คิดว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับงานประดับไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่จัดขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งสำหรับงานที่จะจัดขึ้นต้นปี 2025 ที่ประกาศไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนตั้งตารอที่จะจับจองที่พักในหมู่บ้านที่แสนจะมีจำกัด เพื่อได้สัมผัสบรรยากาศสวยๆ ฟินๆ ท่ามกลางหิมะขาวโพลนซักครั้ง เราเลยอยากเอาภาพบรรยากาศช่วงเก็บตกงานเทศกาลที่ได้มีโอกาสไปมากลางเดือนกุมภาพันธ์ให้คนที่กำลังเตรียมตัวไปได้มาร่วมแชร์ความรู้สึกและความประทับใจไปด้วยกันนะ

ก่อนอื่นเราขอแชร์ภาพบรรยากาศถนนหนทางภายในหมู่บ้านที่ไม่ว่าใครที่ขับรถไปเองหรือนั่งรถบัสไปจะต้องเจอก่อนเลยละกันนะ


ช่วงที่พวกเราไปจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์โดยนั่งรถบัสจากคานาซาว่าเข้าไปที่หมู่บ้านเพื่อค้างคืนด้านในหมู่บ้าน 1 คืน การเดินจากสถานีรถบัสไปยังที่พักค่อนข้างลำบากเล็กน้อยเพราะหิมะตกหนัก ต้องใช้ร่มกางเพื่อกันหิมะตกไม่งั้นจะมองเห็นทางลำบากมาก อุณหภูมิขณะที่เดินกันก็ค่อนข้างหนาวมากเลยทีเดียว หิมะยังไม่ลื่นมากเพราะเป็นหิมะตกใหม่ยกเว้นบางช่วงที่บางบ้านจะละลายหิมะที่ทับถมก็จะเป็นน้ำแข็งลื่นๆ จนทำให้วืดบ้างในบางช่วง




หลังจากที่พวกเราเดินถึงที่พัก เช็คอินเก็บของ ฟังเรื่องของกฏระเบียบต่างๆ ในการพักค้างคืนในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้วก็พักผ่อนภายในที่พัก อบอุ่นร่างกายก่อนทานมื้อเย็น หลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จแล้วเจ้าของที่พักใจดีมาก ขับรถพาพวกเราขึ้นไปจุดชมวิวที่ให้ได้เห็นไฟประดับของหมู่บ้านซึ่งเป็นสถานที่ที่ทุกคนที่ไปค้างคืนต้องไปเฝ้ารอเพื่อเก็บภาพสวยๆ ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ย่อมไม่พลาด แต่จะเดินฝ่าหิมะไปก็ทำใจนานจนเจ้าของบ้านคงทนไม่ไหวอาสาพาพวกเราขึ้นไปแทนจนได้ภาพสวยๆ มาให้ได้เป็นที่ระลึกกัน


หลังจากกลับลงมาด้านล่างและเข้าที่พักแล้วพวกเราก็เดินออกไปออนเซนในหมู่บ้านกัน ***ขอเตือนสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ออนเซนแล้วรู้สึกร่างกายอุ่นจนเดินฝ่าหิมะกลับที่พักแบบไม่ใส่เสื้อกันหนาว อย่าหาทำเด็ดขาดเพราะหลังจากนั้นจะป่วยโดยไม่รู้ตัวแล้วจะเที่ยวไม่สนุกเพราะพวกเราทำกันมาแล้ว บอกเลยซึมไปเกือบ 2 วัน55555 หมู่บ้านนี้จะค่อนข้างนอนเร็ว เพราะเค้าจะตื่นเช้ากันมาก หลังจาก 4 ทุ่มจะห้ามใช้เสียงแล้ว

ช่วงเช้าพวกเรามาเดินเที่ยวภายในหมู่บ้านก่อนจะย้ายไปเที่ยวเมืองอื่น บ้านเรือนที่หลังจากสามเหลี่ยมทรงกัซโชที่เราเห็นจะมีคนมาช่วยกันละลายหิมะกันแต่เช้า ใครที่เดินเที่ยวก็จะต้องคอยหลบให้ดีๆ ด้วย ภาพบรรยากาศสะพานข้ามแม่น้ำที่เป็นมุมยอดฮิตจะเต็มไปด้วยหิมะขาวไปหมด สำหรับฤดูหนาวนี้ สามารถทำให้ใครหลายคนเหงาได้เลยนะจากบรรยากาศ


ส่วนตัวแล้วชอบที่นี่มากทั้งบรรยากาศ อาหาร ผู้คนในหมู่บ้านล้วนมีแต่คนใจดีมีน้ำใจ เรารู้สึกโชคดีมากที่มีโอกาสได้มานอนพักค้างคืนที่นี่ 4 ครั้ง 3 ฤดู ไม่เคยเบื่อเลยที่จะมาที่นี่ อยากให้เป็นอีกที่นึงที่คนที่ได้มาเยือนแล้วจะชื่นชอบเหมือนกัน หวังว่าทุกคนจะชอบและอยากไปเที่ยวที่นี่ซักครั้ง แล้วเดี๋ยวจะมาแชร์ภาพบรรยากาศอีก 1 ฤดูกาลคือฤดูใบไม้ผลช่วงซากุระที่มีโอกาสได้ไปเยือนแล้วอยากให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศฤดูกาลที่แตกต่างกันไปด้วยกันนะ

ใครที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะไปซักครั้งช่วง Light Up 2025 นี้ก็ขอให้โชคดี เพราะเดือนกันยานี้หมู่บ้านเปิดให้จองที่พักด้านในกันแล้ว....ขอให้โชคดีได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ มีบันทึกความทรงจำที่ดีเป็นพลังในการทำงานน้า