เมื่อต้นปี67ผมได้ไปตรวจรักษาตามหมอนัดปกติผมมีหมอประจำเป็นของตัวเองแต่หมอประจำตัวของผมบอกว่าจะไปศึกษาต่อที่อเมริกาเลยได้บอกกับผมว่าจะมีหมอประจำตัวคนใหม่มาทำหน้าที่แทนจนกระทั่งได้เจอหมอคนใหม่เข้ามาสรุปก็คือผมไม่ชอบหมอคนใหม่เลยเธอดูไม่เก่งเธอเป็นคนที่ดุและก็เสียงดัง
เป็นผู้หญิงที่ชาตินี้ก็ไม่อยากจะเจอและนี้คือครั้งแรกที่ได้เจอจากนั้นเราเจอกันอีกที1เดือนหมอคนนี้เริ่มแนะนำเราว่าควรกินหรือควรใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อเป็นโรคนี้(ไม่ขอบอกนะครับว่าผมเป็นโรคอะไร)หลังจากนั้นผมกับหมอได้มีโอการแลกเปลี่ยนคำถามกันนอกเรื่องบ้างสรุปคือเราจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันหมออายุมากกว่าผมไป4ปีหลังจากนั้นผมก็เลยขอเฟสไปแต่ก็ไม่ได้ทักไปจนกะทั่งหมอทักมาว่าอย่าลืมมาให้ตรงนัดนะ(ผมเคยผิดนัดหมอ1ครั้ง)พอผมไปตรวจตามนัดเราก็คุยเรื่องรักษากันตามปกติไม่ได้มีอะไรจนกลับมาคอนโดหมอก็ทักมาบอกอย่าลืมทานยานะให้ตรงเวลานะตรงนี้แหละเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ผมเริ่มยิ้มกับข้อความนี้ผมเลยตอบกลัวว่า ครับ แล้วก็บอกหมอว่า หมอเองก็อย่าทำงานจนไม่มีเวลากินข้าวล่ะคับ พอผมส่งข้อความไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ากูทำอะไรไปว่ะเนี้ย
จนหมอได้อ่านตอบกลับว่า ขอบคุณค่ะ แล้วก็มีอีโมจิหัวใจส่งกลับมา ตอนนั้นผมตัวชาไปหมดแล้วก็สับสนไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าวแต่ตอนนั้นผมรู้สึกดีกับหมอไปแล้วเช้าวันถัดมาผมบังเอิญเจอหมอข้างนอกกับผู้ชายคนนึง(คอนโดของผมอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากๆ)ผมออกมาซื้อกับข้าวแล้วเจอหมอนั่งกินข้าวกับผู้ชายคนนึงหมอหั่นมาเจอผมพอดีแล้วก็จ้องหน้าผม ผมเลยยิ้มให้แบบไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่พอผมถึงคอนโดก็มีข้อความจากหมอทักมาบอกว่าผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายหมอ ผมตอบกลับสั้นๆ อ่อครับ วันนั้นตั้งแต่เช้ายันเย็นผมก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเกือบจะ1ทุ่ม หมอโทรมาหาผมหมอชวนผมออกมากินข้าวข้างนอกผมตอบตกลง ผมตั้งใจแล้วว่าจะบอกความรู้สึกตัวเองทั้งหมดจนเราเจอกันสรุปเราสองคนต่างคนต่างเงียบไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดีผมเลยพูดก่อน
ทำไหมถึงชวนผมออกมากินข้าว หมอ ตอบ เพราะเราแคร์ความรู้สึกของเธอไง สรุปหมอรู้ว่าผมชอบหมอ ผมอึ้ง เลยถามกลับแล้วหมอรู้สึกยังไงกับผม
หมอ ตอบหมอเองก็มีความรู้สึกดีๆให้ผมเหมือนกัน หลังจากนั้นผมได้ทำการเปลี่ยนตัวคุณหมอที่รักษาตัวผม แล้วผมกับหมอก็ตกลงเป็นแฟนกัน เพื่อไม่ให้เธอผิดจรรยาบรรณของแพทย์
ชอบหมอก็แค่บอก
เป็นผู้หญิงที่ชาตินี้ก็ไม่อยากจะเจอและนี้คือครั้งแรกที่ได้เจอจากนั้นเราเจอกันอีกที1เดือนหมอคนนี้เริ่มแนะนำเราว่าควรกินหรือควรใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อเป็นโรคนี้(ไม่ขอบอกนะครับว่าผมเป็นโรคอะไร)หลังจากนั้นผมกับหมอได้มีโอการแลกเปลี่ยนคำถามกันนอกเรื่องบ้างสรุปคือเราจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันหมออายุมากกว่าผมไป4ปีหลังจากนั้นผมก็เลยขอเฟสไปแต่ก็ไม่ได้ทักไปจนกะทั่งหมอทักมาว่าอย่าลืมมาให้ตรงนัดนะ(ผมเคยผิดนัดหมอ1ครั้ง)พอผมไปตรวจตามนัดเราก็คุยเรื่องรักษากันตามปกติไม่ได้มีอะไรจนกลับมาคอนโดหมอก็ทักมาบอกอย่าลืมทานยานะให้ตรงเวลานะตรงนี้แหละเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ผมเริ่มยิ้มกับข้อความนี้ผมเลยตอบกลัวว่า ครับ แล้วก็บอกหมอว่า หมอเองก็อย่าทำงานจนไม่มีเวลากินข้าวล่ะคับ พอผมส่งข้อความไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ากูทำอะไรไปว่ะเนี้ย
จนหมอได้อ่านตอบกลับว่า ขอบคุณค่ะ แล้วก็มีอีโมจิหัวใจส่งกลับมา ตอนนั้นผมตัวชาไปหมดแล้วก็สับสนไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าวแต่ตอนนั้นผมรู้สึกดีกับหมอไปแล้วเช้าวันถัดมาผมบังเอิญเจอหมอข้างนอกกับผู้ชายคนนึง(คอนโดของผมอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากๆ)ผมออกมาซื้อกับข้าวแล้วเจอหมอนั่งกินข้าวกับผู้ชายคนนึงหมอหั่นมาเจอผมพอดีแล้วก็จ้องหน้าผม ผมเลยยิ้มให้แบบไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่พอผมถึงคอนโดก็มีข้อความจากหมอทักมาบอกว่าผู้ชายคนนั้นคือพี่ชายหมอ ผมตอบกลับสั้นๆ อ่อครับ วันนั้นตั้งแต่เช้ายันเย็นผมก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเกือบจะ1ทุ่ม หมอโทรมาหาผมหมอชวนผมออกมากินข้าวข้างนอกผมตอบตกลง ผมตั้งใจแล้วว่าจะบอกความรู้สึกตัวเองทั้งหมดจนเราเจอกันสรุปเราสองคนต่างคนต่างเงียบไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดีผมเลยพูดก่อน
ทำไหมถึงชวนผมออกมากินข้าว หมอ ตอบ เพราะเราแคร์ความรู้สึกของเธอไง สรุปหมอรู้ว่าผมชอบหมอ ผมอึ้ง เลยถามกลับแล้วหมอรู้สึกยังไงกับผม
หมอ ตอบหมอเองก็มีความรู้สึกดีๆให้ผมเหมือนกัน หลังจากนั้นผมได้ทำการเปลี่ยนตัวคุณหมอที่รักษาตัวผม แล้วผมกับหมอก็ตกลงเป็นแฟนกัน เพื่อไม่ให้เธอผิดจรรยาบรรณของแพทย์