สมมุติว่า... รัฐบาลไทยตระหนักรู้ถึงอธิปไตยบนโลกอินเตอร์เน็ต ถ้าคนไทยคนไหนอยากมีโดเมน .thai เป็นของตน ก็ติดต่อรัฐ (registar) ขอมีฟรีๆ ตลอดชีพ (เช่น กดขอผ่านแอพทางรัฐ ก็ได้อ่ะ) ซึ่ง ชื่อแรกฟรี แต่ถ้าไปหาหมอดูแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ อยากได้โดเมนใหม่ ก็ครั้งละ 888 บาท พร้อมชื่อเก่าก็จะโดนลบและใช้ซ้ำไม่ได้อีก (เก็บ log ทุกชื่อเก่าตลอดกาล) เปลี่ยนได้เสมอถ้ามีเงินจ่าย
(ชื่อคุณ).thai สามารถ redirect ไปยังเว็บ โซเชียล มีเดียที่คุณเป็นตัวจริงได้ หรือ ทำหน้า parking (รัฐบาลมีบริการฟรีทำหน้าโปรไฟล์ให้) ให้เป็นหน้าโปรไฟล์ของคุณเอง ซึ่ง คุณสามารถซ่อนได้ "ทุกส่วน" ที่ไม่ให้สาธารณชนและ bot crawler มายุ่ง ใครอยากรู้จัก และขอดูของสงวนคุณ เขาต้องมีบัญชีทางรัฐ เพื่อกดขอ token เพื่อ ขอดู "1 ครั้ง ใน 1 ส่วน" โดยจะมีการเก็บ log ตลอดกาล ว่าใครมาขอดู และยอมให้ใครดูกี่ครั้ง ข้อมูลนี้ฝังเก็บกับ thailand digital id egov ของ dga หรือ mdes
เมื่อคนไทยมี .thai เป็นของตนเอง และเห็นว่าระบบเว็บฟรีพื้นฐานที่รัฐบาลแจกให้ฟรีมันมีข้อจำกัด (...มาก เพราะไม่ต้องการแข่งกับเอกชน) เขาก็อยากเช่าโฮส ลงระบบ cms ทำบล้อก ไดอารี ทำเว็บแปะ ads หรืออะไรก็แล้วแต่ แม้จดโดเมนเอง มันล้วนเป็น kickstart ที่ดี ที่จะถีบตนออกจากโซเชียลมีเดียที่นับวัน "อัลกอริทึม" จะปั่นคุณ
บางโซเชียลมีเดีย เริ่มดูดโพสสาธารณะไปเทรน ai และปิดกันคนใช้โปรแกรมท่องเว็บเข้าไปดูของสาธารณะ ต้องลงแอพและมีบัญชีถึงจะผ่านเข้าไปดูได้ ซึ่ง พวกข้าราชการที่ใช้ line ทำงาน โพส facebook เพราะไม่ต้องจ้าง itsupport เริ่มจะตระหนักรู้บ้างแล้ว ส่วนนึงคือแยกงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก อีกส่วนคือ ไปเจอคนไม่ใช้ของพวกนั้นเค้าเสนอแนะมา บางคนก็เจอกับตัว เป็นผู้ใช้ที่ดีทุกอย่าง วันนึงกลับโดนแบน ข้อมูลสิบกว่าปี เข้าถึงไม่ได้ ฝีมือตัวปลอม hater คู่แข่ง ทั้งนั้นล่ะ รุม report ไอ่ community guideline tos มันไม่มีความหมายหรอก ที่อ่านวันนี้ เด๋ยวเปลี่ยนวันหน้า เป็นต่อตลอด ผู้ใช้คือทาสเสมอ
เมื่อคนไทยมีทางเลือกในการมีตัวตนบนอินเตอร์เน็ตมากกว่าฝังตนไว้กับเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่แสน toxic และ gaslighting โดยสารพัดกลวิธี การถ่วงดุลพิจารณาว่า "จะอยู่ในเพลตฟอร์ม เพราะยังหากินได้ โพสชวนรถทัวร์มาดู ads ก็ได้อยู่" หรือ "ออกไปจากเพลตฟอร์มมากขึ้น ไปมีดาวเคราหะ์ของตนเอง เราเผ่นออกไม่ทัน รายได้อาจจะกลายเป็นหนี้" มันจะมี stake ชัดเจนขึ้น
เราอาจจะได้ "มีโอกาส" เลิกเป็นขี้ข้าเพลตฟอร์มกันเสียที และอีกที
วันนี้คนบ้าเป็นเจ้าของโซเชียลมีเดีย ไทยควรจ่าย icann ให้คนไทยมี (ชื่อคุณ).thai และแจกโฮสติ้งพื้นฐานฟรี
(ชื่อคุณ).thai สามารถ redirect ไปยังเว็บ โซเชียล มีเดียที่คุณเป็นตัวจริงได้ หรือ ทำหน้า parking (รัฐบาลมีบริการฟรีทำหน้าโปรไฟล์ให้) ให้เป็นหน้าโปรไฟล์ของคุณเอง ซึ่ง คุณสามารถซ่อนได้ "ทุกส่วน" ที่ไม่ให้สาธารณชนและ bot crawler มายุ่ง ใครอยากรู้จัก และขอดูของสงวนคุณ เขาต้องมีบัญชีทางรัฐ เพื่อกดขอ token เพื่อ ขอดู "1 ครั้ง ใน 1 ส่วน" โดยจะมีการเก็บ log ตลอดกาล ว่าใครมาขอดู และยอมให้ใครดูกี่ครั้ง ข้อมูลนี้ฝังเก็บกับ thailand digital id egov ของ dga หรือ mdes
เมื่อคนไทยมี .thai เป็นของตนเอง และเห็นว่าระบบเว็บฟรีพื้นฐานที่รัฐบาลแจกให้ฟรีมันมีข้อจำกัด (...มาก เพราะไม่ต้องการแข่งกับเอกชน) เขาก็อยากเช่าโฮส ลงระบบ cms ทำบล้อก ไดอารี ทำเว็บแปะ ads หรืออะไรก็แล้วแต่ แม้จดโดเมนเอง มันล้วนเป็น kickstart ที่ดี ที่จะถีบตนออกจากโซเชียลมีเดียที่นับวัน "อัลกอริทึม" จะปั่นคุณ
บางโซเชียลมีเดีย เริ่มดูดโพสสาธารณะไปเทรน ai และปิดกันคนใช้โปรแกรมท่องเว็บเข้าไปดูของสาธารณะ ต้องลงแอพและมีบัญชีถึงจะผ่านเข้าไปดูได้ ซึ่ง พวกข้าราชการที่ใช้ line ทำงาน โพส facebook เพราะไม่ต้องจ้าง itsupport เริ่มจะตระหนักรู้บ้างแล้ว ส่วนนึงคือแยกงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก อีกส่วนคือ ไปเจอคนไม่ใช้ของพวกนั้นเค้าเสนอแนะมา บางคนก็เจอกับตัว เป็นผู้ใช้ที่ดีทุกอย่าง วันนึงกลับโดนแบน ข้อมูลสิบกว่าปี เข้าถึงไม่ได้ ฝีมือตัวปลอม hater คู่แข่ง ทั้งนั้นล่ะ รุม report ไอ่ community guideline tos มันไม่มีความหมายหรอก ที่อ่านวันนี้ เด๋ยวเปลี่ยนวันหน้า เป็นต่อตลอด ผู้ใช้คือทาสเสมอ
เมื่อคนไทยมีทางเลือกในการมีตัวตนบนอินเตอร์เน็ตมากกว่าฝังตนไว้กับเพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่แสน toxic และ gaslighting โดยสารพัดกลวิธี การถ่วงดุลพิจารณาว่า "จะอยู่ในเพลตฟอร์ม เพราะยังหากินได้ โพสชวนรถทัวร์มาดู ads ก็ได้อยู่" หรือ "ออกไปจากเพลตฟอร์มมากขึ้น ไปมีดาวเคราหะ์ของตนเอง เราเผ่นออกไม่ทัน รายได้อาจจะกลายเป็นหนี้" มันจะมี stake ชัดเจนขึ้น
เราอาจจะได้ "มีโอกาส" เลิกเป็นขี้ข้าเพลตฟอร์มกันเสียที และอีกที