สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 24 ปี ปัจจุบันทำงานเอกสารเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า การติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ระบบสัญญาณโทรศัพท์ เป็นต้น ประเด็นคือก่อนหน้านี้เราทำงาน+เรียนคณะนิติศาสตร์ของม.ราม แต่งานที่เราทำก็จะเป็นงานที่ใช้ทักษะสกิลไม่มากนัก สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่กดดันเท่าไหร่นัก เช่น งานแม่บ้าน งานบริการร้านอาหาร หรืองานเกษตร ทำสวนกรีดยาง ล้างรถ เป็นต้น จนล่าสุดเราได้มีโอกาสไปฝึกงานตามสายที่เราเรียน คืองานกฎหมาย แต่มีระยะเวลาที่ฝึกในช่วงสั้นๆ ตอนนั้นเราตัดสินใจลาออกจากงานที่ทำอยู่คือแม่บ้าน เพื่อมาฝึกงานที่นี่ เพราะเล็งเห็นถึงประสบการ์ณและโอกาสที่จะพบเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆที่ดี แต่พอเราฝึกเสร็จ เราก็ต้องเริ่มหางานทำเพราะต้องใช้เงินในการเรียนและขับเคลื่อนดำเนินชีวิต จนมาได้งานปัจจุบันที่ทำ เพราะพี่ที่เราไปฝึกงานเค้าแนะนำให้เรามาทำค่ะ และตัวเราเองก็มองว่ามันคือโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้งานอีกแบบหนึ่งที่เราไม่เคยได้ทำ ไม่ว่าจะคอมพิวเตอร์หรือภาษาอังกฤษในการทำงาน(ศัพท์เฉพาะในเนื้องาน) เพราะตัวเราเองก็แทบจะเล่นคอมไม่เป็นเลยค่ะ แต่มาทำงานที่นี่ได้ สองอาทิตย์ เรารู้สึกว่า ระบบวงจรไฟฟ้า ศัพท์ต่างๆที่เราไม่เคยรู้มาก่อนมันเป็นอะไรที่ท้าทายสำหรับเรามาก มีศัพท์ ระบบไฟ การทำงาน ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เราเริ่มงานจากความรู้เป็นศูนย์เลยค่ะ ด้วยความที่ ที่นี่พนักงานน้อยดังนั้นคนสอนงานจึงมักไม่ค่อยว่างมาสอนงานเราเพราะงานที่อยู่ในมือพี่เค้าก็เต็มมือมากๆแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องใฝ่รู้เเละเรียนรู้เองบ่อยครั้งค่ะ(แต่ถ้าพี่เค้าว่างพี่ก็จะมาสอนงานนะคะ) ตอนนี้เราเลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานและเรียนรู้งานนี้ยังไงดี บ่อยครั้งที่มีคำถามขึ้นมาในหัว ว่าเราจะามารถทำงานนี้ได้หรือเปล่าค่ะ แต่ก็บอกตัวเองทุกครั้งที่ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัว ว่าถ้าหากเรากำลังรู้สึกอึดอัด หรือรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันยากสำหรับตัวเราอยู่แสดงว่าเรากำลังได้รับการพัฒนา เพราะถ้ามันยากมันคือสิ่งที่เราไม่รู้หรือไม่ถนัด แต่ถ้ามันง่ายแสดงว่ามันก็คือความสามารถที่เราสามารถทำมันได้ แต่มันก็มีคำถามมาเรื่อยๆเลยค่ะ ว่าจะอยู่ได้ไหมว่ะกับงานนี้ แต่ในสมองอีกซีกหนึ่งก็ตะโกนบอกเรานะคะว่า นี่คือโอกาศในการเรียนรู้งานเอกสาร งานคอมที่ใช้จริงๆในการทำงาน ถ้าเราสามารถำที่นี่ได้ มันก็จะดีกับตัวเราเองในอนาคต แต่บางครั้งมันก็ท้อใจค่ะ เพราะมีคำพูดที่พี่สอนงานเค้าพูดค่อนข้างแรงนิดหน่อยค่ะ เช่น ว่าเราบ้านนอกไม่เคยเข้าเมือง (แบบนี้คงตามไม่ทันคน) อันนี้เราก็มองว่าเค้าคงเป็นห่วงเราที่เราเด็กกลัวเราไม่ทันคนเลยพูดแบบนี้ออกมา ทำไมแค่นี้ทำไม่ได้ เรียนรู้งานนี้มาหลายวันละยังทำไม่ได้ วันนี้ทำแค่สิ่งเดียวก็หมดวันไม่ต้องทำอะไรแล้ววันนี้ รู้ไหมตอนที่พี่มาทำงานไม่มีคนมาสอนแบบนี้นะ ต้องเรียนรู้งานเองต้องนั่งสังเกตเองว่าอะไรคืออะไร ประมาณนี้ แต่ก็มองในแง่บวกนะคะ เค้าคงกำลังบอกเราว่า การทำงานต้องมีไหวพริบ เรียนรู้ให้ได้ เรียนรู้ให้เป็น เราก็พยายามมากแล้วจริงๆค่ะกับสองอาทิตย์นี้ พี่ๆทุกคนคิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้างคะ หนูควรทำอย่างไร ปรับทัศนคติตัวเองอย่างไรดีคะ เรียนกฎหมายแต่มาทำงานที่มีความรู้เกี่ยวกับไฟฟ้า เราควรเริ่มเรียนรู้จากตรงไหนดีคะ หรือควรทำอย่างไรดี ปัจจุบันมีวุฒิ แค่ ม.6ค่ะ เพราะรอเกรดออกรอใบจบค่ะ
ทำงานไม่ตรงสาย เรียนรู้แบบไหนให้ได้ความรู้เกี่ยวกับงานมากที่สุด