บ้านที่เราซื้อเป็นบ้านจัดสรร เป็นบ้านหลังสุดท้ายและมีที่ดินเปล่า พื้นที่ไม่ได้กว้างมาก ด้านหลังติดคลองหมู่บ้าน อาศัยบ้านหลังนี้มาประมาณ 15 ปีแล้ว ด้วยที่ดินเปล่าข้างบ้าน เจ้าของไม่ได้เข้ามาสนใจดูแล หรือถอนหญ้าทำความสะอาด ใด ๆ เลย เรากับเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวก นั้น จึงได้สร้างที่จอดรถมาไว้ และดูแลถอนหญ้า บางคนก็ปลุกพืชผัก สวนครัวไว้กิน ปลูกกล้วย เอากิ่งไม้มาทิ้ง เป็นทางเดินเข้าออก ซอยด้านหลัง เกือบ ๆ เป็นพื้นที่สาธารณะ เพราะ คนในหมู่บ้านใช้งานกันเยอะ บ้านมาสักประมาณ 10 แล้ว ทางเรา เลยคิด ว่าจะ ซื้อมาเป็นที่ดินรวมกับของต้นเองเลยดีกว่า ได้ติดต่อไปทางโครงการ เพื่อจะซื้อ ( ดูราคาประเมินที่ดินใน กรมที่ดิน ที่ดินมีราคาประเมิน 11,000 - 15,000 บาท ) แต่ทางเจ้าของจะขายที่ ตรว.40,000บาท ซึ่งเรามองว่ามันแพงเกินไป ที่ดิน ข้างบ้านน่าจะมีพื้นที่แค่ 30 ตรว เอง เพราะด้านหลัง มันต้องเหลือพื้นที่ เนื่องจากติดคลองอีก เราจึงไม่ได้ซื้อ ผ่านมาสัก 1 ปี เจ้าของ จะให้เราเช่า เดือนละ 2,000 บาท ซึ่งเรามองว่าไม่คุ้ม ถ้าเราเช่า คนอื่นก็เข้ามาใช้งานอยุ่ดีทำไมเราจึงต้องเสียเงิน ถ้ากั้นทางไม่ให้คนอื่นเข้า เดี๋ยวก็จะมีปัญหาอีก เราจึงถามเพื่อที่จะซื้อที่ดินอีกครั้ง เจ้าของก็ยังยืนยันราคาเดิม 40,000 บาท ซึ่งเรามองว่าแพงไป และทางเจ้าของที่ให้รื้อที่จอดรถ และต้นไม้ออกทั้งหมด เรากลัวว่าถ้าเรารื้อออก เจ้าของจะไม่ได้มาสนใจดูแลเมื่อเวลาหญ้าขึ้น เพราะขนาดเราดูแล ยังมีบางที่งูสิงเลี้อยเข้ามาในบ้านเลย เราไม่อยากให้มีงูหรือสัตว์มีพิษเข้ามาในบ้าน จึงอยากปรึกษา ถ้าเป็นแบบนี้เราสามารถ ฟ้องเป็นครอบครองที่ดินปรปักษ์ ได้หรือเปล่าคะ เพราะ เราก็สร้างที่จอดรถมานานมากแล้ว และ ก็ดูแลพื้นที่ตรงนั้นไม่ให้มีหญ้าขึ้น สามารถมีวิธีไหนได้บ้าง ที่เราจะได้พื้นที่ตรงนั้นมาเป็นของเราคะ เมื่อจะขอซื้อดี ๆ คิดราคาโหดมาก
ที่ข้างบ้าน เจ้าของไม่เคยดูแล เราดูแลถอนหญ้า และสร้างโรงจอดรถกับเพื่อนบ้าน อยู่อาศัยมา 13 ปีแล้ว