Totto-Chan: The Little Girl at the Window - โต๊ะโตะจัง: เด็กหญิงข้างหน้าต่าง
กำกับโดย Shinnosuke Yakuwa
เรื่องราวจากวรรณกรรมของ Tetsuko Kuroyanagi (โต๊ะโตะจัง)
เชื่อว่าคนไทยไม่มากก็น้อยน่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านหูมาบ้าง
ผมก็เช่นกันที่เคยผ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว ยอมรับว่า ในช่วงสมัยเริ่มอ่านตอน ม.1 ยังไม่เข้าใจถึงนัยยะที่ผู้แต่งนิยายสื่ออย่างถ่องแท้ อย่างไรก็ตาม จำได้ว่า
"โต๊ะโตะ เป็นเด็กหญิงที่ร่าเริง ซุกซน และมีหัวใจอันงดงาม"
จนกระทั่งได้เห็นหนังเรื่อง
Totto-Chan: The Little Girl at the Window (2023) ที่เพิ่งจะเข้าฉายก็รู้สึกสนใจทันที
ด้วยวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว อาจทำให้เราเข้าใจถึง "แก่นแท้" มากขึ้น ซึ่งต่างจากช่วงวัยที่เราไม่มีประสบการณ์มากพอ
เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ขอเข้ารีวิวเลยแล้วกัน !
เรื่องย่อ
โต๊ะโตะจัง: เด็กหญิงข้างหน้าต่าง Totto Chan - Official Trailer
"โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" เขียนโดย "คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ" ที่เล่าชีวิตตัวเองสมัยเด็กช่วงราวสงครามโลกครั้งที่ 2
"โต๊ะโตะจัง" เด็กหญิงที่คอยทำให้คุณแม่ปวดหัว เมื่อเธอซุกซนจนโรงเรียนเชิญออก ดังนั้นแม่ของเธอจึงส่งเธอเข้า
"โรงเรียนโทโมเอ" ที่มีคุณครู
"โคบายาชิ" เป็นครูใหญ่
ที่โรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยความแตกต่าง ด้วยความโอบอ้อมอารีของครูใหญ่และเพื่อน ๆ ทำให้โต๊ะโตะได้มีช่วงชีวิตที่น่าจดจำ ณ โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเป็นความทรงจำที่เธอไม่มีวันลืม
ความรู้สึกหลังชม
- ต้องชมว่า
Totto-Chan: The Little Girl at the Window (2023) มีบทและฐานเรื่องราวจากนิยายที่ไม่ธรรมดา
หนังเรื่องนี้ผสมหลากหลายแนวกันอย่างกลมกล่อม ตั้งแต่การเป็น
"หนังชีวิต" (Drama), "หนังให้แรงบันดาลใจด้านการศึกษา" (Educational film), "หนังต่อต้านสงคราม" (Anti-war film) และ
"หนังก้าวผ่านพ้นวัย" (Coming-of-age)
- ในส่วนแรก เรื่อง
"หนังเพื่อการศึกษา"
เรื่องราวของ
"โต๊ะโตะจัง" ให้แรงบันดาลใจที่ดีด้านการศึกษา โดยเฉพาะการออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน สังเกตได้ว่า หลักสูตรของ
"โทโมเอ" มีความหลากหลายรองรับกับความต้องการและความถนัดของผู้เรียน
นอกจากนี้ยังมีคุณครูที่เข้าใจในนักเรียน โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็น
"บ้าน" อันอบอุ่น เป็นที่พักใจให้กับนักเรียนเป็นอย่างดี
ทำให้น่าคิดว่า แม้โรงเรียนแห่งนี้จะไม่ได้ผลิตนักเรียนที่
"เก่งในวิชาการ" แต่นักเรียนจำนวนไม่น้อยต่างสอบได้คะแนนเต็มในวิชา
"การใช้ชีวิต" ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้เรียนอย่างประเมินค่าไม่ได้
- ส่วนถัดมา
"Slice of life" หรือ
"การตัดเสี้ยวชีวิต" มาเล่าให้กับผู้ชม
อันที่จริงชีวิตประจำวันของ
"โต๊ะโตะจัง" ดูแทบจะไม่มีอะไร นอกจากการวิ่งเล่นสนุกไปกับเพื่อน ทว่าด้วยการเรียบเรียงที่ดี ทำให้ผู้ชมอยากรู้ในเรื่องราวถัดไปของหนังเสมอ
รวมถึงหนังใช้ประโยชน์ของความเป็น "
แอนิเมชัน" อย่างการใส่ฟุตเทจจินตนาการของโต๊ะโตะ ทำให้เรื่องราวชีวิตแสน
"ธรรมดา" ออกมา
"ไม่ธรรมดา" ทีเดียว
- ส่วนที่สาม
"การเติบโตของโต๊ะโตะ" ทำให้เราเข้าใจในสัจธรรมชีวิตมากขึ้น
ชีวิตคนล้วนเติบโตจากเรื่องราวและประสบการณ์ โต๊ะโตะก็เช่นกัน เธอเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวและการอบรมที่ดีจากโรงเรียน
จนกระทั่งเมื่อเธอได้พบกับ
"ความสูญเสีย" และผลพวงจากสงคราม เธอจึงเป็น
"ผู้ใหญ่" ขึ้น ซึ่งแลกมาด้วย
"ความไร้เดียงสา" ที่จางหายไป
ยังดีที่เธอเคยมีช่วงเวลาที่ดีในความทรงจำ... ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด "เด็กน้อยโต๊ะโตะจัง" คนนั้นจะยังคงอยู่ในห้วงความทรงจำตลอดไป
- ส่วนสุดท้าย ชอบที่หนังแสดง
"มิตรภาพ ความไร้เดียงสา และความบริสุทธิ์ของเด็ก" ได้อย่างงดงาม
ระหว่างดูเรารู้สึกได้ถึง
"ความบริสุทธิ์และความจริงใจ" ที่หนังมอบให้ ทั้งจากเรื่องราว จินตนาการ งานภาพสีน้ำอันประณีต และดนตรีประกอบ ทำให้โดยรวม หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ครบเครื่องน่าประทับใจ
- เพลงประกอบท้ายเรื่องเพราะมาก // พากย์ไทยดีมาก ส่วนเสียงญี่ปุ่นคิดว่าดีไม่แพ้กัน
Aimyon - Anone
สรุป
แม้ว่าหน้าหนังจะดูเป็นหนังเด็ก แต่ที่จริงแล้ว
"Totto-Chan: The Little Girl at the Window" ดูจะมีประเด็นให้ผู้ใหญ่ได้ขบคิดพอสมควร
ส่วนตัวรู้สึกประทับใจและทึ่งกับหนังเรื่องนี้ที่ให้ข้อคิดกับผู้ชมมากมาย ทั้งยังทำให้เห็นถึงภาพผลกระทบของสงครามจากในมุมมองของญี่ปุ่น
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย เป็นหนังที่งดงามและทำได้ดีจริง ๆ
____________________________________
ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
Lemon8: BENJI Review
IG: benjireview
โต๊ะโตะจัง: เด็กหญิงข้างหน้าต่าง (2023) - เด็กน้อยในวันนั้น กับห้วงความทรงจำไม่มีวันลืม
ผมก็เช่นกันที่เคยผ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้ว ยอมรับว่า ในช่วงสมัยเริ่มอ่านตอน ม.1 ยังไม่เข้าใจถึงนัยยะที่ผู้แต่งนิยายสื่ออย่างถ่องแท้ อย่างไรก็ตาม จำได้ว่า "โต๊ะโตะ เป็นเด็กหญิงที่ร่าเริง ซุกซน และมีหัวใจอันงดงาม"
จนกระทั่งได้เห็นหนังเรื่อง Totto-Chan: The Little Girl at the Window (2023) ที่เพิ่งจะเข้าฉายก็รู้สึกสนใจทันที
ด้วยวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว อาจทำให้เราเข้าใจถึง "แก่นแท้" มากขึ้น ซึ่งต่างจากช่วงวัยที่เราไม่มีประสบการณ์มากพอ
เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ขอเข้ารีวิวเลยแล้วกัน !
เรื่องย่อ
ที่โรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยความแตกต่าง ด้วยความโอบอ้อมอารีของครูใหญ่และเพื่อน ๆ ทำให้โต๊ะโตะได้มีช่วงชีวิตที่น่าจดจำ ณ โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเป็นความทรงจำที่เธอไม่มีวันลืม
ความรู้สึกหลังชม
- ต้องชมว่า Totto-Chan: The Little Girl at the Window (2023) มีบทและฐานเรื่องราวจากนิยายที่ไม่ธรรมดา
หนังเรื่องนี้ผสมหลากหลายแนวกันอย่างกลมกล่อม ตั้งแต่การเป็น "หนังชีวิต" (Drama), "หนังให้แรงบันดาลใจด้านการศึกษา" (Educational film), "หนังต่อต้านสงคราม" (Anti-war film) และ "หนังก้าวผ่านพ้นวัย" (Coming-of-age)
เรื่องราวของ "โต๊ะโตะจัง" ให้แรงบันดาลใจที่ดีด้านการศึกษา โดยเฉพาะการออกแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน สังเกตได้ว่า หลักสูตรของ "โทโมเอ" มีความหลากหลายรองรับกับความต้องการและความถนัดของผู้เรียน
นอกจากนี้ยังมีคุณครูที่เข้าใจในนักเรียน โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็น "บ้าน" อันอบอุ่น เป็นที่พักใจให้กับนักเรียนเป็นอย่างดี
ทำให้น่าคิดว่า แม้โรงเรียนแห่งนี้จะไม่ได้ผลิตนักเรียนที่ "เก่งในวิชาการ" แต่นักเรียนจำนวนไม่น้อยต่างสอบได้คะแนนเต็มในวิชา "การใช้ชีวิต" ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้เรียนอย่างประเมินค่าไม่ได้
อันที่จริงชีวิตประจำวันของ "โต๊ะโตะจัง" ดูแทบจะไม่มีอะไร นอกจากการวิ่งเล่นสนุกไปกับเพื่อน ทว่าด้วยการเรียบเรียงที่ดี ทำให้ผู้ชมอยากรู้ในเรื่องราวถัดไปของหนังเสมอ
รวมถึงหนังใช้ประโยชน์ของความเป็น "แอนิเมชัน" อย่างการใส่ฟุตเทจจินตนาการของโต๊ะโตะ ทำให้เรื่องราวชีวิตแสน "ธรรมดา" ออกมา "ไม่ธรรมดา" ทีเดียว
ชีวิตคนล้วนเติบโตจากเรื่องราวและประสบการณ์ โต๊ะโตะก็เช่นกัน เธอเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวและการอบรมที่ดีจากโรงเรียน
จนกระทั่งเมื่อเธอได้พบกับ "ความสูญเสีย" และผลพวงจากสงคราม เธอจึงเป็น "ผู้ใหญ่" ขึ้น ซึ่งแลกมาด้วย "ความไร้เดียงสา" ที่จางหายไป
ยังดีที่เธอเคยมีช่วงเวลาที่ดีในความทรงจำ... ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด "เด็กน้อยโต๊ะโตะจัง" คนนั้นจะยังคงอยู่ในห้วงความทรงจำตลอดไป
ระหว่างดูเรารู้สึกได้ถึง "ความบริสุทธิ์และความจริงใจ" ที่หนังมอบให้ ทั้งจากเรื่องราว จินตนาการ งานภาพสีน้ำอันประณีต และดนตรีประกอบ ทำให้โดยรวม หนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ครบเครื่องน่าประทับใจ
- เพลงประกอบท้ายเรื่องเพราะมาก // พากย์ไทยดีมาก ส่วนเสียงญี่ปุ่นคิดว่าดีไม่แพ้กัน
ส่วนตัวรู้สึกประทับใจและทึ่งกับหนังเรื่องนี้ที่ให้ข้อคิดกับผู้ชมมากมาย ทั้งยังทำให้เห็นถึงภาพผลกระทบของสงครามจากในมุมมองของญี่ปุ่น
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย เป็นหนังที่งดงามและทำได้ดีจริง ๆ