เนื่องจากตัวผมในวัย 22 ปี พึ่งรู้ว่า ตัวเองเป็น Sebderm โดยที่สมัย ม.ต้น จะเป็นขุยๆ เป็นจุดเดียวที่ Transverse wrinkles to the bridge of the nose หรือ Nose Bridge Wrinkles ผมไม่รู้ ภาษาไทยเรียกว่าอะไร? 

ด้วยความที่ตอนนั้นนึกว่า ผิวแห้งธรรมดา เพราะ ตอนนั้น ผมเป็นคนดื่มน้ำน้อยอยู่แล้ว ดื่มแค่ 1 ขวด จิบระหว่างวัน+ตอนกินข้าวเที่ยง ใน 1 วันที่อยู่สถานที่ศึกษา ตั้งแต่ ม.1 - ปี 4 ( และกำลังจะรับปริญญา เดือน พฤศจิกา-ธันวา ปี 67 นี้ 🌟 )  เหตุผล เพราะ ผมไม่อยากพลาดเนื้อหาที่อาจารย์กำลัง Present ถ้าพลาดไป ผมจะตามไม่ทัน  เพื่อนแต่ละคนก็ฟังผ่านๆ ไม่ได้สนใจ เล่นมือถือ เล่นเกมในห้องเรียน ชิลๆ อาจารย์ไม่ได้ว่าเลย ถ้าใครจะเล่น ผมเคยดื่มน้ำ วันละ 2 ขวด ตอนอยู่ รร. ผลกลายเป็นผมปวดฉี่ บ่อยมาก จะอั้นก็ไม่ได้เดี๋ยวปวดท้อง😂 ใน 1 ชม. ต่อ  1 คาบ ผมจะปวดฉี่ 3 ครั้ง แต่ถ้าแค่จิบๆ ผมจะปวดฉี่ตอนที่จบคาบเรียน พอดี ผมเลยเลือกใช้ชีวิตแบบนั้นเป็นต้นมา กลับบ้าน ผมก็ดื่มแค่ 1 ขวดครึ่ง เฉลี่ยๆ น่าจะ วันละ 1.5 ถึง 2 ขวด บางวันก็ 1.2 เลยคิดว่าที่เป็นขุยเพราะดื่มน้ำน้อย พอเห็นขุยผมก็แคะออกตลอด เพราะเห็นชัดมาก ก็ใส่ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆจนมันหายไปไม่กลับมาอีก อาจด้วยตอนนั้นผมบำรุงผิวหน้าด้วย ใช้ครีมกันแดดทุกเช้า ก่อนไป รร. และตอนนั้นผม เป็นรังแค ด้วย เพื่อนแนะนำเลย ใช้ Selsun แป๊ปเดียวก็หาย รังแคนานๆเป็นที แต่ขุยหายยาวเลย เหตุการณ์ เป็น ขุย และ รังแค เกิด ช่วง ม.3

และผมเป็นคนขี้ร้อนมาก จะมีเหงื่อ ออกที่มือกับเท้าตลอดเวลา แม้จะเปิดแอร์นอน หรืออากาศหนาวจัดๆ เหงื่อก็ออกตลอดครับ ทำให้มือผมมีตุ่มใสๆ ที่นิ้ว แต่ที่เท้า ไม่เป็นไรเลย งงมาก แต่ตุ่มใสๆที่นิ้ว คันมากจนต้องเกา พอเกาเสร็จก็เลือดออก แล้วมันก็ลามไปทั่ว เลยต้องใช้ยาตัวนี้มาทา รู้สึกว่า มันหายเร็วกว่ายาที่หมอให้มาครับ ยามันเย็นๆครีมชมพู 


พอ ม.4 ผมเริ่มเล่น Weight Training เพราะ มีกล้ามแขนโดยบังเอิญ 🤣 เป็นที่ผมคิดอยู่ตลอดถ้า เราไม่แบกหนังสือไปเรียน วันละ 12 เล่ม (คู่มือ+สมุดจด) เราจะสูงได้ขนาดไหนนะ? ด้วยความที่ หนังสือมันหนักมาก เพื่อนบางคนกระเป๋าแฟบมาก จนครูบ่น555+ พวกนี้ชิลๆยืมคนอื่นตลอด ผมเป็นเด็กเรียน ผู้ชายส่วนมากจะแนวเกเร ไม่สนใจเรียนเท่าไหร่ ผู้หญิงผมก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้น เลยหาที่พึ่งใครไม่ได้เลย ถ้าป่วยผมก็ไม่สามารถทบทวนการบ้าน กับใครได้ เพื่อนผู้หญิงก็ช่วยผู้หญิงด้วยกันมากกว่า เพื่อนผู้ชายก็เอามาแบ่งบ้าง ไม่แบ่งบ้าง ผมเลยต้องพึ่งพาตัวเองตลอดจนถึงตอนนี้ ( ทำให้ผมคิดว่า สังคมที่ช่วยเหลือกัน คงมีแต่ในหนัง ) ผมเสียงแหบ และ ผมสูงแค่ 152 cm. และมีขนแขน ขนขา ขึ้นตามตัวเยอะมาก คล้ายๆฝรั่งที่ขนเยอะๆ ภาพจำของคนเอเชียจะ ขนน้อยๆ ขาวๆ แต่ผมเป็นคนเอเชีย ผิวครีมออกน้ำตาลๆหน่อย ( ผมเคยขาวแต่โดนแดดเยอะ ไม่ทากันแดด ก็ผู้ชายอะเนอะ ผู้ชายแท้ๆคนไหนจะมาสนใจบำรุงผิวกัน ) และตัวเล็กขนเยอะเสียงแหบ ( ผมงงมาก ขนเยอะ ปัจจุบัน มีหนวดมีเครา ขึ้นเยอะมาก ได้เป็นแบบ John Wick แน่ๆถ้าไม่ได้โกนหนวดโกนเครา😆 ผมโกนหนวดโกนเครา วันเดียวก็ขึ้นแล้ว ขึ้นเร็วมาก

ปัจจุบัน มีเทคโนโลยีไหน ทำให้หนวดเครา ไม่ขึ้นบ้างครับ? รวมถึงขนแขนขนขาด้วยนะ ผมรำคาญมากๆ มีขนเยอะก็ไม่ได้ทำให้อุ่นขึ้นเลย หนาวเหมือนเดิม 😆 อยากซื้อเครื่องโกนหนวดไฟฟ้านะ แต่เคยใช้ของยี่ห้อนึ่ง มันไม่ใช่โกน มันคือเครื่องดึงหนวด ทั้งที่มันเขียนว่าเครื่องโกน55555+ โคตรเจ็บเลยครับ หนวดเคราผมไว้นานๆแค่ไหนก็แข็ง ไม่อ่อนเลย ผมเคยแว็กซ์ขนแขนขนขา รู้สึกลูบแล้วผิวเนียนดีเลยชอบ สะใจคนดึง แต่คนโดนโคตรเจ็บ😅 ตอนนั้นแม่ผม ไปที่ร้านแว็กซ์ด้วย แม่เห็นขนแขนขนขาผมเนียนดี แม่เลยนำเสนอคนแว็กซ์ ให้แว็กซ์หนวดเคราผมไปด้วยเลย บอกเลยว่า เลือดซิบออกเยอะมาก คางแดงมาก และบางเส้นขนก็ยังอยู่นะออกไม่หมดด้วย เพราะงี้หรือเปล่า สาเหตุที่ขนหนวดเคราผมแข็ง แสดงว่า ฮอร์โมนเพศชาย ผมเยอะใช่ไหม? ถ้าฮอร์โมนผมเยอะขนาดนี้ ทำไมผมสูงแค่ 152 cm. หรือเกี่ยวกับ พ่อแม่ผม พ่อสูง 170 cm แม่สูง 146 cm ผมได้ทางแม่มาเยอะ ทั่งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณมาจากแม่ทั้งหมด ยกเว้น นิสัยขี้บ่น ได้มาจากพ่อเต็มๆ🤣 หรือผมนอนดึกด้วย ชอบเล่นเกม นอนดึกตั้งแต่ประถมแล้ว นมก็ไม่ค่อยกิน กินแต่โค้ก เป๊ปซี่ โออิชิ แต่แม่บอกว่าตอนผมเกิดมา เล็กเท่าขวดน้ำปลา และตอนเด็กๆก็ไม่ได้ดื่มนมแม่ด้วย นมแม่ไม่ออก5555+ )

 อาจด้วยความสูงนี้หรือเปล่า? ทำให้เวลาเจอเพื่อนใหม่หรือจับกลุ่ม เค้ามักจะไม่เลือกเราเข้ากลุ่ม ยกเว้นเพื่อนสนิทจะพาเข้าอย่างเดียว หรือครูจัดกลุ่มให้ เป็นแบบนี้มาทุกครั้งที่เรียน ตั้งแต่เด็กจนโต เวลาจับกลุ่มผมไม่ชอบเพราะ รู้ว่าผมต้องถูกเลือกเป็นคนสุดท้ายตลอด ครูก็จะมาบ่น ทำไมเธอไม่หาเข้ากลุ่ม ไม่เข้าหาเพื่อน จะมีกลุ่มทำงานเหรอ? (บางครั้งผมก็อยากให้ครูคิดถึงตรงนี้ด้วย เด็กบางคน ไม่ใช่เค้าไม่อยากมีกลุ่ม เค้าอยากมี แต่เพื่อนในห้อง ไม่อยากเป็นเพื่อนกับเค้า อาจด้วยร่างกาย หรือ ลักษณะท่าทาง ยิ่งบางคนที่ย้ายเข้ามาใหม่กลางเทอมไม่รู้จักใครเลยและเป็น Introvert จะหาวิธีเข้าหาคนไม่เป็นเลย)

ผมก็มีปัญหาเรื่องงานกลุ่มจน ปี 2 คือ กลุ่มมี 3 คน รวมผม แบ่งหน้าที่กันหมดแล้ว แต่ไม่ทำ อาจารย์ให้กลับไปแก้แล้วแก้อีก คนในกลุ่มมันก็ไม่ทำ สุดท้ายติด I กันหมด ทั้งที่ผมก็ทำงาน ส่วนของผม เสร็จไปแล้ว ผมรู้สึกไม่ยุติธรรมจึงได้ไปแย้งกับอาจารย์ อาจารย์บอกเป็นงานกลุ่มก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เลยต้องติด I ไป พอเรียนวิชาใหม่เจออาจารย์คนเดิม (เป็นวิชาบังคับ) เค้าก็มองเห็นปัญหาตรงนี้เลย แก้ไข ทุกงานที่เค้าสั่ง จะไม่มีงานกลุ่มอีกต่อไป เฉพาะ ปี 64 รุ่นผม จะเป็นงานเฉพาะบุคคลไปเลย จะได้ Comments งานของแต่ละคนไปเลย ว่าใครที่ตั้งใจทำงานจริงๆ ผลคือ ไอ้คนในกลุ่ม 2 คนนั้น มันทำงานได้ในระดับดีเลย ( 2 คนนี้ อายุห่างกับผม 4 ปี และมีประสบการณ์การทำงาน คนนึ่งผ่านมา 3 มหาลัย เรียนไม่จบ อีกคนพึ่งจะเริ่มมาเรียน มหาลัย 2 คนนี้อายุเท่ากัน เลยจะเข้าข้างกันเป็นพิเศษ เวลาผมเสนออะไรไป ก็จะเงียบตลอด อ่านแต่ไม่ตอบประมาณนั้น ผมก็บอกเหตุผลนี้ไปกับอาจารย์ที่ให้ติด I ไปแล้ว ผมก็บอกว่า ผมเสนออะไรไป พวกเค้าเงียบอย่างเดียว ถ้าผมทำงานคนเดียวแบบนี้ มันก็ไม่ใช่งานกลุ่มสิครับอาจารย์!!! อาจารย์ก็ได้บอกแค่ว่า งานกลุ่มก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ผมแบบเราเต็มที่ในส่วนของเรา แต่อีก 2 คนไม่ทำไรเลย กลายเป็น คนที่ตั้งใจทำงานต้องมารับผลไปด้วย ผมรู้สึกไม่แฟร์มากๆ🥹 ) ตอนที่เป็นงานกลุ่ม ผมก็ถามว่า ทำไมไม่ทำงานกลุ่มกันวะ 2 คน อ้างแต่ว่า ติดงาน ต้องทำงาน ( คิดในใจ แหม่ทีเวลาไปดื่มเบียร์นี้ หาเวลาไปดื่มทุกวันได้เนาะ ห่วงงานมากจะมาเรียนทำไมวะ ไม่ลาออกไปทำงานเลยวะ งานกลุ่มวิชาอื่น ผมก็ต้องทำคนเดียวส่งอาจารย์วิชาอื่น เพราะอาจารย์จับกลุ่มให้ แต่ละสาขา เช่น ผมอยู่มัลติ เรียนภาค เสาร์-อาทิตย์ อาจารย์ก็จับให้อยู่กับพวกเสาร์อาทิตย์ นานๆทีจะได้อยู่กลุ่มกับพวก เรียนภาคธรรมดา ไม่งั้นผมคงเหนื่อยคนเดียวยาว ผมก็บอก ไอ้ 2 คนนี้ตลอด มาช่วยกันทำนะ แต่ก็ไม่ทำเลย พอเป็นงานเดี่ยว แหม่ ไอ้ 2 คนนี้ ส่งงานก่อนคนอื่นเลยนะ ถ้าวิชาไหนผมดูละ พอจะทำส่งคนเดียวได้ ผมก็จะทำส่งคนเดียว ถ้าไปบ่นกับอาจารย์ เค้าก็คงช่วยไรเราไม่ได้หรอกเพราะมันเป็นงานกลุ่ม ถ้าจะให้ผมมานั่งติด I หลายวิชา เพราะพวกมันไม่ทำงานส่ง ผมก็ไม่ไหว เวลามีค่า จะมานั่งเสียเวลาเรียนเพิ่มอีกปี เพราะเรื่องแบบนี้ผมไม่เอาหรอก ตอนใส่ชื่อพวกมันลงงานกลุ่มที่ผมทำคนเดียว ผมโคตรแค้น😆 ถือว่าช่วยให้มันผ่านๆจะได้จบๆกันไป ไม่ต้องเจอกันอีก ถ้าเจอกัน ก็จะไม่ยุ่งอะไรกับไอ้ 2 คนนี้เลย ) พอมาคิดดูตอนนี้ โลกเรามันก็ไม่แฟร์มาตั้งแต่เกิดแล้ว  ตั้งแต่ฐานะ พ่อแม่ ร่างกายครบ 32 สัญชาติ ผิวพรรณ ความสูง 

กลับมาที่เรื่องของเราต่อ ผมแบกกระเป๋าไปเรียน หนักมาก จนหลังตัวเองหลังแอ่น ทำให้เวลานอนเตียง หลังไม่เคยแตะหรือได้สัมผัสพื้นผิวของ เตียงเลย ทรมานมากๆ เป็นตอนไหนไม่รู้ตัวเลย เป็นตั้งแต่สมัย ม.4 แล้วเผลอมีกล้ามแขนโดยบังเอิญ เพราะไม่คิดว่าเกิดมา ตัวเองจะมีกล้ามแบบคนอื่นเค้าหรอก กินก็น้อย ดื่มน้ำก็น้อย ตั้งแต่นั้น ก็เริ่มเล่น Weight Training มาจนจบ ม.6 พอเกิดโรคระบาด สิบเก้า เป็นช่วงที่ผมเข้า ปี 1 พอดี เรียนออนไลน์สบายเลย ปล่อยเนื้อปล่อยตัวกินตามใจปากอร่อยมากครับ ไม่ต้องคุมอาหารที่ไม่ได้อยากกินอีกแล้ว ก็กินตามใจปากไม่ออกกำลังกายเลย นอนเกือบเช้าทุกวัน เพราะติดซีรีส์เกาหลี จนถึง วันนี้นี่แหละครับ😂 

เซ็บเดิร์ม มันก็แวะมาทักทาย ตอน ปี 2 เป็นที่เดิมแบบในภาพ ใช้น้ำเกลือชุบสำลีเช็ดเอา แล้วก็หายไป เพราะคิดว่าผิวแห้งแบบตอน ม.3 แต่คราวนี้ มี ระหว่างคิ้ว มาเพิ่ม รังแคก็เป็นอยู่นานๆครั้ง จนมาถึงวันนี้ คือหนักที่สุด เป็นที่เดิม 2 จุดที่กล่าวไป เพิ่มมาเป็นขุยๆข้างในใบหู อีก 2 ข้าง หน้าผาก แถวๆบริเวณเส้นผม เป็นขุยๆผิวด้านๆสากๆ รังแคเป็นแผ่นๆ ค้นข้อมูลไปค้นข้อมูลมาคิดว่า รังแคธรรมดา ผิวแห้งธรรมดา จนมามั่นใจตรงใบหูนี้แหละ ส่วนมาก คนที่เป็นขุยๆข้างในบริเวณใบหู คือ เซ็บเดิร์ม และผมไปไปดูๆมาคนไทยเป็นกันเยอะมาก

ตอนนี้ผมเลยพยายามดื่มน้ำให้ได้ วันละ 2-3 ขวด พอถึงจุดที่เลย 3 ขวด ขวดต่อไปคือ จิบระหว่างวันเรื่อยๆ ตอนจะนอนก็ไม่ค่อยดื่มน้ำเลย เพราะปวดฉี่บ่อยมากตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น แล้ว อาจเพราะ ตัวผมเล็ก 152 cm ช้างน้อย ผมก็เลยเล็กตามตัวไปด้วยมั้ง ทำให้เวลาดูหนัง 1 ตอน 1 ชม. ปวดฉี่ 3 ครั้ง เวลาดูหนังที่โรงหนัง ก็จะแค่จิบๆน้ำ ผมจิบน้อยมาก เพราะอยากตั้งใจดูหนังไม่ขาดตอน ก็จะปวดฉี่ตอนหนังจบพอดี ไม่รู้ว่าจะทำไงครับ ตอนนอนมีปัญหามากครับ พอหลับได้ซัก 4 ซม. ดันตื่นมาปวดฉี่ พอตื่นมาฉี่ก็หลับยาก ต้องใช้เวลาหลับตา 2 ซม. กว่าจะหลับลึกๆอีกครั้ง บางวันนอนยาว 8 ซม. แต่ตื่นมากางเกงเปียก ทุกเช้า ( ใช่ครับ มันคือ ฉี่ 😆 ) บางวันหลับยาว 8 ซม. พอตื่นมา ก็รู้สึกปวดฉี่กะทันหัน เหมือนมันอั้นฉี่ไม่ไหวจะแตกแล้ว พอฉี่เสร็จก็เจ็บ เพราะฉี่เป็น กะปริบกะปรอย แสบตลอดวัน ชีวิตก็วนลูบแบบนี้แหละครับ ไม่รู้ว่า มีปัญหาที่ช้างน้อยเก็บน้ำฉี่ได้น้อย หรือ ร่างกายสั่งให้ปวดฉี่ถี่ๆ แต่อาการที่เป็นมา ฉี่ใสๆตลอดครับ ยกเว้นดื่มน้ำน้อยจะเหลืองๆหน่อย

และผมคันมุมปากด้วย พอปากกลับมาเป็นปกติ ซักพักก็กลับมาคันใหม่ วนลูปอีกละ เป็นมานานก่อนที่จะมีขุยๆซะอีก ไม่แน่ใจว่า กินเผ็ดมากเกินไป หรือ ผิวแห้งไม่ค่อยดื่มน้ำ รังแคก็มาก่อนที่จะเป็นขุยๆ แต่ผมเป็นคนเหงื่อ ออกเยอะอยู่แล้ว อยู่ที่ไม่มีแอร์ก็เหงื่อออก นอนห้องแอร์ก็เหงื่ออก กินเผ็ดก็เหงื่อออก เล่นมือถือ เล่นเกม ดูหนัง สรุปทำอะไรผมเหงื่อ ที่มือ กับเท้า ออกหมด แต่เหงื่อ ที่หน้ากับผม จะออกตอนที่ ออกกำลังกาย หรือกินของเผ็ดๆ หรืออยู่ที่มีแต่พัดลม ไม่มีแอร์ เดินอยู่ห้างที่มีแอร์บางที ผมก็ร้อน เหงื่อหน้ากับผมเป็นประจำเลย สาเหตุมาจากขนตัวเยอะมั้ยนะ😆

ผมเลยสงสัยว่า ถ้าดารา หรือ นักแสดง Hollywood เป็น เซ็บเดิร์ม เค้าจะมีการดูแลรักษาอย่างไรบ้าง เพราะด้วยอาชีพที่เป็นนักแสดง ต้องรักษาผิวหน้าอยู่ตลอด เค้าน่าจะมีวิธีที่รักษาได้ผลหายเร็วที่สุด

ทำไมผมถึงคิดว่า นักแสดง Hollywood มีโอกาสเป็น เซ็บเดิร์ม? ทุกอาชีพ ต่างก็มีวันที่ต้องนอนดึกนอนน้อย เครียดหนัก และพวก ของหวาน น้ำตาล แป้ง นมวัว ขนมปัง ยีสต์ อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ อาการนี้เกิดขึ้น อาหารฝรั่งส่วนมากประกอบไปด้วยพวกนี้ทั้งนั้นเลย และผมก็ชอบกินขนมปังมากว่าข้าวด้วย รู้สึกตอบโจทย์ผมมากกว่าครับ