[CR] 3363 Km in Namibia : Windhoek & Etosha

สวัสดีค่าาา วันนี้ จะมาแชร์เรื่องราวการผจญภัย ของพวกเรา ที่ " นามิเบีย " ค่า  โดยจะขอแบ่งออกเป็น Ep ย่อยๆนะค้า เพราะรูปเยอะมากๆเลย อยากลงเก็บไว้ดูเองด้วย ในอนาคต >_<

3363 Km in Namibia : Windhoek & Etosha



การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นจาก เจอโพสนึงของ “คุณ ถือค้อนท่องโลก” ใน  facebook ค่ะ เป็นภาพต้นไม้ตายต้น หนึ่งกับ ทะเลทราย สีส้ม ตัดกัน เหมือนภาพวาด  เลยเก็บลง ลิสส ที่ๆอยากไป มานานมาก นานจนลืมไปเลยค่ะ แต่อยู่ดีๆ  เมื่อปีที่แล้ว ก็เผลอไปเลื่อนเจอโพสเก่าๆ ที่เรา บันทึกไว้ใน Facebook แล้วก็เห็นภาพ ต้นไม้ตัดกับทะเลทรายสีส้มนี้อีกรอบ เลยคิดว่า คงถึงเวลาแล้วแหละ >_<

หลังจากนั้นก็เริ่มรวบรวมสมาชิก แล้วก็ทำการจองตั๋วเครื่องบิน เพื่อไม่ให้สมาชิกหนีไปไหน 🤣

การเดินทางครั้งนี้ จขกท เก็บรวบรวมข้อมูล และทำการจองและจัดการเดินทาง ล่วงหน้า นานที่สุดเลยค่ะ ประมาณ 9-10 เดือน ก่อน ออกเดินทางเลย

มีการเปลี่ยนแผนการเดินทางหลายรอบ กว่าจะลงตัว ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ

> คุณ ถือค้อนท่องโลก
> อ. ฐานวุฒ

ที่ให้ลอกแผนการเดินทาง ให้คำแนะนำ สำหรับการจัดทริป  แล้วให้คำปรึกษาต่างๆมากมาย 🙇🏻‍♀️

การเดินทางของเราครั้งนี้ เป็น แนว Roadtrip แบบขับเองทั้งหมด มีไกด์ ท้องถิ่น เป็นบางที่

แผนการเดินทางของพวกเรา จะขับรถทวนเข็มนาฬิกา ตามรูป รวมระยาะทางโดยประมาณ 3363 กิโลเมตร เลยเป็นที่มาของ ชื่อกระทู้ “ 3363 km In Namibia “  >_<



ข้อมูลรายละเอียดคร่าวๆ ของ ประเทศนามิเบีย สำหรับคนไทย

1.ต้องทำ  Visa คนไทยสามารถทำแบบ on Arrival ได้ ค่า Visa 1200 Nad รับบัตรเครดิต

2.ค่าเงิน นามิเบีย คือ Nad มีค่าเท่ากับ Zar ( south africa rand ) 1 Nad ~ 2 Bath
สามารถแลก Zar ได้ที่ Super rich
ที่ประเทศ นามิเบีย เราสามารถ ใช้ เงิน Zar จ่ายได้เลย แต่ถ้าเราข้ามไป South africa เราจะไม่สามารถใช้เงิน Nad ได้

คำแนะนำ * ให้แลกเงินไปเยอะหน่อยค่ะ จริงๆสามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายได้เป็นส่วนมาก แต่ จะมีการให้ Tip ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด แล้วก็มีบางร้าน/บางที่ท่องเที่ยว ไม่รับบัตรค่ะ และก็เผื่อกรณีฉุกเฉิน เครื่องรูดบัตรเสียด้วยค่ะ (กลุ่มของจขกทเจอครบเลย มีปัญหาเรื่องขาดเงินสดด้วยค่ะ)

3.ฤดูท่องเที่ยว
High season July - October (winter)
Low season December - April

จขกท เลือกไป ช่วง late July-Aug  ราคาที่พัก และค่าเครื่องบิน แพงมาก (แต่คุ้มค่าค่ะ)

สาเหตุที่ หน้าหนาว เป็น high season เพราะ
1. มีความแห้งแล้ง แหล่งนำ้น้อย เราจะสามารถเจอสัตว์ป่าได้เยอะ ตาม Water hole ที่เหลืออยู่ เพราะทุกตัวต้องกินนำ้
2.ฝนตกน้อย

4.ธรรมเนียม การให้ Tip **
ที่นามิเบีย มีธรรมเนียมการให้ทิป เหมือนฝั่ง เมกาและยุโรปเลยค่ะ (คนไทยจะไม่ค่อยชิน)
ทุกสิ่งอย่างที่นามิเบีย คือ ต้องให้ ทิปหมดค่ะ
เช่น การเติมนำ้มัน ร้านอาหาร  คนโบกรถ คนเฝ้ารถ จอดรถ ก็จะมีคนเดินมาเก็บเงิน  ส่วนมาก ให้ 10-20 Nad  มีบ้างที่ให้ 50-100 Nad กับพวก ไกด์ ท้องถิ่น  แต่ถ้าเป็นร้านอาหาร แนะนำว่า + ไป 15-20% ค่ะ  

5. ห้องนำ้ตามปั้ม (ส่วนมาก) ไม่ฟรี

6.เครื่องแต่งกาย แนะนำให้เตรียม เป็น layer ไปค่ะ ตอนเช้าและตอนเย็นจะอากาศหนาว หลังพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะค่อยๆอุ่น -ร้อน ในบางวัน อากาศ ค่อนข้างแปรปรวนค่ะ หนาวๆ ร้อนๆ เตรียมยา ไปเผื่อด้วย ก็จะดีมากค่ะ

สิ่งที่จขกท คิดว่า ขาดไม่ได้
-แว่นตากันแดด
-ครีมกันแดด
-แมส/ผ้าปิดจมูก/ยาแก้แพ้ (สำหรับคนเป็นภูมิแพ้)
เพราะ ฝุ่นเยอะมากๆ ค่ะ
-ยาแก้เมารถ ทางมีตั้งแต่ ลาดยาง อย่างดี จนถึง ถนนลูกรัง
-ครีมทาผิว ทาหน้า และลิปมัน เพราะ อากาศ แห้งมากก

7.ภาษา ที่ใช้ สื่อสาร : อังกฤษ / เยอรมัน / ท้องถิ่น ทุกคนพูดอังกฤษ เก่งมาก ทำให้การท่องเที่ยวง่ายมากๆเลยค่ะ

8.Time zone  ห่างจากไทยประมาณ 5 ชม

9.แนะนำ Sim โทรศัพท์ จขกท ซื้ิอของ MTC ราคาดี ให้เนตเยอะ และสามารถโทรได้ด้วย

10… ถ้ามีอะไรที่นึกออกอีก จะมาเพิ่มเติมนะค้า

แผนการเดินทางแบบละเอียด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การเดินทางครั้งนี้ พวกเราบินกัน หลายต่อมากๆ เพราะว่า คำนวนแล้ว ค่าตั๋วเครื่องบิน บินหลายต่อ ถูก กว่า และ สามารถแวะเที่ยว Cape town ( South africa ) ก่อนกลับไทย ได้อีกด้วย

Day 0 : 20 July 2024
BKK- Johanesburg Or Tambo


จขกท บินไปเจอเพื่อนๆ ที่ Johanesburg

Day 1 : 21 July 2024
แผนการเดินทางของวันนี้ คือ
-บินถึง Hosea Kutako International Airport
-Pick up รถ เช่า ที่ Namibia 2 go
-check in ที่พักในตัวเมือง Windhoek
-Dinner ที่ ร้าน Joe’s beer house



เย่ หลังจากนั่งเครื่องมา ประมาณ 11 ชั่วโมง ก็เจอเพื่อนๆแล้วค่าา

ตอนนี้พวกเรากำลังรอต่อเครื่องไป Windhoek โดย สายการบิน Airlink



หลังจากนั่งเครื่องไปประมาณ 2 ชั่วโมง พวกเราก็มาถึง Namibia แล้ววว



ถึง สนามบิน Hosea Kutako International Airport แล้ว



หลังจากที่มาถึง พวกเราก็ไป ทำVisa on arrival จะมี ห้องงสำหรับทำ visa on arrival อยู่ทางซ้ายมือของอาาคารรร ข้างๆห้องนำ้ ก่อนจะถึงที่ตรวจ ตม รอคิวว ประมาณ 30 นาที เลย เพราะคนก่อนหน้า มีปัญหาเล็กน้อยยย แนะนำว่า มาถึงแล้ว ให้พุ่งตัวไปทำเลย  

หลังจากทำ Visa เรียบร้อย และผ่าน ตม แล้ว พวกเราก็ไป รอรับ กระเป๋า แล้วก็ เอากระเป๋า ไปตรวจ (แถวยาวววมาก)   ถึงจะเดินออกไปข้างนอกได้



หลังจากนั้นก็จะเดินออกมา ตรง อาคารผู้โดยสาร

สนามบิน Hosea Kutako International Airport เป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่

เดินออกมาก็จะเจอร้านแลกเงิน และ ร้านขาย sim โทรศัพท์ พวกเราแยกกัน ไปแลกเงิน dollar เป็น Nad แล้วก็ไปซื้ิอ Sim card

การแลกเงินที่ สนามบินนามิเบีย  ไม่เสีย ค่า Commission* ดีงามมาก 🥰

หลังจากแลกเงินเรียบร้อยแล้ว ก็ ติดต่อ บริษัท เช่ารถ ให้มารับพวกเรา






พวกเราเลือกเช่ารถกับ บริษัท Namibia 2 Go
จขกท ได้ทำการเปรียบเทียบราคา หลายๆเจ้า พบว่า เจ้านี้ น่าเชื่อถือ และราคาเป็นมิตรมากๆ
ปล. ราคาเช่ารถ ทำเอาจขกท กุมขมับเลย เพราะไม่เคยคิดว่า ค่าเช่ารถจะแพงขนาดนี้มากก่อน แต่ไปดูเจ้าอื่นแล้ว เจ้านี้ก็คือถูกที่สุด แล้ว 🥹

ราคาเช่ารถ 13 วัน ประมาณ 80,000 บาท
หารออกมาแล้ว ตกคนละ 20,000 เลย
ดีที่ พวกเรา ไปกัน 4 คน💸
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. ราคารถเช่า ขึ้นทุกปีนะ ปีละ 10-20% เลย

หลังจากที่ มีคนไปรับเราจากสนามบิน ก็มาส่ง พวกเราตรงที่รับรถ ของ Namibia 2 Go

รอพักนึง ก็จะมีคนมาแนะนำ และสอนวิธีการใช้รถ และกางเต้นท์




หลังจากเรารับรถเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เข้าไป Check in ที่  ที่พัก

คืนนี้ พวกเราพักที่ Alluring Self catering 2 bedroom villa at Bokmakirie - Booking
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่พักสวยย และดีมาก  อยู่ในย่านปลอดภัยด้ววย

หลังจาก Check in เรียบร้อย พวกเราก็ขับไปกินข้าวเย็น ที่ร้านอาหาร Joe’s beer house ที่ๆทุกคน และรีวิว บอกว่าต้องมา…

Joe’s Beer House



รูปรวมที่ร้าน Joe’s beer house ร้านดังง หนึ่งใน tourist attraction ที่นักท่องเที่ยว ที่มา windhoek ต้องแวะ



อาหารดัง คือเนื้อ แปลกๆ ที่ไม่มีให้กินที่ไทย เช่น เนื้อ Kudu Springbok  Giraffe Crocodile Zebra เป็นต้น





พวกเราสั่งอาหารมา 3 จาน มีเนื้อแปลกๆ 2 จานแล้วก็ steak เนื้อวัว
สิ่งที่ชอบที่สุดคือ เนื้อวัว อร่อยสุด เนื้ออื่นๆก็กินได้ แต่แข็งไปหน่อยยย ทุกคนโหวตว่า ร้านนี้ทำ steak ไม่อร่อย เนื้อบางส่วนสุกมากไป ทั้งๆที่สั่ง medium rare



บรรยากาศในร้าน มีเอกลักษณ์ และ สวยมาก

สรุป : ถ้ามาครั้งแรก แวะก็ได้ แต่อาหารเฉยๆมากก แต่ก่อนอาจจะอร่อย ปัจจุบันดูอร่อยน้อยลง  

**ที่นามิเบีย  เบียร และ เหล้า ถูกมาก**
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

รายการอาหารแปลกๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากกกินข้าวเย็นเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไป แวะ supermarket ตุนเสบียง สำหรับออกเดินทางไกล ในวันพรุ่งนี้  แล้วก็กลับที่พักไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ เราจะต้องงง ออกเดินทางตั้งแต่ เช้า

Day 2 : 22 July 2024
แผนการของวันนี้ คือ
-Etosha
ในแผนการเดินทางที่วางไว้ จะใส่เวลาไปด้วย เผื่อคำนวนระยะเวลาเดินทางแล้วก็ ดูว่าจะสามารถใส่ที่เที่ยวอะไรเข้าไปได้บ้าง แต่จริงๆแล้วว การเดินทางของพวกเรานั้น ไม่มีเวลาตายตัว ค่อนข้างสบายๆ ขอแค่ไปให้ถึงที่พักในแต่ละวัน ก็พอ

วันนี้พวกเราตื่นกันประมาณ 8 โมง หลังจาก checkout เรียบร้อย พวกเราก็แวะซื้อกาแฟกันก่อน

First stop ของพวกเรา :  Slowtown ร้านกาแฟที่เพื่อน เปิดเจอ และมีรีวิว ดี ใน googlemap ร้านนี้ mocha และ chocolate อร่อยมาก

Let’s gooo ~

ขับไปประมาณ 2 ชม จะเจอเมืองใหญ่ ชื่ิอเมือง “Otjiwarongo”  ตอนนี้เป็น เวลา เที่ยงพอดี พวกเราเลยแวะ ปั้ม เติมนำ้มัน แล้วก็ซื้อ ขนม และข้าว ไปกินบนรถ ..

เนื่องจาก pantip ให้แค่ 10,000 ตัวอักษรเท่านั้น
ต่อใน Comment ที่ 15 และ 27 นะค้า💖
ชื่อสินค้า:   Namibia
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่