https://www.mitihoon.com/2024/09/08/486394/
มิติหุ้น – EA จ่อปิดดีลพันธมิตร บิ๊ก บจ.ภายในเดือน ก.ย.67 นี้ แย้มเปิด 3 แนวทางรอด พร้อมเดินหน้าอัพเดตข้อมูลทริส เรทติ้ง แย้มเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
EA หรือ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ โดย “วสุ กลมเกลี้ยง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ภายหลังแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง หนี้สินระยะสั้นและหุ้นกู้โดยไม่เกิดผิดนัดชำระหนี้แล้ว ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตร หรือ Strategic Partners ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 3 แนวทางเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน คือ การหาผู้ร่วมทุน, การหาจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) และสุดท้ายตัดขายกิจการ นั้น
แย้มแนวทางแรกมีโอกาสเกิดมากสุด
โดยเบื้องต้นบริษัทเร่งเดินหน้าเพื่อเจรจากับพันธมิตรที่สนใจทั้ง 3 แนวทาง ซึ่งแนวโน้มแนวทางแรกมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดซึ่งเป็นบิ๊กบจ.ในตลาดที่ช่วยเสริมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะบิ๊กบจ.ที่ยังไม่มีธุรกิจโรงไฟฟ้า และสนใจขยายเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและมีฐานทุนเพียงพอกับความต้องการของบริษัท (คาดหวังเงินเพิ่มทุนราว 1-1.5 หมื่นลบ.) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 1 รายแต่คาดหวังจะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.ย.67 นี้ ส่วน 2 แนวทางนั้นมีทั้งต่างชาติและในประเทศที่สนใจก็อยู่ระหว่างเจรจาคู่ขนานไปด้วย
“สัญญาขายไฟแม้ไม่มีADDER ก็ยังสูงกว่าสัญญาใหม่ในปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทยังมีความน่าสนใจ และยังสร้างรายได้สม่ำเสมอ (Recurring Income) เนื่องจากสัญญาขายไฟที่ไม่มี ADDER ยังสูงกว่าสัญญาใหม่ที่ทางการอนุมัติให้กับรายอื่นๆในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ EA ยังมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง รวมทั้งบริษัทยังมีแผนธุรกิจเรือธง อีก 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจหัวรถไฟฟ้าเบื้องต้นคาดหวังโปรเจกต์นี้ในประเทศรวมถึงประเทศกำลังพัฒนา เป็นต้น และธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) และธุรกิจโรงไฟฟ้าใน สปป.ลาว จัดว่าจัดเป็นธุรกิจที่มีอนาคตเป็น New S-Curve
“ต้องยอมรับว่าแผนเพิ่มทุนของบริษัทสะดุดจริงๆคือ ทริส เรทติ้ง ที่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทีเดียว 3 ขั้นที่ BB+( Negative) เป็นต่ำกว่า Investment grade จนส่งผลต่อแผนการออกหุ้นกู้ต้องล้มไป ซึ่งภายหลังแก้ปัญหาหนี้ระยะสั้นและเลื่อนหนี้ออกไปได้แล้ว แผนธุรกิจของบริษัทก็เดินหน้าตามปกติ จากนี้ไปก็จะต้องเข้าให้ข้อมูลอัพเดตทางทางทริส เรทติ้งโดยเร็วเพื่อหวังให้มีการปรับอันดับหรือมุมมองใหม่” นายวสุกล่าว
EA แสงสว่างปลายอุโมงค์ จบดีลแต่งงานบิ๊กบจ
มิติหุ้น – EA จ่อปิดดีลพันธมิตร บิ๊ก บจ.ภายในเดือน ก.ย.67 นี้ แย้มเปิด 3 แนวทางรอด พร้อมเดินหน้าอัพเดตข้อมูลทริส เรทติ้ง แย้มเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์
EA หรือ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ โดย “วสุ กลมเกลี้ยง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ภายหลังแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง หนี้สินระยะสั้นและหุ้นกู้โดยไม่เกิดผิดนัดชำระหนี้แล้ว ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตร หรือ Strategic Partners ที่มีศักยภาพ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ 3 แนวทางเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน คือ การหาผู้ร่วมทุน, การหาจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) และสุดท้ายตัดขายกิจการ นั้น
แย้มแนวทางแรกมีโอกาสเกิดมากสุด
โดยเบื้องต้นบริษัทเร่งเดินหน้าเพื่อเจรจากับพันธมิตรที่สนใจทั้ง 3 แนวทาง ซึ่งแนวโน้มแนวทางแรกมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดซึ่งเป็นบิ๊กบจ.ในตลาดที่ช่วยเสริมกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะบิ๊กบจ.ที่ยังไม่มีธุรกิจโรงไฟฟ้า และสนใจขยายเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าและมีฐานทุนเพียงพอกับความต้องการของบริษัท (คาดหวังเงินเพิ่มทุนราว 1-1.5 หมื่นลบ.) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 1 รายแต่คาดหวังจะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.ย.67 นี้ ส่วน 2 แนวทางนั้นมีทั้งต่างชาติและในประเทศที่สนใจก็อยู่ระหว่างเจรจาคู่ขนานไปด้วย
“สัญญาขายไฟแม้ไม่มีADDER ก็ยังสูงกว่าสัญญาใหม่ในปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทยังมีความน่าสนใจ และยังสร้างรายได้สม่ำเสมอ (Recurring Income) เนื่องจากสัญญาขายไฟที่ไม่มี ADDER ยังสูงกว่าสัญญาใหม่ที่ทางการอนุมัติให้กับรายอื่นๆในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ EA ยังมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง รวมทั้งบริษัทยังมีแผนธุรกิจเรือธง อีก 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจหัวรถไฟฟ้าเบื้องต้นคาดหวังโปรเจกต์นี้ในประเทศรวมถึงประเทศกำลังพัฒนา เป็นต้น และธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) และธุรกิจโรงไฟฟ้าใน สปป.ลาว จัดว่าจัดเป็นธุรกิจที่มีอนาคตเป็น New S-Curve
“ต้องยอมรับว่าแผนเพิ่มทุนของบริษัทสะดุดจริงๆคือ ทริส เรทติ้ง ที่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทีเดียว 3 ขั้นที่ BB+( Negative) เป็นต่ำกว่า Investment grade จนส่งผลต่อแผนการออกหุ้นกู้ต้องล้มไป ซึ่งภายหลังแก้ปัญหาหนี้ระยะสั้นและเลื่อนหนี้ออกไปได้แล้ว แผนธุรกิจของบริษัทก็เดินหน้าตามปกติ จากนี้ไปก็จะต้องเข้าให้ข้อมูลอัพเดตทางทางทริส เรทติ้งโดยเร็วเพื่อหวังให้มีการปรับอันดับหรือมุมมองใหม่” นายวสุกล่าว