คืองี้ค่ะหนูมีอาการกลัวตั้งแต่เด็กๆซึ่งอาการกลัวมักจะเกิดจากที่หนูดื่มหรือรับประทานอาหารมากๆหรือเวลาที่รับประทานอาหารหรือดื่มค่ะหนูเป็นตั้งแต่เด็กๆค่ะซึ่งมันมีอาการกลัวแบบนี้หนูก็ปล่อยมาเรื่อยๆเพราะแรกๆมันไม่หนักอะไรค่ะกลัวแป๊ปเดียวก็หายไรงี้แต่หลังๆมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนปัจจุบันค่ะปัจจุบันหนูอายุ12ปีค่ะอาการนี้มันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับความกังวลขึ้นเรื่อยๆและถึงช่วงเดือนกันยาต้นๆหนูได้ไปปรึกษาและระบายให้กับรุ่นน้องฟังค่ะรุ่นน้องคนนี้เค้าสนิทกับหนูมากๆค่ะมีเรื่องอะไรพวกเราจะระบายปรึกษาคุยกันตลอดคอยเป็นที่ปรึกษาให้กันและกันค่ะพอหนูปรึกษาน้องหนูก็เริ่มที่จะบอกคนรอบข้างเช่นแฟนที่เราคบกันมา9เดือนกว่าๆซึ่งพี่เค้าอายุประมาณ14ปีค่ะเราสองคนคบกันแบบเลื่อมใสค่ะและได้มาปรึกษากันหนูเลือกที่จะบอกเขาเพราะว่าหนูคิดว่าเขาคงเข้าใจทั้งแฟนและรุ่นน้องของหนูก็ต่างว่าเป็นเสียงเดียวกันว่าควรที่จะไปหาหมอจิตเวชซึ่งหนูก็อยากไปค่ะหลังจากนั้นไม่นานหนูก็รวบรวมความกล้าที่จะบอกแม่ค่ะกว่าจะบอกได้นี่ไม่ง่ายเลยค่ะแม่หนูToxicมากหนูไม่ได้จะแฉแม่หรืออะไรวันนั้นหนูก็เลยบอกแม่ไปคร่าวๆระหว่างทางที่แม่มารับหนูกลับบ้านจากโรงเรียนค่ะแม่ก็ได้บอกว่า**คำหยาบ(ปกติแม่ใช่คำพูดแบบนี้กัลหนูค่ะ) เป็นเพราะตัวเองรึปล่าวที่ผ่านมากูก็เลี้ยงดีมาตลอดแล้วมาเป็นแบบนี้หนูก็แอบเฟลบ้างค่ะหนูก็ปล่อยแม่บ่นบลาๆในหัวครุดคิดว่าจะเอาไงต่อหนูเลยเลือกที่จะปรึกษาครูค่ะหนูปรึกษาครูคนนึงเขาก็ให้คำแนะนำมาดีค่ะหลังจากนั้นเขาก็บอกว่าลองทำวิธีที่ครูแนะนำให้ดูถ้าไม่หายครูแนะนำให้ไปโรงพยายาลหาหมอ"จิตเวช"ใช่ค่ะคำเดิมหนูก็คิดว่าจะไปหายังไงบ้านหนูไม่ได้อยู่ในเมืองค่ะรพ.ไกลมากและหนูก็ขับรถไม่เป็นด้วยค่ะหนูก็เลยขอแม่ไปค่ะขอแม่ไป4-5ครั้งแม่ไม่เคยปฏิเสธค่ะแถมไม่บอกด้วยค่ะว่าจะพาไปหรือไม่ไปเหมือนแม่ยอมรับไม่ได้(หนูแอบรู้สึกมานิดๆค่ะ)แต่คำคำนึงที่หนูแอบเฟลทั้งที่หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามันน่าเฟลตรงไหนแม่พูดประโยคนึงมาว่า“ไม่กลัวเพื่อนล้อหรอว่าบ้า”เหมือนแม่จะสื่ออะไรซักอย่างแต่หนูก็พยายามคิดบวกค่ะหนูก็ตอบกลับทั้งน้ำตาว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆหนูไม่แคร์หรอกคำพวกนั้นแต่หนูต้องการคือการบำบัดทางจิตซึ่งหนูมีอาการที่หนักมากเลยค่ะมีอาการ ใจสั่น วิตกกังวล
กลัว ตัวสั่น ปวดหัวแบบหน่วงๆหนักๆ หนูก็อธิบายให้แม่ฟังค่ะแม่ก็บ่นค่ะใช่แล้วตอนนั้นหนูร้องไห้หนักมากหลังจากที่หนูปรึกษาแม่ก็เอาไปบอกยายค่ะหนูไม่ได้เฟลหรือเสียใจตรงนี้ค่ะแต่หนูเสียใจที่แม่พูดออกมา แม่:เป็นอะไรนักหนาก็เพราะประสาทหลอนเล่นแต่โทรศัพท์ที่ผ่านมาก็เลี้ยงดีมาตลอดลูกบ้าลูกไม่ดีแบบนี้ไม่น่าเลี้ยงมาเลย
ใช่ค่ะแม่พูดหนักกว่านี้อีกค่ะนี่แค่คร่าวๆหนูที่อาบน้ำอยู่น้ำตาปนน้ำที่อาบเลยค่ะแต่ก็ไม่ถืออะไรปกติแม่เค้าพอเกิดแบบนี้ขึ้นหนูก็พอได้คำแนะนำจากแม่และครูอยู่บ้างถึงแม่จะบ่นก็เถอะค่ะก็คือการที่เราจะไม่คิดถึงสิ่งที่เราเจ็บปวดคิดบวกๆและไม่จมปลักกับมันใช่ค่ะหนูทำมาแล้วแต่มันหนักกว่าเดิมค่ะหนูพยายามที่จะหาความสุขให้กับตัวเองเพื่อสู้มันแต่ก็ทำไม่ได้อ่อแล้วอย่างที่แม่บอกว่าเกี่ยวกับโทรศัพท์แต่หนูเป็นก่อนที่จะได้โทรศัพท์อีกค่ะและที่หนูออกมาทำแบบนี้หนูอยากได้คำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆและผู้ใหญ่ค่ะ
และก่อนหน้านี้พ่อและแม่แยกทางกันค่ะและหนูมาอยู่กับแม่ซึ่งครอบครัวแม่นั้นไม่ได้มีฐานะอะไรค่ะหนูก็ไม่ติดค่ะแต่พอแม่รู้ว่าหนูติดต่อกับพ่อแม่ก็มักจะบังคับให้หนูขอเงินพ่อในทุกๆวันค่ะถ้าหนูขอไม่ได้ก็จะโดนคำด่าสารพัดมากมายเลยค่ะและครอบครัวก็Toxicพอตัวเลยค่ะหนูต้องโดนคำด่าสารพัดมากมายค่ะหนูเคยโต้กลับและพยายามจะอธิบายแต่ครอบครัวและแม่กลับบอกว่าหนูเถียงค่ะหนูก็เลยไม่โต้อะไรอีกเบยพอหนูไม่โต้นานไปแม่ก็เริ่มใช้คำขึ้นมาใหม่ก็เพราะแบบนี้ไงไม่ฟังทำตัวหน้าตาเฉยลูกเลวอะไรบลาๆแม่ก็บ่นไปค่ะจะว่าหนูเป็นลูกที่ไม่ดีก็ได้ค่ะเพราะทุกวันนี้เซฟโซนของหนูคือแฟนและรุ่นน้องทั้งนั่นและพ่อก็เหมือนกันกับแม่เลยค่ะมีแต่คำด่าแต่หนูก็ยังติดต่อกับท่านจนถึงทุกวันนี้เพราะหนูรักท่านค่ะและยังอยากได้ครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตากันซักครั้งค่ะและใช่ค่ะหนูมีปัญหาแบบนี้มาตลอดค่ะจนกระทั่งวันนึงฝนฟ้าอากาศนั้นก็แรงมากค่ะล้มแรงมากจนต้นไม้ใหญ่หลังบ้านหนูล้มลงมาทับบ้านหนูเละเลยค่ะหลังจากที่น้าชายไปทหารได้ไม่กี่อาทิตย์ซึ่งหนูก็ได้ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มญาติทหารค่ะและก็พอได้กำลังพี่ๆทหารมาช่วยค่ะนิดหน่อยค่ะ(ปัจจุบันหนูและครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านร้างเก่าๆค่ะได้ปรับปรุงและพออยู่ได้ค่ะและก็ได้อยู่กันค่ะ)
หลังจากที่เหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับบ้านนั้นใช่ค่ะหนูเห็นกับตายังโชคที่ครอบครัวไม่ได้อยู่ในบ้านค่ะหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ส่งผลต่อการกลัวและอาการที่หนูเล่าไปข้างต้นอย่างมากค่ะบางทีแค่ฝนตกและลมพัดมาหนูก็กลัวแล้วค่ะซึ่งมันยิ่งทำให้หนูเกิดอาการกลัวมากขึ้นไปอีกค่ะทุกวันนี้อยู่แบบหวาดระแวงและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากอบต.และหัวหน้าหมู่บ้านเลยค่ะซึ่งตอนนั้นหนูลำบากมากๆค่ะบางวันอดข้าวอดน้ำถึงมีก็พากันกินไม่ลงเลยค่ะภาพติดตาหนูมากเพราะหนูเห็นกับตาตอนที่ต้นไม้ล้มทับบ้านค่ะเหตุการณ์พวกนี้มันส่งผลต่ออาการที่หนูเป็นมากเลยค่ะ(อาการที่หนูบอกไปต้นๆค่ะ)
วันที่ 17 กันยายน หนูได้พยายามขอแม่ให้พาไปหาหมอค่ะแม่ไม่ได้อะไรค่ะและก็บอกจะพาไปค่ะแต่แม่ก็ไม่ได้พาไปค่ะและแม่บอกว่าแม่ไม่สบายขับรถไม่ไหวค่ะหนูก็ร้องไห้ทรมานค่ะเพราะมันกลัวมากทั้งสั่นทั้งกลัวปวดหัววิตกกังวลเครียดไปหมดค่ะซึ่งที่หนูเป็นแบบนี้เพราะที่ผ่านๆมาที่หนูเคยขอแม่เนี่ยเหมือนแม่จะพาไปแต่พอถึงเวลาแม่จะบอกว่าเหนื่อยไม่ก็ไม่ว่างค่ะและรอบรองลงมาจากรอบที่หนูบอกแม่ตอน 17 กย. ค่ะแม่ได้บอกว่าน้องป่วยหนูพอเข้าใจได้ค่ะแต่มันทรมานจริงๆค่ะหนูกินข้าวไม่ค่อยลงค่ะวันนึ้งหนูกินข้าวครึ่งจานเท่านั้นเองค่ะฝืนล้วนๆที่กินเพราะไม่ให้ปวดท้องกับพอประทังความหิวค่ะหนูหิวค่ะแต่หนูกินไม่ลงอาการนี้มันหนักมากจนถึงขั้นบางทีหนูไม่ได้รับประทานอาหารหรืออยู่เฉยๆก็จะเป็นขึ้นมาเองค่ะหนูอยากได้คำแนะนำและวิธีที่จะหาทางคุยกับแม่และแม่พาไปหาหมอค่ะตอนนี้หนูไม่ไหวแล้วทรมานมากค่ะมันกลัวมันสั่นไปหมดกินข้าวไม่ลงพยายามมีความสุขและสดใสก็ทำไม่ได้อะไรที่เคยชอบหนูก็ไม่คิดจะทำเลยค่ะมันหมองไปเลยซึมมากหนูอยากไปหาหมอค่ะหนูอยากบำบัดจริงๆหนูอยากรีบแก้ไขก่อนที่มันจะหนักและสายเกินไปค่ะและหนูอยากได้คำแนะนำจากพี่ๆและผู้ใหญ่ที่ผ่านทาเห็นกระทู้นี้ค่ะขอบคุณค่ะหนูอธิบายกลับไปกลับมาขอโทษด้วยค่ะเพราะหนูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วนับวันหนูยิ่งเหมือนคนไม่มีสติ
หนูควรทำยังไงดีคะ? (ระบายรวมกับปัญหาชีวิตของเด็ก11-12)
กลัว ตัวสั่น ปวดหัวแบบหน่วงๆหนักๆ หนูก็อธิบายให้แม่ฟังค่ะแม่ก็บ่นค่ะใช่แล้วตอนนั้นหนูร้องไห้หนักมากหลังจากที่หนูปรึกษาแม่ก็เอาไปบอกยายค่ะหนูไม่ได้เฟลหรือเสียใจตรงนี้ค่ะแต่หนูเสียใจที่แม่พูดออกมา แม่:เป็นอะไรนักหนาก็เพราะประสาทหลอนเล่นแต่โทรศัพท์ที่ผ่านมาก็เลี้ยงดีมาตลอดลูกบ้าลูกไม่ดีแบบนี้ไม่น่าเลี้ยงมาเลย
ใช่ค่ะแม่พูดหนักกว่านี้อีกค่ะนี่แค่คร่าวๆหนูที่อาบน้ำอยู่น้ำตาปนน้ำที่อาบเลยค่ะแต่ก็ไม่ถืออะไรปกติแม่เค้าพอเกิดแบบนี้ขึ้นหนูก็พอได้คำแนะนำจากแม่และครูอยู่บ้างถึงแม่จะบ่นก็เถอะค่ะก็คือการที่เราจะไม่คิดถึงสิ่งที่เราเจ็บปวดคิดบวกๆและไม่จมปลักกับมันใช่ค่ะหนูทำมาแล้วแต่มันหนักกว่าเดิมค่ะหนูพยายามที่จะหาความสุขให้กับตัวเองเพื่อสู้มันแต่ก็ทำไม่ได้อ่อแล้วอย่างที่แม่บอกว่าเกี่ยวกับโทรศัพท์แต่หนูเป็นก่อนที่จะได้โทรศัพท์อีกค่ะและที่หนูออกมาทำแบบนี้หนูอยากได้คำแนะนำจากพี่ๆเพื่อนๆและผู้ใหญ่ค่ะ
และก่อนหน้านี้พ่อและแม่แยกทางกันค่ะและหนูมาอยู่กับแม่ซึ่งครอบครัวแม่นั้นไม่ได้มีฐานะอะไรค่ะหนูก็ไม่ติดค่ะแต่พอแม่รู้ว่าหนูติดต่อกับพ่อแม่ก็มักจะบังคับให้หนูขอเงินพ่อในทุกๆวันค่ะถ้าหนูขอไม่ได้ก็จะโดนคำด่าสารพัดมากมายเลยค่ะและครอบครัวก็Toxicพอตัวเลยค่ะหนูต้องโดนคำด่าสารพัดมากมายค่ะหนูเคยโต้กลับและพยายามจะอธิบายแต่ครอบครัวและแม่กลับบอกว่าหนูเถียงค่ะหนูก็เลยไม่โต้อะไรอีกเบยพอหนูไม่โต้นานไปแม่ก็เริ่มใช้คำขึ้นมาใหม่ก็เพราะแบบนี้ไงไม่ฟังทำตัวหน้าตาเฉยลูกเลวอะไรบลาๆแม่ก็บ่นไปค่ะจะว่าหนูเป็นลูกที่ไม่ดีก็ได้ค่ะเพราะทุกวันนี้เซฟโซนของหนูคือแฟนและรุ่นน้องทั้งนั่นและพ่อก็เหมือนกันกับแม่เลยค่ะมีแต่คำด่าแต่หนูก็ยังติดต่อกับท่านจนถึงทุกวันนี้เพราะหนูรักท่านค่ะและยังอยากได้ครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตากันซักครั้งค่ะและใช่ค่ะหนูมีปัญหาแบบนี้มาตลอดค่ะจนกระทั่งวันนึงฝนฟ้าอากาศนั้นก็แรงมากค่ะล้มแรงมากจนต้นไม้ใหญ่หลังบ้านหนูล้มลงมาทับบ้านหนูเละเลยค่ะหลังจากที่น้าชายไปทหารได้ไม่กี่อาทิตย์ซึ่งหนูก็ได้ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มญาติทหารค่ะและก็พอได้กำลังพี่ๆทหารมาช่วยค่ะนิดหน่อยค่ะ(ปัจจุบันหนูและครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านร้างเก่าๆค่ะได้ปรับปรุงและพออยู่ได้ค่ะและก็ได้อยู่กันค่ะ)
หลังจากที่เหตุการณ์ต้นไม้ล้มทับบ้านนั้นใช่ค่ะหนูเห็นกับตายังโชคที่ครอบครัวไม่ได้อยู่ในบ้านค่ะหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ส่งผลต่อการกลัวและอาการที่หนูเล่าไปข้างต้นอย่างมากค่ะบางทีแค่ฝนตกและลมพัดมาหนูก็กลัวแล้วค่ะซึ่งมันยิ่งทำให้หนูเกิดอาการกลัวมากขึ้นไปอีกค่ะทุกวันนี้อยู่แบบหวาดระแวงและไม่ได้รับการช่วยเหลือจากอบต.และหัวหน้าหมู่บ้านเลยค่ะซึ่งตอนนั้นหนูลำบากมากๆค่ะบางวันอดข้าวอดน้ำถึงมีก็พากันกินไม่ลงเลยค่ะภาพติดตาหนูมากเพราะหนูเห็นกับตาตอนที่ต้นไม้ล้มทับบ้านค่ะเหตุการณ์พวกนี้มันส่งผลต่ออาการที่หนูเป็นมากเลยค่ะ(อาการที่หนูบอกไปต้นๆค่ะ)
วันที่ 17 กันยายน หนูได้พยายามขอแม่ให้พาไปหาหมอค่ะแม่ไม่ได้อะไรค่ะและก็บอกจะพาไปค่ะแต่แม่ก็ไม่ได้พาไปค่ะและแม่บอกว่าแม่ไม่สบายขับรถไม่ไหวค่ะหนูก็ร้องไห้ทรมานค่ะเพราะมันกลัวมากทั้งสั่นทั้งกลัวปวดหัววิตกกังวลเครียดไปหมดค่ะซึ่งที่หนูเป็นแบบนี้เพราะที่ผ่านๆมาที่หนูเคยขอแม่เนี่ยเหมือนแม่จะพาไปแต่พอถึงเวลาแม่จะบอกว่าเหนื่อยไม่ก็ไม่ว่างค่ะและรอบรองลงมาจากรอบที่หนูบอกแม่ตอน 17 กย. ค่ะแม่ได้บอกว่าน้องป่วยหนูพอเข้าใจได้ค่ะแต่มันทรมานจริงๆค่ะหนูกินข้าวไม่ค่อยลงค่ะวันนึ้งหนูกินข้าวครึ่งจานเท่านั้นเองค่ะฝืนล้วนๆที่กินเพราะไม่ให้ปวดท้องกับพอประทังความหิวค่ะหนูหิวค่ะแต่หนูกินไม่ลงอาการนี้มันหนักมากจนถึงขั้นบางทีหนูไม่ได้รับประทานอาหารหรืออยู่เฉยๆก็จะเป็นขึ้นมาเองค่ะหนูอยากได้คำแนะนำและวิธีที่จะหาทางคุยกับแม่และแม่พาไปหาหมอค่ะตอนนี้หนูไม่ไหวแล้วทรมานมากค่ะมันกลัวมันสั่นไปหมดกินข้าวไม่ลงพยายามมีความสุขและสดใสก็ทำไม่ได้อะไรที่เคยชอบหนูก็ไม่คิดจะทำเลยค่ะมันหมองไปเลยซึมมากหนูอยากไปหาหมอค่ะหนูอยากบำบัดจริงๆหนูอยากรีบแก้ไขก่อนที่มันจะหนักและสายเกินไปค่ะและหนูอยากได้คำแนะนำจากพี่ๆและผู้ใหญ่ที่ผ่านทาเห็นกระทู้นี้ค่ะขอบคุณค่ะหนูอธิบายกลับไปกลับมาขอโทษด้วยค่ะเพราะหนูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้วนับวันหนูยิ่งเหมือนคนไม่มีสติ