "รัก" ที่ต่างกัน
แต่จะต่างกันแค่ไหน ตรงนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องคุยกัน
ถ้ามันต่างกันจนหาจุดเชื่อมไม่ได้ หรือ มีภาพในอนาคตที่มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผมก็คิดว่าผมควรต้องถอยและหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นี้ มันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามผมรู้ตัวเองดีว่า ไอ้นั่งพิมพ์ นั่งพูด หน่ะมันง่าย
แต่การตัดใจและเดินออกมาจริงๆหน่ะมันคนละเรื่องกันเลยครับ
ผมผ่านความรักมาไม่เยอะ รักใครสักคนนึง ผมอยู่กับความรู้สึกรักและความทุ่มเทหลายปีครับ
ผมไม่อยากกลับไปเสเพล เที่ยวกลางคืน หรือ ซื้อกินเหมือนในอดีตที่ผมทำๆมา
และความรักเมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันลบล้าง ลืมเลือน ได้ยากมากๆ
แต่การรักษาความรักเอาไว้ท่ามกลางความไม่ชัดเจนและคลุมเครือ มันก็เหมือนการหลอกตัวเอง
อึดอัดและทุกข์ใจมากครับ
อยู่ในความสัมพันธ์แบบลับๆ (2ชาย/1หญิง) โดยเรามาทีหลัง เดินต่อก็ไม่เห็นภาพอนาคต ถอยออกมาก็ตัดใจไม่ได้
ผมมีเรื่องอยากจะมาระบายเกี่ยวกับปัญหาความรักที่มันมีแนวโน้มจะเลยเถิดเป็นปัญหาชีวิต
ผมเป็นเกย์ครับ และกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบไม่มีสถานะกับผู้ชายคนนึงมาเป็นระยะเวลาเข้าปีที่ 4 แล้วครับ
เราพบกันในที่อโคจรเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมา
เขาเป็นผู้ชายอายุอ่อนกว่าผมเล็กน้อย และมีแฟนอยู่แล้วเป็นสุภาพสตรี ซึ่งแฟนของเขาไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ที่ซ้ำซ้อนนี้
ผมกับเขา เรามีความสัมพันธ์ทางเพศกันและคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษากันมาตลอดช่วงระยะเวลา4ปีมานี้
เรามาเจอกันอย่างน้อยๆเดือนละครั้ง ตามแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคน
สำหรับตัวผม ถ้าตัดคำว่าศีลธรรมและความเหมาะสมออกไป ผมชัดเจนในความรู้สึกว่าผมรักเขา รักเขามาก
ผมไม่สนว่าเขาจะมีผู้หญิงกี่คน นั่นเป็นโลกอีกใบของเขา ผมไม่ก้าวล่วง
ผมขอเพียงแค่ผมเป็นผู้ชายคนเดียวของเขา แค่นั้นผมโอเค
ส่วนเขาเอง เขาก็บอกผมเสมอๆว่า เขาก็รักผม โดยเขาใช้คำว่า "รักในแบบของเขา"
ซึ่งผมก็ไม่ทราบในรายละเอียดของคำว่า "รักในแบบของเขา" ว่าเนื้อหาแก่นในมันเป็นอย่างไร
ผมเริ่มมองไปที่ภาพอนาคต ระยะ 1 ปี , 5 ปี , 10 ปี แล้วก็เกิดความรู้สึกกลัวครับ
กลัวเพราะว่าผมไม่เห็นภาพอนาคตเลย
ผมมองไม่ออกว่า เราจะอยู่ในความสัมพันธ์แบบลักกินขโมยกิน เป็นชู้ คบซ้อน กันไปแบบนี้ได้นานแค่ไหน
ผมมองไม่ออกว่า ถ้าความสัมพันธ์ของเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆแล้วเขาแต่งงานกับสุภาพสตรีของเขา เราจะอยู่กันแบบใด
ผมมองไม่ออกจริงๆนะ
นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องศีลธรรมในใจ ความถูกต้อง ความเหมาะสม
ว่ากันแค่เรื่องความรู้สึกเพียงอย่างเดียวล้วนๆ
เมื่อไม่นานมานี้ ผมตัดสินใจทิ้งคำถามไปที่เขา ว่าเขามองภาพความรัก ที่เขาบอกว่า "รักในแบบของเขา" ว่าเป็นอย่างไร?
รักแบบพี่ชาย? รักแบบเพื่อน? รักแบบคนในครอบครัว? หรือ รักแบบใด?
และเขามองภาพความสัมพันธ์ของเราสองคนในอนาคตอย่างไร?
ซึ่งเขาก็ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อคำถามที่ผมทิ้งไว้
ผมรู้และยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน เราตีความและมีมุมมองต่อคำว่า "รัก" ที่ต่างกัน
แต่จะต่างกันแค่ไหน ตรงนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องคุยกัน
ถ้ามันต่างกันจนหาจุดเชื่อมไม่ได้ หรือ มีภาพในอนาคตที่มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผมก็คิดว่าผมควรต้องถอยและหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่นี้ มันคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามผมรู้ตัวเองดีว่า ไอ้นั่งพิมพ์ นั่งพูด หน่ะมันง่าย
แต่การตัดใจและเดินออกมาจริงๆหน่ะมันคนละเรื่องกันเลยครับ
ผมผ่านความรักมาไม่เยอะ รักใครสักคนนึง ผมอยู่กับความรู้สึกรักและความทุ่มเทหลายปีครับ
ผมไม่อยากกลับไปเสเพล เที่ยวกลางคืน หรือ ซื้อกินเหมือนในอดีตที่ผมทำๆมา
และความรักเมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันลบล้าง ลืมเลือน ได้ยากมากๆ
แต่การรักษาความรักเอาไว้ท่ามกลางความไม่ชัดเจนและคลุมเครือ มันก็เหมือนการหลอกตัวเอง
อึดอัดและทุกข์ใจมากครับ