โพลม.นเรศวร เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก ‘ประชาชน’ นำโด่งทิ้งห่าง ‘เพื่อไทย’ 
https://www.matichon.co.th/politics/news_4783626
 
 
โพล คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร ชี้ เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก ‘ประชาชน’ นำโด่งทิ้งห่าง ‘เพื่อไทย’
 
เมื่อวันที่ 10 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร เผยผลสำรวจ โพลเลือกตั้งซ่อม ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ปรากฏว่าพรรคประชาชนนำพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก
 
จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในการเลือกตั้งส.ส.เขต 1 พิษณุโลก ซึ่งกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยผลการสำรวจความคิดเห็น 1,235 คน และเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เขต 1 พิษณุโลก จำนวน 1,182 คน ผลการสำรวจมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
 
ข้อ 1 ท่านจะไปเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลกหรือไม่ ผู้ตอบแบบสำรวจมีการแสดงความจำนงว่าจะไปเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก ดังต่อไปนี้
1 ไปเลือกตั้งซ่อมจำนวน 922 รายคิดเป็นร้อยละ 78.1
2 ไม่ไปเลือกตั้งซ่อมจำนวน 89 รายคิดเป็นร้อยละ 7.5
3 ไม่แน่ใจว่าจะไปเลือกตั้งซ่อมหรือไม่จำนวน 169 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.4
 
2 ท่านจะไปเลือกตั้งซ่อม เพราะ (สามารถตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) มีผู้ตอบแบบสอบถามข้อดังกล่าว 1,109 คน โดยส่วนใหญ่ 67.4% อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และถือเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทยในการเลือกตั้ง 55.8%
1.อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จำนวน 747 คน คิดเป็นร้อยละ 67.4
2 เป็นหน้าที่ของพลเมืองไทย จำนวน 619 คนคิดเป็นร้อยละ 55.8
3 อยากมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศ จำนวน 577 คน คิดเป็นร้อยละ 52
4 ต้องการ ให้ตัวแทนไปสะท้อนปัญหาของประชาชนในพื้นที่มีผู้ตอบ จำนวน 592 คนคิดเป็นร้อยละ 53.4
5 อื่นๆ จำนวน 20 คน คิดเป็น ร้อยละ 1.8 แบ่งเป็นคือต้องการใช้สิทธิ์และเสียงของตนเอง 47% และอยากเห็นนโยบายสุราก้าวหน้า 2%
 
ข้อ 3 ท่านตั้งใจจะไปลงคะแนนให้กับ ส.ส.ของพรรคใด (ตัดผู้ไม่ไปเลือกตั้งออก เหลือผู้ตอบจำนวน 1,091 ราย) ผู้ตอบแบบสอบถามมีความตั้งใจที่จะไปลงคะแนนให้กับสสของพรรคที่ลงเลือกตั้งดังต่อไปนี้
1 พรรคเพื่อไทยจำนวน 211 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.3
2 พรรคประชาชน จำนวน 880 ราย คิดเป็นร้อยละ 80.7
 
ข้อ 4. ท่านคิดว่าพรรคใดจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมส.สจังหวัดพิษณุโลก ผู้ตอบแบบสำรวจคิดว่าพรรคที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อม จังหวัดพิษณุโลกมีจำนวนดังต่อไปนี้
1 พรรคเพื่อไทย จำนวน 258 ราย คิดเป็นร้อยละ 23.6
2 พรรคประชาชนจำนวน 833 รายคิดเป็นร้อยละ 76.4
 
ข้อ 5 ท่านพิจารณาเลือกส.สจากเหตุผลใดมากที่สุด ผู้ตอบแบบสำรวจพิจารณาเลือกส.สจากเหตุผลดังต่อไปนี้
1 นโยบายพรรคจำนวน 541 รายคิดเป็นร้อยละ 49.6
2 ตัวบุคคลจำนวน 302 รายคิดเป็นร้อยละ 27.7
3 ผลงานที่ผ่านมาจำนวน 237 รายคิดเป็นร้อยละ 21.7
4 อื่นๆ เช่นความจริงจังจริงใจในการทำงาน การคาดหวังกับรัฐบาลจำนวน 11 รายคิดเป็นร้อยละ 1

---

พลทหารในนครสวรรค์ร้องเรียน ถูกกองร้อยละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ทหารรุดตรวจสอบ
https://prachatai.com/journal/2024/09/110634

หลังเพจข่าวนครสวรรค์รายงานมีพลทหารร้องเรียนถูกกองร้อยละเมิดสิทธิส่วนบุคคลถูกเข้าถึงมือถือส่งรูปลับ เข้าแอพธนาคารเกรงเกิดความเสียหาย ล่าสุด 'ธนิก' ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ทหารเข้าตรวจสอบที่ค่ายจิรประวัติแล้ว ผบ.เริ่มสอบสวนหากผิดจริงมีลงโทษ
 
10 ก.ย.2567 หลังจากที่เมื่อวานนี้เพจข่าวนครสวรรค์ - KNSN รายงานว่ามีกรณีพลทหารของค่ายทหารในจังหวัดนครสวรรค์ ร้องเรียนว่าพลทหารถูกยึดมือถือทั้งกองร้อยไปจนถึงมีการเข้าแอพธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปจนถึงมีการลงโทษขังจำพลทหารในค่ายเพราะไปสักลายมาจากข้างนอก จึงมีการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ

ล่าสุด ธนิก อินต๊ะรัตน์ ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการทหารจากพรรคประชาชน โพสต์ทางแฟนเพจของตนว่า วันนี้เขาและคณะเข้าพบพลตรี ประสิษฐิพงศ์ มูลดี ผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 31 (ค่ายจิรประวัติ) และได้ทราบตัวคู่กรณีแล้ว จากนี้จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไปและถ้าทำผิดจริงก็จะมีบทลงโทษตามมาพร้อมรับรองความปลอดภัยผู้เสียหายด้วย

ทั้งนี้รายละเอียดของลักษณะการกระทำที่เพจข่าวนครสวรรค์รายงานไว้นั้น มีทั้งการยึดมือถือของทหารทั้งกองร้อยโดยต้องมอบรหัสเข้าโทรศัพท์ด้วยและยังพบด้วยว่าข้อความในแชทถูกอ่านอีกทั้งยังมีการนำภาพส่วนตัวของพลทหารกับแฟนส่งต่อภาพดังกล่าวอีกด้วย และเมื่อส่งต่อแล้วมีการลบข้อความแต่สามารถกู้กลับมาได้ทำให้พลทหารรายดังกล่าวทราบเรื่องว่าภาพส่วนตัวถูกส่งออกไป ไปจนถึงถูกเข้าไปในแอพธนาคารแล้วนำประวัติการเงิน(สเตทเมนท์) ไปด้วยจนเจ้าของบัญชีเกรงจะเกิดความเสียหาย
 
นอกจากนั้นยังมีพลทหารที่ถูกลงโทษขังจำในค่ายเพราะไปสักลายมาจากข้างนอกด้วย ซึ่งผู้ร้องเรียนมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล 
 
https://www.facebook.com/khaonakhonsawan/posts/946171917555091
https://www.facebook.com/BenThanikInt/posts/508781615070911

---

ทั้งจังหวัด ประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ชาวไร่โอด ขาดทุน-หนี้ท่วม วอนรัฐช่วย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9406499

เพชรบูรณ์ สมาคมพืชไร่จังหวัด ประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด เหตุโรงงานอาหารสัตว์กดราคารับซื้อ ชาวไร่โอด ขาดทุน-หนี้ท่วม ประสบปัญหาราคาตกต่ำ วอนรัฐช่วย “ไม่ช่วยตายแน่”
 
10 ก.ย. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมพืชจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ออกประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 11 – 15 ก.ย. 67 หลังโรงงานอาหารสัตว์กดราคารับซื้อต่อเนื่องติดต่อกันมากว่าสัปดาห์แล้ว และไม่มีทีท่าจะขยับขึ้นแต่อย่างใด
 
ส่งผลให้เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดที่ปัจจุบันประสบกับปัญหาราคาตกต่ำอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอการหยุดรับซื้อทำให้ยิ่งเดือดร้อนหนักมากขึ้นกว่าเดิม
 
นางเม้ย ชินสี อายุ 64 ปี เกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด ต.ห้วยใหญ่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ตนเช่าที่ดินปลูกข้าวโพดจำนวน 100 ไร่ ลงทุนไปแล้วกว่า 4 แสนบาท ทั้งค่าพันธุ์ ค่ายา ค่าปุ๋ย ปัจจุบันเป็นหนี้ ธ.ก.ส.กว่า 2 ล้านบาท
 
วันนี้เป็นวันแรกที่เก็บเกี่ยวข้าวโพด โดยเมื่อไปถึงลานปรากฎว่า ได้ราคาเพียง 6.30 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น และยิ่งมาเจอการประกาศหยุดซื้อของลานตาก ตนก็ไม่รู้ว่าราคามันจะลดลงไปมากกว่านี้อีกเท่าไหร่
 
แรกทีเดียวที่ตนไปสอบถามราคาที่ลานตก เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอยู่ที่ราคา 7.90 บาท ซึ่งตนก็เห็นว่า พอที่จะมีกำไรบ้าง แต่ระยะเวลาเพียงไม่กี่วันที่รอรถเกี่ยวมาจนถึงวันนี้ราคาลดลงเหลือ 6.30 บาท และหากลดลงไปกว่านี้ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน
 
ตนจึงอยากจะให้รัฐบาลเร่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรโดยด่วน อีกทั้งอยากให้รัฐบาลระวงับการนำเข้าข้าวโพด ข้าวสาลีรวมทั้งพื้นอาหารสัตว์จากต่างประเทศ เพื่อที่จะทำให้ราคาข้าวโพดกระเตื้องขึ้น ไม่เช่นนั้นชาวไร่ต้องตายแน่ๆ
 
ด้านนายเทพ เพียมะลัง ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาข้าวโพดราคาตกต่ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดจากมีการนำข้าวโพดจากต่างประเทศเข้ามาตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากข้าวโพดภายในประเทศมีไม่เพียงพอต่อการผลิตอาหารสัตว์
 
รวมทั้งจากจากสภาวะโลกร้อนทำให้ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เกิดสภาวะภัยแล้ง ทำให้การปลูกข้าวโพดล่าช้าไปหนึ่งเดือน ทั้งผลผลิตออกตรงช่วงฤดูฝนและตรงกับพื้นที่อื่น รวมทั้งปัญหาของเกษตรกรเร่งในการเก็บเกี่ยว ทำให้คุณภาพของข้าวโพดนั้นมีคุณภาพต่ำ และต้องใช้ระยะเวลาในการอบซึ่งเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย
 
จากกรณีสมาคมพืชไร่จังหวัดเพชรบูรณ์ประกาศหยุดซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งจังหวัด สภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ประชุมหาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยได้ข้อสรุปกล่าวคือ ขอให้โรงงานรักษาเสถียรภาพด้านราคาให้คงที่ และมีความเป็นธรรมต่อเกษตรกร รัฐบาลต้องมีนโยบายการประกันราคาสำหรับข้าวโพดสดที่เกษตรกรขายไม่ใช่ประกันราคา
 
เฉพาะส่วนของข้าวโพดแห้ง ต้องงดการนำเข้าในฤดูกาลข้าวโพดปกติภายในประเทศ และควบคุมมาตรการการนำเข้า 3:1 ตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรส่งเสริมให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวโพดให้ครบอายุเพื่อให้ข้าวโพดมีคุณภาพที่ดี
 
ส่วนการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ประสานงานไปกับ สส. ในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยดำเนินการหาวิธีการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรรวมทั้งประสานไปที่ สว.ทางการเกษตร ให้ช่วยประสานงาน อธิบดีกรมการค้าภายในเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรต่อไป