‘เท้ง’ แนะออก 3 มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ป้องอุบัติเหตุศก. ทั้งให้เงินช่วยเหลือ-ซ่อมแซม-แก้สาธารณูปโภค
https://www.matichon.co.th/politics/news_4792766
‘เท้ง-ณัฐพงษ์’ แนะออก 3 มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ป้องอุบัติเหตุศก. ทั้งให้เงินช่วยเหลือ-ซ่อมแซม-ฟื้นฟูสาธารณูปโภค
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วย สส.ของพรรค นำโดย นาย
กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และนาย
ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย เขต 1 ลงพื้นที่ติดตามและสังเกตการณ์น้ำท่วมอำเภอเมือง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากน้ำเริ่มลดระดับไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ภาครัฐต้องเน้นต่อจากนี้คือมาตรการการฟื้นฟูเยียวยาเร่งด่วนหลังน้ำท่วม ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการด้านเครื่องมือหนักและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีราคาสูงขึ้นหลายเท่าแต่ชาวบ้านมีความต้องการสูงมากในขณะนี้ จากการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนอย่างละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลที่อำเภอแม่สาย พบว่ามีภาคธุรกิจ อาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พักจำนวนมากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ส่วนหนึ่งคือได้รับผลกระทบโดยตรง นั่นคือเครื่องไม้เครื่องมือทำมาหากิน หรืออาคารสถานที่เสียหายไปกับน้ำท่วม ทำให้ธุรกิจร้านค้าต่างๆ ไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ในขณะนี้ และคงจะใช้เวลาอีกสักพักใหญ่กว่าจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ อีกส่วนหนึ่งแม้ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการถูกตัดน้ำตัดไฟหรือการขนส่งที่ถูกตัดขาดหรือไม่สะดวก ทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร ร้านซักอบผ้า และธุรกิจอื่นๆ กิจกรรมทางเศรษฐกิจภาพรวมในพื้นที่ต้องหยุกชะงักลง ประชาชนจำนวนมากไม่มีรายได้เข้ามา
“
หลายคนบอกผมว่า ‘ไม่เหลืออะไรเลย’ แต่รายจ่ายกลับเพิ่มขึ้นเพราะค่าซ่อมแซมทำความสะอาด แถมหนี้สินและดอกเบี้ยก็ยังเดินต่อ จาก ‘ภัยธรรมชาติ’ ส่งผลต่อมาเป็น ‘อุบัติเหตุทางการเงิน’ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อพยุงตัวพี่น้องประชาชนอย่างไรต่อไปบ้าง นี่คือคำถามที่พวกเราในฐานะนักการเมืองจะต้องตอบให้ได้” นาย
ณัฐพงษ์กล่าว
นาย
ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ตนได้หารือกับนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) พรรคประชาชน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงอยู่ที่จังหวัดหนองคาย จึงขอฝากโจทย์ให้รัฐบาลเร่งคิดและออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนและจับต้องได้จริงใน 3 ประเด็น คือ
1. เงินช่วยเหลือฉุกเฉินทันทีสำหรับครัวเรือนที่ประสบภัย สำหรับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยและกลับมาประกอบการอีกครั้งในพื้นที่ที่เสียหายหนัก ก่อนที่จะช่วยเหลือซ่อมแซมในส่วนที่สองต่อไป
2. เร่งสำรวจ-ประเมินความเสียหาย และกำหนดแผนการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนโดยเร็ว โดยช่วยเหลือตามความเสียหายจริง ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ส่วนราชการกลางจะต้องไม่มีการกำหนดระเบียบเงื่อนไขที่ไม่สอดคล้องกับสภาพหน้างานจริง หรือเพิ่มภาระให้พี่น้องมากเกินสมควร
3. เงินช่วยเหลือสมทบสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัย เพื่อใช้สำหรับ (ก) การซ่อมแซมถนนหนทาง และสาธารณูปโภคที่เสียหาย ตามค่าใช้จ่ายจริง (ข) การสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือน เครื่องใช้ต่างๆ สำหรับประชาชน และ (ค) การฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ภายหลังจากน้ำลด เช่น การลดค่าสาธารณูปโภค การปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด หรือการสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวหลังน้ำลด
นาย
ณัฐพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลควรประสานกับสถาบันการเงินในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม เช่น การพักชำระหนี้ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลด และเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับการซ่อมแซมและปรับปรุงกิจการอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนในระยะยาว
ณัฐพงษ์เห็นว่า รัฐบาลควรพิจารณาตั้ง “
กองทุนภัยพิบัติ” เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับหน่วยปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตั้งแต่การป้องกัน การเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือเยียวยา โดยกำหนดหลักเกณฑ์-เงื่อนไขของกองทุนให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้รวดเร็วและตรวจสอบได้ โดยไม่เป็นภาระหรือสร้างความกังวลใจให้กับหน่วยงานที่ต้องยับยั้ง-เผชิญเหตุในพื้นที่
“
พี่น้องเผชิญภัยธรรมชาติหนึ่งครั้ง อาจจะประสบอุบัติเหตุทางเศรษฐกิจ กว่าจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาเป็นปีๆ ถือเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสำหรับพวกเราทุกคน ดังนั้น พวกเราในฐานะนักการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลที่จะสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้ ต้องช่วยกันคิดช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องให้ได้ ทั้งด้วยความรวดเร็ว เพียงพอ และยั่งยืนครับ” นาย
ณัฐพงษ์กล่าว
‘โรม’ สวน ‘พิชัย’ อย่าโยงเรื่องอายุ ท้าลงพื้นที่พิสูจน์ปัญหายาเสพติด หวังใช้เวทีสภาฯตอบโต้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4792549
‘โรม’ สวน ‘พิชัย’ อย่าโยงเรื่องอายุ ท้าลงพื้นที่พิสูจน์ปัญหายาเสพติด หวังใช้เวทีสภาฯตอบโต้
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนาย
พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตอบโต้การอภิปรายว่า เรื่องที่จะโยงว่าตนเป็นเด็ก ไม่ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ นายพิชัยไม่ควรที่จะเอาเรื่องอายุมาโยงกับการทำหน้าที่ เพราะความเป็นจริงตนเองก็อายุน้อยกว่านายกรัฐมนตรีไม่มากนัก และเรื่องอายุก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองมีอายุมากกว่านี้ คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ นาย
พิชัยควรทำตัวน่าเคารพมากกว่านี้ เรื่องอายุเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรหยิบยกมาพูดถึง ส่วนเรื่องยาเสพติด ข้อมูลทั้งหมดได้พิสูจน์แล้วว่ายาเสพติดราคาถูกลงจริงๆ ถ้าไม่เชื่อก็ลงพื้นที่ไปถามประชาชน เดี๋ยวเขาจะเป็นคนบอกเองว่าเป็นอย่างไร การที่มีผู้ติดยาเพิ่มขึ้นและการจับยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าเรามีประสิทธิภาพในการป้องกันยาเสพติดมากขึ้น แต่มันต้องพิจารณาถึงราคายาเสพติดโดยรวมที่ลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายาเสพติดที่อยู่ภายในประเทศของเรามีมากขึ้นอย่างแน่นอน ตนพยายามจะชี้ให้เห็นว่า สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้การจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งปัญหาไปที่ต้นตอ ซึ่งวิธีการเดิมๆ นั้นล้มเหลว ตลอดหนึ่งปีของพรรคเพื่อไทยไม่ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย แล้วอย่าลืมไปดูพรรคร่วมของท่านด้วย ที่ทำการพรรคการเมืองของเขาวันนี้ ถูกยึดอายัดโดย ป.ป.ส.
นาย
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องบัญชีม้าตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอคือความหลวมของธนาคาร คือการไม่รับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เราแทบจะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ต้องเชื่อตนในข้อมูลที่พูดในสภาก็ได้ แต่การฆ่าตัวตายและการถูกหลอกของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ส่วนกรณีบัญชีม้ากว่า 500 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดตุนมินลัต เรื่องนี้ตนพิจารณาในกรรมาธิการด้วยตัวเอง และทราบว่าบัญชีม้าทั้งหมดที่ตนระบุถึง ยังไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด ถ้าไม่มีการปราบปรามบัญชีม้าเป็นคดีอาญาอย่างจริงจังการเปิดบัญชีม้าจะยังคงดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด
นาย
รังสิมันต์กล่าวอีกว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่องนี้ก็ขอให้มันจริงอย่างที่นายพิชัยพูดว่านายใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนแบ่งกับเรื่องนี้ พิสูจน์เรื่องนี้ได้ด้วยความจริงและความโปร่งใส ตนจะรอดู แต่ยืนยันการที่หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นการเตือนด้วยความหวังดี เรื่องนายกฯม้า นายทักษิณเขาพูดเองว่าเขาครอบครองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ไปที่ไหน ประชาชนเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นนายกฯม้าให้คนอื่นใช้งานหรือไม่อยู่ที่การพิสูจน์ตัวเอง ตนจะรอดู น่าเสียดายที่นาย
พิชัยไม่ได้ตอบโต้เรื่องนี้ที่สภา ตนจะได้ลุกขึ้นชี้แจงที่สภา หวังว่าครั้งหน้านาย
พิชัยจะใช้โอกาสของสภาในการพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
'ช่อ พรรณิการ์' ยินดี 'บู้ จเด็ศ' เพื่อไทย คาดนั่ง สส.พิษณุโลก ลั่นทำเต็มที่แล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9413976
‘ช่อ พรรณิการ์’ ยินดี ‘บู้ จเด็ศ’ เพื่อไทย คาดนั่ง สส.พิษณุโลก หลังนับผลคะแนน 69% คะแนนนำห่าง ลั่นทำเต็มที่แล้ว ยอมรับผลที่ออกมา
เมื่อเวลา วันที่ 15 ก.ย. 2567 น.ส.
พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ผ่าน X (ทวิตเตอร์) ถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ซึ่งพรรคประชาชน ส่งนาย
ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค ลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้หมายเลข 1 แข่งขันกับหมายเลข 2 คือ นาย
จเด็ศ จันทรา หรือ บู้พรรคเพื่อไทย
โดย น.ส.พรรณิการ์ เขียนข้อความว่า
“
#เลือกตั้งซ่อมเขต1พิษณุโลก ยินดีกับคุณบู้และพรรคเพื่อไทยด้วยค่ะ พวกเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ ยอมรับผลที่ออกมาค่ะ”
ทั้งนี้ ได้โพสต์ภาพการนับคะแนนเลือกตั้ง ขณะนับได้ 69.23% จากทั้งหมด 208 หน่วย พรรคประชาชน 21,037 คะแนน พรรคเพื่อไทย 26,211 คะแนน
แห่ร้องเรียนปัญหาน้ำท่วม ผ่านเฟซบุ๊ก ‘นายกฯ’ หลายพื้นที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง
https://www.dailynews.co.th/news/3866196/
ปชช. แห่คอมเมนต์ ร้องเรียนปัญหาน้ำท่วม ผ่านเฟซบุ๊ก 'นายกฯอิ๊งค์' บอก บางพื้นที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง ขณะที่บางส่วนโพสต์ให้กำลังใจการทำงาน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ส่วนตัวถึงการเรียกประชุมทีมงาน เพื่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ก็ได้มีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น ซึ่งคอมเมนต์ของประชาชนมีทั้งการให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรีถึงการสั่งการให้เกิด ศปภ. ขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย ก็ได้คอมเมนต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาที่ได้รับ และสถานการณ์ในพื้นที่ที่ตนพักอาศัยอยู่ โดยในหลายคอมเมนต์ขอให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้อย่างทั่วถึง เพราะบางพื้นที่ การช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง ทำให้ประชาชนต้องทำการแจกจ่ายสิ่งของซึ่งกันและกัน แล้วอยากให้หน่วยงานของภาครัฐเข้าไปแจกจ่ายอาหาร ให้ถึงในพื้นที่ประสบภัยด้วย เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถย้ายออกไปยังศูนย์พักพิงได้
ทั้งนี้บางข้อความ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรี ดูแล และจัดการในระบบการแจ้งเตือนภัยให้เกิดการบริหารอย่างเป็นระบบและเข้มข้น
JJNY : 5in1 เท้งแนะออก3มาตรการ│โรมสวนพิชัย│ช่อยินดีบู้ จเด็ศ│หลายพื้นที่การช่วยยังไม่ถึง│เซี่ยงไฮ้เตรียมรับมือไต้ฝุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4792766
‘เท้ง-ณัฐพงษ์’ แนะออก 3 มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ป้องอุบัติเหตุศก. ทั้งให้เงินช่วยเหลือ-ซ่อมแซม-ฟื้นฟูสาธารณูปโภค
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วย สส.ของพรรค นำโดย นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และนายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สส.เชียงราย เขต 1 ลงพื้นที่ติดตามและสังเกตการณ์น้ำท่วมอำเภอเมือง และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากน้ำเริ่มลดระดับไปแล้ว สิ่งสำคัญที่ภาครัฐต้องเน้นต่อจากนี้คือมาตรการการฟื้นฟูเยียวยาเร่งด่วนหลังน้ำท่วม ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการด้านเครื่องมือหนักและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีราคาสูงขึ้นหลายเท่าแต่ชาวบ้านมีความต้องการสูงมากในขณะนี้ จากการพูดคุยกับพี่น้องประชาชนอย่างละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลที่อำเภอแม่สาย พบว่ามีภาคธุรกิจ อาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พักจำนวนมากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ส่วนหนึ่งคือได้รับผลกระทบโดยตรง นั่นคือเครื่องไม้เครื่องมือทำมาหากิน หรืออาคารสถานที่เสียหายไปกับน้ำท่วม ทำให้ธุรกิจร้านค้าต่างๆ ไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ในขณะนี้ และคงจะใช้เวลาอีกสักพักใหญ่กว่าจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ อีกส่วนหนึ่งแม้ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการถูกตัดน้ำตัดไฟหรือการขนส่งที่ถูกตัดขาดหรือไม่สะดวก ทำให้ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ เช่น ที่พัก ร้านอาหาร ร้านซักอบผ้า และธุรกิจอื่นๆ กิจกรรมทางเศรษฐกิจภาพรวมในพื้นที่ต้องหยุกชะงักลง ประชาชนจำนวนมากไม่มีรายได้เข้ามา
“หลายคนบอกผมว่า ‘ไม่เหลืออะไรเลย’ แต่รายจ่ายกลับเพิ่มขึ้นเพราะค่าซ่อมแซมทำความสะอาด แถมหนี้สินและดอกเบี้ยก็ยังเดินต่อ จาก ‘ภัยธรรมชาติ’ ส่งผลต่อมาเป็น ‘อุบัติเหตุทางการเงิน’ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อพยุงตัวพี่น้องประชาชนอย่างไรต่อไปบ้าง นี่คือคำถามที่พวกเราในฐานะนักการเมืองจะต้องตอบให้ได้” นายณัฐพงษ์กล่าว
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า ตนได้หารือกับนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) พรรคประชาชน ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์แม่น้ำโขงอยู่ที่จังหวัดหนองคาย จึงขอฝากโจทย์ให้รัฐบาลเร่งคิดและออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนและจับต้องได้จริงใน 3 ประเด็น คือ
1. เงินช่วยเหลือฉุกเฉินทันทีสำหรับครัวเรือนที่ประสบภัย สำหรับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยและกลับมาประกอบการอีกครั้งในพื้นที่ที่เสียหายหนัก ก่อนที่จะช่วยเหลือซ่อมแซมในส่วนที่สองต่อไป
2. เร่งสำรวจ-ประเมินความเสียหาย และกำหนดแผนการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนโดยเร็ว โดยช่วยเหลือตามความเสียหายจริง ภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ส่วนราชการกลางจะต้องไม่มีการกำหนดระเบียบเงื่อนไขที่ไม่สอดคล้องกับสภาพหน้างานจริง หรือเพิ่มภาระให้พี่น้องมากเกินสมควร
3. เงินช่วยเหลือสมทบสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประสบภัย เพื่อใช้สำหรับ (ก) การซ่อมแซมถนนหนทาง และสาธารณูปโภคที่เสียหาย ตามค่าใช้จ่ายจริง (ข) การสนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือน เครื่องใช้ต่างๆ สำหรับประชาชน และ (ค) การฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ภายหลังจากน้ำลด เช่น การลดค่าสาธารณูปโภค การปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด หรือการสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวหลังน้ำลด
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลควรประสานกับสถาบันการเงินในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการฟื้นฟูธุรกิจเพิ่มเติม เช่น การพักชำระหนี้ในช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลด และเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับการซ่อมแซมและปรับปรุงกิจการอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนในระยะยาว ณัฐพงษ์เห็นว่า รัฐบาลควรพิจารณาตั้ง “กองทุนภัยพิบัติ” เพื่อเพิ่มช่องทางให้กับหน่วยปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตั้งแต่การป้องกัน การเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือเยียวยา โดยกำหนดหลักเกณฑ์-เงื่อนไขของกองทุนให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้รวดเร็วและตรวจสอบได้ โดยไม่เป็นภาระหรือสร้างความกังวลใจให้กับหน่วยงานที่ต้องยับยั้ง-เผชิญเหตุในพื้นที่
“พี่น้องเผชิญภัยธรรมชาติหนึ่งครั้ง อาจจะประสบอุบัติเหตุทางเศรษฐกิจ กว่าจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาเป็นปีๆ ถือเป็นสิ่งที่น่าเศร้าสำหรับพวกเราทุกคน ดังนั้น พวกเราในฐานะนักการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลที่จะสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้ ต้องช่วยกันคิดช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องให้ได้ ทั้งด้วยความรวดเร็ว เพียงพอ และยั่งยืนครับ” นายณัฐพงษ์กล่าว
‘โรม’ สวน ‘พิชัย’ อย่าโยงเรื่องอายุ ท้าลงพื้นที่พิสูจน์ปัญหายาเสพติด หวังใช้เวทีสภาฯตอบโต้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4792549
‘โรม’ สวน ‘พิชัย’ อย่าโยงเรื่องอายุ ท้าลงพื้นที่พิสูจน์ปัญหายาเสพติด หวังใช้เวทีสภาฯตอบโต้
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตอบโต้การอภิปรายว่า เรื่องที่จะโยงว่าตนเป็นเด็ก ไม่ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ นายพิชัยไม่ควรที่จะเอาเรื่องอายุมาโยงกับการทำหน้าที่ เพราะความเป็นจริงตนเองก็อายุน้อยกว่านายกรัฐมนตรีไม่มากนัก และเรื่องอายุก็ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองมีอายุมากกว่านี้ คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ นายพิชัยควรทำตัวน่าเคารพมากกว่านี้ เรื่องอายุเป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่ควรหยิบยกมาพูดถึง ส่วนเรื่องยาเสพติด ข้อมูลทั้งหมดได้พิสูจน์แล้วว่ายาเสพติดราคาถูกลงจริงๆ ถ้าไม่เชื่อก็ลงพื้นที่ไปถามประชาชน เดี๋ยวเขาจะเป็นคนบอกเองว่าเป็นอย่างไร การที่มีผู้ติดยาเพิ่มขึ้นและการจับยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นไม่ได้หมายความว่าเรามีประสิทธิภาพในการป้องกันยาเสพติดมากขึ้น แต่มันต้องพิจารณาถึงราคายาเสพติดโดยรวมที่ลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายาเสพติดที่อยู่ภายในประเทศของเรามีมากขึ้นอย่างแน่นอน ตนพยายามจะชี้ให้เห็นว่า สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้การจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งปัญหาไปที่ต้นตอ ซึ่งวิธีการเดิมๆ นั้นล้มเหลว ตลอดหนึ่งปีของพรรคเพื่อไทยไม่ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย แล้วอย่าลืมไปดูพรรคร่วมของท่านด้วย ที่ทำการพรรคการเมืองของเขาวันนี้ ถูกยึดอายัดโดย ป.ป.ส.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องบัญชีม้าตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอคือความหลวมของธนาคาร คือการไม่รับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เราแทบจะแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ต้องเชื่อตนในข้อมูลที่พูดในสภาก็ได้ แต่การฆ่าตัวตายและการถูกหลอกของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ส่วนกรณีบัญชีม้ากว่า 500 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดตุนมินลัต เรื่องนี้ตนพิจารณาในกรรมาธิการด้วยตัวเอง และทราบว่าบัญชีม้าทั้งหมดที่ตนระบุถึง ยังไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด ถ้าไม่มีการปราบปรามบัญชีม้าเป็นคดีอาญาอย่างจริงจังการเปิดบัญชีม้าจะยังคงดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่องนี้ก็ขอให้มันจริงอย่างที่นายพิชัยพูดว่านายใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนแบ่งกับเรื่องนี้ พิสูจน์เรื่องนี้ได้ด้วยความจริงและความโปร่งใส ตนจะรอดู แต่ยืนยันการที่หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นการเตือนด้วยความหวังดี เรื่องนายกฯม้า นายทักษิณเขาพูดเองว่าเขาครอบครองนายกรัฐมนตรี อีกทั้งวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ไปที่ไหน ประชาชนเขาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นนายกฯม้าให้คนอื่นใช้งานหรือไม่อยู่ที่การพิสูจน์ตัวเอง ตนจะรอดู น่าเสียดายที่นายพิชัยไม่ได้ตอบโต้เรื่องนี้ที่สภา ตนจะได้ลุกขึ้นชี้แจงที่สภา หวังว่าครั้งหน้านายพิชัยจะใช้โอกาสของสภาในการพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
'ช่อ พรรณิการ์' ยินดี 'บู้ จเด็ศ' เพื่อไทย คาดนั่ง สส.พิษณุโลก ลั่นทำเต็มที่แล้ว
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9413976
‘ช่อ พรรณิการ์’ ยินดี ‘บู้ จเด็ศ’ เพื่อไทย คาดนั่ง สส.พิษณุโลก หลังนับผลคะแนน 69% คะแนนนำห่าง ลั่นทำเต็มที่แล้ว ยอมรับผลที่ออกมา
เมื่อเวลา วันที่ 15 ก.ย. 2567 น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ แกนนำคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ผ่าน X (ทวิตเตอร์) ถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 ซึ่งพรรคประชาชน ส่งนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค ลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้หมายเลข 1 แข่งขันกับหมายเลข 2 คือ นายจเด็ศ จันทรา หรือ บู้พรรคเพื่อไทย
โดย น.ส.พรรณิการ์ เขียนข้อความว่า
“#เลือกตั้งซ่อมเขต1พิษณุโลก ยินดีกับคุณบู้และพรรคเพื่อไทยด้วยค่ะ พวกเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ ยอมรับผลที่ออกมาค่ะ”
ทั้งนี้ ได้โพสต์ภาพการนับคะแนนเลือกตั้ง ขณะนับได้ 69.23% จากทั้งหมด 208 หน่วย พรรคประชาชน 21,037 คะแนน พรรคเพื่อไทย 26,211 คะแนน
แห่ร้องเรียนปัญหาน้ำท่วม ผ่านเฟซบุ๊ก ‘นายกฯ’ หลายพื้นที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง
https://www.dailynews.co.th/news/3866196/
ปชช. แห่คอมเมนต์ ร้องเรียนปัญหาน้ำท่วม ผ่านเฟซบุ๊ก 'นายกฯอิ๊งค์' บอก บางพื้นที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง ขณะที่บางส่วนโพสต์ให้กำลังใจการทำงาน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ส่วนตัวถึงการเรียกประชุมทีมงาน เพื่อตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) ก็ได้มีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น ซึ่งคอมเมนต์ของประชาชนมีทั้งการให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรีถึงการสั่งการให้เกิด ศปภ. ขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนที่อยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย ก็ได้คอมเมนต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาที่ได้รับ และสถานการณ์ในพื้นที่ที่ตนพักอาศัยอยู่ โดยในหลายคอมเมนต์ขอให้รัฐบาลดูแลประชาชนให้อย่างทั่วถึง เพราะบางพื้นที่ การช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง ทำให้ประชาชนต้องทำการแจกจ่ายสิ่งของซึ่งกันและกัน แล้วอยากให้หน่วยงานของภาครัฐเข้าไปแจกจ่ายอาหาร ให้ถึงในพื้นที่ประสบภัยด้วย เนื่องจากบางพื้นที่ยังมีผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถย้ายออกไปยังศูนย์พักพิงได้
ทั้งนี้บางข้อความ ยังเสนอให้นายกรัฐมนตรี ดูแล และจัดการในระบบการแจ้งเตือนภัยให้เกิดการบริหารอย่างเป็นระบบและเข้มข้น