วันนี้จะมารีวิวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ Redmi Watch 5 Active ที่แอบเปิดตัวเงียบๆ ในไทยนะครับ พอดีไปเจอในแอปมา คิดว่าซักพักคงมีขาย สรุปมีขายแล้วครับ ก็เลยลองซื้อมาให้อีกเรือน ส่วนตัวใช้ Redmi Watch 4 อยู่ ประทับใจเรื่องแบตเตอรี่มากๆ เพราะมันอยู่ได้เกิน 7 วันแน่นอน สูงสุดที่เคยอยู่ได้ประมาณ 10 วันครับ ถ้าใครอยากดูรายละเอียดแบบดิ้นได้และมีเทียบกับ Redmi Watch 4 สามารถดูผ่าน Youtube ได้ครับ



มาแกะกล่อง Redmi Watch 5 Active กันก่อนนะครับ ว่ามีอะไรให้บ้างครับ 
- ตัวเครื่อง Redmi Watch 5 Active สีเงิน Silver
- มีสายชาร์จแบบแม่เหล็ก 
- คู่มือการใช้งานเป็นภาษาไทยครับ 



วัสดุตัวเครื่อง Redmi Watch 5 Active
ตัวนี้สีเงินนะครับ เป็นแบบผิวด้าน ถ้ารุ่นเก่าคือ Redmi Watch 3 Active จะเป็นเงาๆ วัสดุเท่าที่จับมาจะเป็นพลาสติกทำผิวเหมือนอะลูมิเนียมครับ ส่วนมากเรทราคานี้ วัสดุจะเป็นแบบนี้แหละครับใครไม่ซีเรียส ใส่เคสทับไป ก็จะปกป้องเพิ่มไปอีกครับ 



ตรงด้านข้างจะมีปุ่มเดียวเป็นปุ่ม Power นะครับ เอาไว้สำหรับเปิดปิดเครื่อบ หรือกดเข้าเมนูหลักครับ



สายใช้ขนาด 22mm ที่แถมมาจะเป็นซิลิโคน สลักเป็นแบบปกติครับ ใครมีสายเก่าๆที่ขนาดเดียวกัน เอามาใส่ได้เลยนะครับ ผมลองแล้วใช้ได้ปกติครับ 



ตรงฐานเครื่อง ตรงกลางมีเซนเซอร์วัดอัตรการเต้นของหัวใจนะครับ รุ่นนี้อัพเกรดมีไมโครโฟน 2 ตัว ตำแหน่งบนและล่างกับมีพอร์ททองแดงเป็นแม่เหล็ก เอาไว้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ครับ 



หน้าจอ Redmi Watch 5 Active 
เป็นอีกส่วนที่อัพเกรดขึ้นมาคือหน้าจอเพิ่มขนาดเป็น 2 นิ้วนะครับ จอเป็นแบบ LCD เอาจริงๆ ผมว่าจอมันคุณภาพดีนะ ไม่เหมือนจอ LCD ถูกๆ เพราะมันค่อนข้างดำสนิทเกือบๆ AMOLED เลยหน้าจอสีสันทำได้ดี อาจจะไม่จัดจ้าน แต่ก็มีหน้าปัดให้เลือกเยอะเลยครับ การสัมผัส กดเข้าออกเมนู กดติดนิ้วดีครับ ไม่ช้าเท่าไหร่ รีเฟรชเรท 60Hz ใช้งานไหลลื่นดีครับ เพราะตัวนี้เป็นระบบ HyperOS แล้วครับ



หน้าจอความสว่างสูงสุดที่ 500nit สู้แดดได้พอประมาณ อาจจะสู้พวก AMOLED ไม่ได้ แต่ถ้าแดดไม่แรงมากๆ หรือส่องมาตรงๆ ก็ยังเห็นปกติครับ



การออกกำลังกาย Redmi Watch 5 Active
ตัวนี้จะเน้นการออกกำลังในร่มเป็นหลักนะครับ มีเป็น 100 กว่าชนิดเลย เพราะรุ่นนี้ไม่มี GPS ที่สามารถวัดระยะทางเช่นการวิ่ง การเดิน ในตัวได้นอกจากว่าจะมีการเชื่อมต่อผ่านมือถือของเรา แล้วพกมือถือไปเดินด้วย อันนี้ก็จะใช้ GPS จากมือถือแทนครับ 




การแจ้งเตือน Redmi Watch 5 Active
รุ่นนี้เป็นภาษาไทยตัวหนังสือใหญ่ อ่านง่ายสบายตา Font สวยดีครับ สวยกว่า Redmi Watch 4 อีกนะ ดูเป็นวัยรุ่นดี
รุ่นนี้มีลำโพงการแจ้งเตือนก็จะมีเสียงด้วย มีไมโครโฟน สามารถคุยผ่านโทรศัพท์ได้เลย แต่ตอนนี้จะคุยได้เฉพาะการโทรศัพท์แบบปกติก่อนนะครับ ในส่วนของการโทรผ่านไลน์ ถ้ามีสายเข้ามาจะมีแจ้งเตือนว่ามีสายโทรเข้า ให้ไปคุยที่โทรศัพท์แทน แต่จะไม่มีปุ่มกดรับสายครับ อนาคตอาจจะมีให้อัพเดตให้ใช้งานได้ในส่วนนี้ครับ 



การเชื่อมต่อ Redmi Watch 5 Active
ตัวนี้ใช้ App Mi Fitness ในการเชื่อมต่อนะครับ รองรับ Andriod และ iOS การเชื่อมต่อง่ายมากๆ หลังเปิดเครื่องสามารถสแกนผ่าน Qr Code หรือสแกนในแอปได้เลย หลังจากเชื่อมต่อเสร็จแล้ว จะมีให้เลือกการตั้งค่าการแจ้งเตือน การทำงานเบื้องหลัง ตรงนี้แนะนำให้เปิดหมดนะครับ เพื่อให้การแจ้งเตือนปกติครับ  



เมนูต่างๆ ก็จะเหมือนๆ กัน Smart watch xiaomi redmi อื่นๆ นะครับ เช่น การเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา ก็มีให้เลือกเยอะนะครับ มีหลายหมวดหมู่ ในเครื่องจะเพิ่มได้สูงสุด 6 แบบ ถ้าจะโหลดแบบอื่นต้องลบอันเก่าก่อนครับ มีการตั้งค่าสายเรียกเข้า แอปต่างๆ เช่นการปลุก เตือนความจำ สภาพอากาศของตำแหน่งปัจจุบันอันนี้จะโชว์ในนาฬิกาด้วยครับ มีนาฬิกาโลก การเพิ่มคนติดต่อแบบทางลัด ที่สามารถกดโทรผ่านนาฬิกาได้เลย 




ฟังก์ชันสุขภาพบน Redmi Watch 5 Active
Redmi Watch 5 Active สามารถวัดค่าสุขภาพต่างๆ ได้ เช่นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การวัดการนอน วัดความเครียด วัดค่าออกซิเจนในเลือดทั้งวัน เป็น Heart Rate monitor ได้เลย มีวัดรอบเดือนสำหรับผู้หญิงก็ได้ครับ 




การกันน้ำ Redmi Watch 5 Active
รุ่นนี้กันน้ำระดับ 5ATM สามารถว่ายน้ำ อาบน้ำได้ ออกกำลังโดนฝนได้ครับ แต่จริงๆ เผื่อความปลอดภัย ถ้าว่ายน้ำลึกๆ อาบน้ำน้ำที่แรงๆ ถอดดีกว่าครับ 
เผื่อแรงดันเยอะ น้ำอาจจะเข้าไปได้ครับ แต่ฝนตกไม่มีปัญหาครับ



แบตเตอรี่และการชาร์จ Redmi Watch 5 Active
รุ่นนี้ให้แบตเตอรี่มา 450 mAh  ชาร์จด้วยสายแม่เหล็กที่แถมมา ใช้งานสูงสุดแบบธรรมดาประมาณ 18 วัน แต่ส่วนตัวมองว่าถ้าเกิน 7 วันก็ถือว่าอยู่ได้นานแล้วครับ Redmi watch 4 ของผมอยู่ได้ 10 กว่าวัน จนลืมชาร์จเลยทีเดียว  ใครหาสมาร์วอชแบตอึดๆ มาลองดูตัวนี้ครับ



ราคา Redmi Watch 5 Active ศูนย์ไทย
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 999 บาทนะครับ  ราคานี้ใช้โค้ดลดได้ตามแอป ส่วนผมได้มา 900 กว่าบาท ถ้าโปรหนักๆ เหลือ 800 กว่าบาท ส่วนตัวมองว่าคุ้มกับราคาดีครับ เพราะได้หน้าจอใหญ่ แจ้งเตือนภาษาไทย และแบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนานครับ ใครมีปัญหาหรือจะสอบถามการใช้งาน ถามก่อนซื้อได้ครับ คอมเม้นท์ถามมาได้เลยครับ