The 1 แบ่งผู้ใช้ iPhone ออกเป็น 5 กลุ่มหลักที่มีพฤติกรรมการซื้อต่างกัน

1) Gen Z (18-24 ปี) ชอบท่องโซเชียล เน้นความคุ้มค่า นิยมซื้อ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus (หรือรุ่นก่อนหน้าที่คุ้มค่ากว่า) เลือกความจุแค่ 128 GB และชอบสีดำที่สุด ชอบอัปเกรดทุกปีและผ่อน 0% ปีนี้น่าจะซื้อ iPhone 16 และ iPhone 16 Plus

2) Gen Y (25-40 ปี) หรือหนุ่มออฟฟิศสาย Tech มอง iPhone เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ-สถานะทางสังคม ปีที่แล้วเลือกซื้อ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ความจุ 512GB หรือ 1TB สีที่นิยมสูงสุดคือ Black และ Natural Titanium

กลุ่มนี้ชอบอัปเกรด iPhone ทุกปี เป็นกลุ่มขับเคลื่อนยอดขายรุ่นท็อปในไทย และปีนี้จะซื้อ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max

3) พ่อแม่ยุคใหม่ Millennial Parents (30-45 ปี) เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานจริง-ขนาดความจุเพียงพอระยะยาว จึงเลือกซื้อ iPhone 15 หรือ iPhone 15 Plus ความจุ 128GB หรือ 256GB สีที่นิยมสูงสุดคือ Colorful เช่น ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีรายจ่ายหลากหลาย จึงไม่เปลี่ยนเครื่องบ่อย มักอัปเกรดทุก 3-4 ปี ปีนี้มีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 หรือ iPhone 16 Plus

4) Gen X รุ่นใหญ่สายสมาร์ท (45-60 ปี ) เลือก iPhone รุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มองเป็นการลงทุนระยะยาว และอัปเดทเทคโนโลยีในแต่ละครั้ง ปีที่แล้วเลือกซื้อ iPhone 15 Pro Max ความจุ 512GB หรือ 1TB สีที่นิยมสูงสุดคือ Blue Titanium

กลุ่มนี้มีรอบการอัปเกรดอุปกรณ์ทุก 2-3 ปี และไม่เน้นการเปลี่ยนตามกระแสสังคม ปีนี้มีแนวโน้มจะซื้อ iPhone 16 Pro Max

5) Baby Boomer (60 ปี+) เกษียณสายชิลหรือกลุ่ม Silver Spenders เน้นใช้งานเพื่อสื่อสารทั่วไป-ฟังก์ชันสุขภาพ มักเลือกซื้อ iPhone SE หรือ iPhone 15 หรืออาจเป็นรุ่นก่อนหน้า รุ่นความจุ 64GB หรือ 128GB สียอดนิยมคือ ฟ้า เหลือง ชมพู เขียว

กลุ่มนี้ใช้ควบคู่กับ Apple Watch Series 9 เชื่อมต่อฟังก์ชันการติดตามข้อมูลสุขภาพอย่างละเอียด มักอัปเกรดทุก 4-5 ปี และมีแนวโน้มที่จะซื้อ iPhone 16 และ Apple Watch ในปีนี้

ที่มา :  Brand Inside