ปมในวัยเด็กเรื่องแมว

เราเคยมีปมในใจเรื่องแมว เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว สมัยเรายังเด็ก ที่บ้านเคยมีแมวตัวเมียสีขาวลายสลิด ตัวผอมเพรียว เป็นแมวสวยเลย หลายปีต่อมาก็มีตัวผู้มาอยู่ด้วยเป็นแมวส้มมาติดพัน ตัวใหญ่มาก หนัก 6 กิโล จากที่ ปรกติครอบครัวจะเฉยๆ กับน้องสลิด

กลายเป็นว่าทั้งบ้านรักและโอ๋แมวส้มผัวน้องสลิดสุดๆ เพราะมันตัวใหญ่น่าหมั่นเขี้ยว แต่น้องไม่อ้วนนะ ตัวใหญ่แบบมีกล้ามเนื้อที่แขนอ่ะ คือแมวมีกล้ามล่ำๆ5555 แม่กับพ่อเราก็หลงแมวส้มมาก ขนาดพ่อที่เป็นคนเฉยๆ กับแมว ไม่เคยเล่นกับน้องสลิด ยังหลงแมวส้มเลย จับมากอดมานอนด้วย

น้องส้มที่ตอนแรกดุมาก เพราะเป็นเจ้าถิ่นของแมวแถวนั้น พอมาอยู่ที่บ้านก็อ้อนเก่งและกินเก่งมาก จะมานอนกับพ่อกับแม่ตลอด เราที่อายุ 8 ขวบ อุ้มน้องส้มแล้วเราก็ล้มเลยเพราะหนักมาก จนแม่เราขำ รีบถ่ายรูปใหญ่เลย 

ตอนน้องส้มหิวมากๆ จากที่ไปเที่ยว ก็จะวิ่งเข้ามากินข้าวจนชนเมียกระเด็นเลย น้องสลิดก็ตัวผอมๆ บางๆ กระเด็นจนที่บ้านขำกันใหญ่ 

ตอนนั้นแถวบ้านหมึกราคาแพง แต่น้องส้มชอบกินมาก ที่บ้านก็ซื้อมาต้มให้แมวกิน ก็คือหลงน้องมาก

ทุกคนก็ไม่ค่อยมีใครสนใจน้องสลิดเท่าไหร่ เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง ทุกคนคิดว่าน้องไม่ได้เรียกร้องความสนใจมากด้วย ไม่กี่ปีต่อมา น้องสลิดก็คลอดลูกๆ เยอะมาก ทั้งบ้านเลี้ยงไม่ไหว แม่เราก็ไม่ได้หาบ้านหรือเจ้าของใหม่ให้เพราะทำไม่เป็น

ผลสุดท้ายก็เอาไปปล่อยแถวๆ วัด แล้วเราคิดว่าที่วัดมักจะมีหมา เราก็โวยวาย ว่าไม่ให้เอาไปปล่อยวัด แม่เราก็ว่าเลี้ยงไหว อธิบายให้ฟัง ด้วยความยังเด็กเลยนึกอะไรไม่ออก พอขับรถมาถึงพ่อกับแม่ปล่อยน้องๆ9ตัว ทิ้งข้างทาง

เราร้องให้หนักเลย แม่ก็บอกว่าแถวนี้มีบ้านคนเยอะไม่มีหมาหรอก เราก็เสียใจอยู่ดี น้องส้มกับน้องสลิดก็อยู๋บ้านเราต่อ

โดยที่ทั้งบ้านย้ายไปทำธรุกิจที่เกาะ และเช่าร้านอยู่ ร้านจะมีห้องข้างในที่พ่อแม่เราใช้เป็นห้องนอน ห้องนอกให้แมวอยู่ จนวันนึงแม่ลืมปล่อยแมว กลายเป็นว่าขังไว้ในโซนหน้าร้าน เช้ามา แมวสองตัวทั้งสำรอกอาหารและอึไว้บนโซฟา

พ่อกับแม่เราโมโหมาก ไล่ตีกันใหญ่เสียงดังไปหมด จนน้องส้มกับน้องสลิดหนีกระเจิดกระเจิง โชคดีที่หน้าถนนไม่มีรถ พ่อกับแม่เราก็ด่าไปล้างที่นอนไป เพราะเดี๋ยวจะต้องเปิดร้านแล้ว เราก็ไม่กล้าพูดว่าแม่ เพราะแม่เราโมโหแล้วน่ากลัว พูดแรงด้วย

พอแม่อารมณ์เย็น เราก็บ่นว่าไปขังทำไม (บ้านเราจะเลี้ยงแมวแบบปล่อย มาเจอตอนโตแล้วไม่มีใครว่างมาฝึก เลยคิดว่าเลี้ยงแบบบ้านๆ ไป กลางคืนให้แมวออกไป ตอนเช้าแมวก็จะกลับมา) แม่เราก็บอกว่า ก็แมวมันดันไปอ้วกกับอึใส่โซฟา ถ้าทำใส่พื้นคงไม่โมโหขนาดนี้หรอก

เราก็บอกว่าก็แม่ลืมเองไม่ใช่หรอก แมวมันไม่รู้เรื่อง แม่เราก็เหมือนจะโมโห เราที่ยังเด็กเลยต้องเงียบ กลัวโดนตี แล้วน้องสลิดก็หายไปเลย แม่เราก็ตามหาบ้างไรบ้าง ก็ไม่เจอ แต่น้องแมวส้มผูกพันกับครอบครัวเรามากและน้องฉลาดเลยกลับมาถูกทาง

เวลาต่อมา ครอบครัวเราย้ายที่อยู่ แมวส้มก็ผอมลงมากข้าวปลาไม่ค่อยกิน คงเพราะคิดถึงน้องสลิด แถมแก่มากแล้ว  น้องส้มมักจะขึ้นไปนั่งนอนเล่นบนรถสองแถวของลุงข้างห้อง ลุงแกเห็นก็มาบอกให้รู้ แกก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแมวเราไม่เคยข่วนเพราะหรือทำลายของ

จนวันนึง ลุงแกคงลืมดูว่าแมวขึ้นรถไหม แม่กับเราก็ไปเปิดร้านที่อยู่อีกที่ห่างจากบ้านเช่าไปไม่มาก ผลปรากฎว่าน้องส้มขึ้นรถสองแถว และลุงแกก็ขับไปับผู้โดยสารพอดี แล้วน้องก็หายไปเลย แม่เราตามหาเป็นอาทิตย์ แล้วเกาะมันใหญ่ ก็คือไม่เจออีกเลย

พอเราโตแล้วนึกถึงน้องส้มก็จะพูดเรื่องน้อง แม่จะบอกให้หยุดพูด เพราะแม่รักแล้วก็คิดถึงน้องมากจนไม่อยากจะนึกถึงอีก เรานึกถึงเรื่องของสองตัวนี้ทีไรแล้วแน่นหน้าอกตลอด รู้สึกหน่วงๆ สงสารแมวเด็กๆที่ไม่ได้ถูกรับไปเลี้ยงแบบถูกต้อง สงสารน้องสลิดที่ได้รับความรักน้อยกว่าอีกตัว

และสงสารน้องส้มที่คงซึมเศร้าเพราะน้องสลิดหายไป ตอนนี้น้องส้มกับน้องสลิดคงกลับไปอยู่ดาวแมวแล้วเพราะเรื่องมันนานมาก ตอนนั้นครอบครัวเราไม่คิดจะเลี้ยงแมวอีกเลย ทุกวันนี้ยังจำได้อยู่เลยว่าน้องส้มชอบกินข้าวปลาหมึกต้มมากๆ น้องสลิดชอบกินข้าวปลาทูต้ม
.
.
.
.
.
.
.
จนเราโตอยู่ มอ.ปลาย จู่ๆ แมวสีดำตัวใหญ่ เป็นตัวเมียก็เข้าบ้าน น้องตัวสีดำสนิทขนๆ เหมือนเป็นพันผสมแมวบ้านกับแมวเปอร์เซีย แม่เราก็อยากเลี้ยง น้องคือไม่ดื้อไม่ซน แต่เป็นแมวที่ไม่ยอมถูกเลี้ยงระบบปิด ก็เลยต้องเลี้ยงแบบบ้านๆ อีก น้องก็อยู่ติดบ้านเลย

ที่บ้านก็เลี้ยงดีกว่าที่เลี้ยงน้องส้มกับสลิด คือไม่เสียงดังใส่ พยายามสอนให้ถูกตามนิสัยแมว โชคดีที่ที่บ้าน ไม่ว่าจะมีแมวกี่ตัวมาอยู๋ ก็จะเป็นแมวที่ไม่ทำลายข้าวของ ไม่ข่วนไม่ขบเลย ไม่รู้ทำไม  

กระทั่งวันนึงแม่เราท้อง น้องดำก็จะมาเลียที่ท้องแม่เรา เหมือนน้องรู้ว่าข้างในมีเด็ก จนน้องของเราคลอดออกมา อายุได้ขวบนึง น้องดำก็มานั่งข้างๆ มามอง เหมือนมาช่วยเลี้ยง พอพอน้องชายเราโตขึ้นหน่อย น้องดำก็จะมาเลีย มาเล่นด้วย น้องเราก็เล่นขย้ำขน
(ที่บ้านก็จะเช็ดตัวน้องดำ ส่วนมากจะไม่ให้น้องดำเลีย เพราะน้องดำถูกเลี้ยงแบบเปิด ถ้าเลียไปแล้วก็ไม่ได้ว่าแมว แต่จะเอาผ้าชุบน้ำเช็ดที่น้องเรา)

น้องดำคือฉลาดมาก บางทีเราเล่นกับน้อง แล้วเผลอไปโดนตรงที่น้องไม่ชอบ ก็จะข่วนแต่ไม่ได้ออกเล็บ มีวันนึง น้องเราเดินเตาะแตะมาเล่นด้วย น้องดำหันมาจะข่วน ก็ชะงักเลย พอเห็นว่าเป็นน้องชายเรา น้องดำก็นอนต่อ ถ้ารำคาญ ก็จะเดินหนี ไม่ขู่ไม่ข่วนเลย 

ทุกคนก็ต้องวุ่นวายสนใจเลี้ยงแต่น้องชายเรา น้องดำก็เริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน คงเพราะทำหมันด้วย นานเข้าก็กลับครั้งนึง จนเรากับแม่มักจะบ่นทำน้องดำเป็นอะไรรึเปล่า โดนหมากัดรึเปล่า 

ตกดึกก็จะเป็นน้องดำมานอนฟุบบนหลังคาตัวดำๆ แอบมองคนในบ้าน นานๆ ทีจะเข้ามาในบ้านตอนดึกๆ จนเราคุยกับแม่ว่า น้องดำน้อยใจรึเปล่า เพราะเมื่อก่อนน้องดำอยู่บ้าน กระทั่งตอนนี้น้องก็กลับมาบ้านบ้างบางที ครอบครัวเราก็วุ่นทำงานกับดูแลน้องกัน

ใจนึงก็อยากให้น้องดำกลับมาอยู่ที่บ้านบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่ตั้งแต่ทำหมันและมีน้องชาย น้องดำคือใช้ชีวิต ฟรีสไตล์มาก อิสระมาก นานๆ ทีก็เอาตจิ้งจก เอานกมาให้ พอครอบครัวเราเห็นน้องดำไปผจญภัยกับแมวแถวๆ บ้านก็ไม่ได้เป็นห่วงมาก เพราะน้องดำเก่ง เคยจับหนูหมดบ้านก็ทำมาแล้ว เลยให้น้องใช้ชีวิตตัวเองไป นานๆ ก็กลับมาเล่นกับคนที่บ้านเราค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่