หลานมาบอกเราว่า พ่อของเราจับจิมิของเขา
หลานคนนี้เป็นลูกของลูกติดแม่ เป็นหลานเรา แต่ไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อเรา งงไหมคะ คือเป็นลูกของพี่ชายต่างบิดา จนตอนนี้หลานได้มาอยู่กับเรา 2 คน เป็นหญิง 1 ชาย 1 เพราะพี่ชายเรา ตกงานตอนโควิดปีแรกเลยได้กลับมาอยู่กับแม่ แล้วแฟนเขามาทิ้งเขากับลูกไป ไม่นานเขาก็ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต แม่ของหลานก็ไม่เอา บล็อกทุกช่องทาง เราก็ไม่ทราบข้อมูลอะไรของเขาเลย แบบบ้านอยู่ที่ไหน อำเภออะไร พ่อแม่ชื่ออะไร เพราะแม่เราทิ้งพี่ชายมาตั้งแต่เล็กๆ
จนตอนนี่หลานเราคนผู้หญิง อายุ 10-11 ปี เมื่อวานน้องบอกว่า พ่อเราจับจิมิเขา พ่อเราโรคจิต เราถามตอนไหน ยังไง น้องก็บอกว่าเมื่อกี้ พี่ชายก็เห็น แล้วพี่ชายก็วิ่งตามน้องมา เราถาม พี่ชายบอกไม่มีอะไรนิ เราก็แบบเอ้ายังไง ปกติพี่ชายกับน้องสาว จะติดกันตลอดเวลา แล้วน้องผู้หญิงเป็นคนชอบพูดไปเรื่อยเปื่อย คือนิสัยของน้อง แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เชื่อน้อวนะคะ เพราะน้องก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อเรา แล้วน้องกำลังโตเป็นสาว หน้าตาน่ารัก เราเครียดนอนไม่หลับ เรื่องนี้แม่ของเรายังไม่รู้นะคะ กลัวแกเครียด เพราะแกก็เครียดเรื่องพฤติกรรมของหลานทั้ง2คนอยู่แล้ว + กับ พ่อเราให้เอาหลาน2คนนี้ไปส่ง แต่แม่เรากลัวว่าหลานจะลำบาก อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้เรียนหนังสือ
(นิสัยพี่ชาย ขี้เกียจ อ่านไม่ได้ เขียนไม่ได้ ชื่อตัวเองยังเขียนไม่ได้ น้องป.6 โกหก พูดจาไม่รู้จักกาละเทศะ คนไม่ชอบทั้งหมู่บ้าน อันนี้ไม่เกินจริงนะคะ น้องชอบพูดกวน ชอบพูดไม่เข้าหู
นิสัยน้องสาว พูดไปเรื่อย ชอบโกหก ชอบสร้างเรื่อง ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง การเรียนปานกลาง แต่ขยันค่ะ ชอบช่วยงานคนอื่น แต่งานตัวเองไม่ทำ งานที่บ้านไม่ทำ ชอบยิ้ม ชอบทำท่าอ่อยผู้ชาย อันนี้แฟนเราบอกนะคะ ว่าหลานเราแปลกๆ เราเลยสังเกตดู ) พฤติกรรมของหลานทำให้แม่เราเครียดค่ะ เครียดมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นพี่ชาย
ย้อนกลับไปตอนที่น้องบอก เราไม่ได้ไม่รับฟัง แต่มันคิดไม่ทัน เพราะด้วยนิสัยน้อง จะไปถามพ่อตรงๆ ว่าจับของน้องหรอ ก็กลัวว่า เขาจะทำโทษน้อง ถ้าปล่อยไปก็ไม่ได้ อาจจะบานปลายกว่านี้ จะไปส่งที่แม่เขา ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา แล้วแม่เขาก็ไม่เอาด้วย แล้วไหนกลัวแม่ของเราจะรู้แล้วเครียดมากกว่าเดิมอีก ตอนนี้ได้แต่ อยู่ใกล้ๆหลาน พอหลานเดินไปไหน ถ้าอยู่ใกล้พ่อ ก็จะทำเป็นไปนั่งอยู่แถวนั้น ภาวนาให้หลานโตไวๆ ไปเรียนไกลๆ หางานทำดูแลตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้น้องพูดเรากลัวจะบานปลายไปมากกว่านี้ พ่อเราเป็นคนซัพพอร์ตทุกอย่างในบ้าน แม่เราเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้าน ส่วนเราไม่ได้ทำงานนะคะ ก็ช่วยพ่อดูแลกิจการที่บ้าน พ่อดูแลทุกอย่าง ทั้งในบ้าน นอกบ้าน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ เราสมควรทำแบบไหนดีคะ ตอนนี้เราคิดว่าทำแบบนี้ดีที่สุด ณ ตอนนี้นะคะ
หลานบอกพ่อเรา....
หลานคนนี้เป็นลูกของลูกติดแม่ เป็นหลานเรา แต่ไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อเรา งงไหมคะ คือเป็นลูกของพี่ชายต่างบิดา จนตอนนี้หลานได้มาอยู่กับเรา 2 คน เป็นหญิง 1 ชาย 1 เพราะพี่ชายเรา ตกงานตอนโควิดปีแรกเลยได้กลับมาอยู่กับแม่ แล้วแฟนเขามาทิ้งเขากับลูกไป ไม่นานเขาก็ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต แม่ของหลานก็ไม่เอา บล็อกทุกช่องทาง เราก็ไม่ทราบข้อมูลอะไรของเขาเลย แบบบ้านอยู่ที่ไหน อำเภออะไร พ่อแม่ชื่ออะไร เพราะแม่เราทิ้งพี่ชายมาตั้งแต่เล็กๆ
จนตอนนี่หลานเราคนผู้หญิง อายุ 10-11 ปี เมื่อวานน้องบอกว่า พ่อเราจับจิมิเขา พ่อเราโรคจิต เราถามตอนไหน ยังไง น้องก็บอกว่าเมื่อกี้ พี่ชายก็เห็น แล้วพี่ชายก็วิ่งตามน้องมา เราถาม พี่ชายบอกไม่มีอะไรนิ เราก็แบบเอ้ายังไง ปกติพี่ชายกับน้องสาว จะติดกันตลอดเวลา แล้วน้องผู้หญิงเป็นคนชอบพูดไปเรื่อยเปื่อย คือนิสัยของน้อง แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่เชื่อน้อวนะคะ เพราะน้องก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพ่อเรา แล้วน้องกำลังโตเป็นสาว หน้าตาน่ารัก เราเครียดนอนไม่หลับ เรื่องนี้แม่ของเรายังไม่รู้นะคะ กลัวแกเครียด เพราะแกก็เครียดเรื่องพฤติกรรมของหลานทั้ง2คนอยู่แล้ว + กับ พ่อเราให้เอาหลาน2คนนี้ไปส่ง แต่แม่เรากลัวว่าหลานจะลำบาก อดมื้อกินมื้อ ไม่ได้เรียนหนังสือ
(นิสัยพี่ชาย ขี้เกียจ อ่านไม่ได้ เขียนไม่ได้ ชื่อตัวเองยังเขียนไม่ได้ น้องป.6 โกหก พูดจาไม่รู้จักกาละเทศะ คนไม่ชอบทั้งหมู่บ้าน อันนี้ไม่เกินจริงนะคะ น้องชอบพูดกวน ชอบพูดไม่เข้าหู
นิสัยน้องสาว พูดไปเรื่อย ชอบโกหก ชอบสร้างเรื่อง ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง การเรียนปานกลาง แต่ขยันค่ะ ชอบช่วยงานคนอื่น แต่งานตัวเองไม่ทำ งานที่บ้านไม่ทำ ชอบยิ้ม ชอบทำท่าอ่อยผู้ชาย อันนี้แฟนเราบอกนะคะ ว่าหลานเราแปลกๆ เราเลยสังเกตดู ) พฤติกรรมของหลานทำให้แม่เราเครียดค่ะ เครียดมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นพี่ชาย
ย้อนกลับไปตอนที่น้องบอก เราไม่ได้ไม่รับฟัง แต่มันคิดไม่ทัน เพราะด้วยนิสัยน้อง จะไปถามพ่อตรงๆ ว่าจับของน้องหรอ ก็กลัวว่า เขาจะทำโทษน้อง ถ้าปล่อยไปก็ไม่ได้ อาจจะบานปลายกว่านี้ จะไปส่งที่แม่เขา ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา แล้วแม่เขาก็ไม่เอาด้วย แล้วไหนกลัวแม่ของเราจะรู้แล้วเครียดมากกว่าเดิมอีก ตอนนี้ได้แต่ อยู่ใกล้ๆหลาน พอหลานเดินไปไหน ถ้าอยู่ใกล้พ่อ ก็จะทำเป็นไปนั่งอยู่แถวนั้น ภาวนาให้หลานโตไวๆ ไปเรียนไกลๆ หางานทำดูแลตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้น้องพูดเรากลัวจะบานปลายไปมากกว่านี้ พ่อเราเป็นคนซัพพอร์ตทุกอย่างในบ้าน แม่เราเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้าน ส่วนเราไม่ได้ทำงานนะคะ ก็ช่วยพ่อดูแลกิจการที่บ้าน พ่อดูแลทุกอย่าง ทั้งในบ้าน นอกบ้าน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ เราสมควรทำแบบไหนดีคะ ตอนนี้เราคิดว่าทำแบบนี้ดีที่สุด ณ ตอนนี้นะคะ