วันก่อนเตรียมเสบียงเป็นกะเพราหมูสามชั้นสไลซ์ด้วยซอสกะเพราะสำเร็จรูป ยังกินไม่ทันหมด
วันนี้ได้ไปตลาด เลยเตรียมใหม่อีกแล้ว เพื่อเป็นการตอบคำถามว่า กินกะเพราหลายวันจะเบื่อมั้ย
ตอบไปว่า ไม่เบื่อ เพราะที่แช่ไว้ในฟรีซยังไม่ได้กินซักกล่อง เนื่องจากไมโครเวฟพัง ยังไม่ได้ไปซื้อแผ่นไมก้ามาเปลี่ยนใหม่เลย
จริง ๆ จะออกไปซื้อแล้วล่ะ แต่ตัวอำเภอต่างจังหวัดที่ไม่ใช่ตัวเมืองใหญ่ เหมือนจะไม่มีขาย แล้วมันก็ไม่มีจริง ๆ ซะด้วย, ไม่เป็นไร วันนี้ทำใหม่อีกล่ะ
แต่วันนี้ กะจะแช่ฟรีซเฉพาะกับข้าว เพราะกล่องแช่หมด แต่ไปได้กล่องเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่ห้างดอกบัวอีกเช่นเคย
อยากกินผัดพริกแกง หรือว่าผัดพริกขิง แต่เอาจริง ๆ เอาแนว ๆ พริกแกงมาผัดกับอะไรก็ได้แหล่ะ
จึงได้เครื่องพริกแกงพะแนงมา น่าจะพอถัว ๆ ไปได้ เอาน่าสีเครื่องแกง แดง ๆ เหมือนกันที่สำคัญคือลดราคา
เดิน ๆ ดู จินตนาการว่าพริกแกงกับไก่ คงจะเหงา ๆ ไป เลยหาความเป็นผักใส่ลงไปให้เกิดคุณค่า จึงได้ข้าวโพดอ่อนมา ตามด้วยยอดมะพร้าวอ่อน อย่างละนิดละหน่อย
เดิน ๆ ไปนึกอีกว่า แดง + ขาว และเหลืองนิดหน่อย สีมันไปทางเดียวกัน อย่างได้สีตัดกันนิดนึง จึงนึกถึงใบมะกรูด
แต่ใส่ไปก็ไม่ได้กิน นอกจากสวย เลยไม่ได้ซื้อมาใส่, จริง ๆ ต้องบอกว่า ลืม 555
กลับมาก็จัดแจงล้างไก่ และหั่นข้าวโพดอ่อนเป็นชิ้นเล็ก ๆ เก็บไว้ก่อน
ตอนแรกว่าจะใส่เครื่องพริกแกงลงไปเลย แต่ช้าก่อน !!!
เรามีนมจืด ขอแซงคิวด้วยการอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม เพื่อผิวกระจ่างใส ซะนิดหน่อยก่อน
แช่ได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็ตามด้วย พริกแกงลดราคา 16 บาท ใส่มันไปให้หมด
จัดไปอย่าให้เหลือ เพราะที่เก็บมันไม่มี
แผนที่วางไว้คือ ผัดแป๊ปเดียว ระหว่างหมักพริกแกง เลยแว๊บไปหุ่งข้าวพลาง ๆ
ด้วยข้าวหอม 2 กิโลที่เหลืออยู่จากกะเพราคราวก่อน
การหุงข้าวอย่างผู้เชี่ยวชาญ ดุจเทพมาลงองค์ ไม่จำเป็นต้องเอานิ้วลงไปจุ่ม
แค่เล็งด้วยสายตาอันพร่ามัวก็เพียงพอแล้ว
นี่แหล่ะ อร่อย !!!
ยังไม่แน่ใจว่า ตอนผัด ๆ มันจะแห้งไปมั้ย เลยขโมยน้ำมันมากันพลาดซักขวดนึง
น้ำมันมะพร้าว น่าจะเข้ากันได้ดีกับยอดมะพร้าวอ่อนได้นะ
แต่จริง ๆ คือตั้งใจจะซื้อมาเพื่อลองทำ pancake ทานตอนเช้ากับกาแฟมากกว่า
... เอามาวางให้ไขมันละลายไว้ก่อน ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ เหมือนคนมีเงื่อนไขเต็มไปหมด
ไม่เอา เราชอบแบบใส ๆ ไม่มีเงื่อนงำ
ระหว่างเดินไป เดินมา เจ็ดโมงตรงยังมัวงง ๆ โมงเท่งโมง เดินงงเป้นไก่ ก็นึกได้ว่า
ข้าวโพดอ่อนมันสุกช้า เกรงว่าผัดรวมกับไก่มันจะร่วมทางกันไปไม่ได้
จึงตักเอามาอาบน้ำร้อนไปก่อนไก่ เพื่อให้นุ่ม ๆ กำลังดี น่าจะดี, ไอเค ดีล
ต้มจนน้ำเดือดซักพัก ประมาณ 5 นาที ก็ดับไป แล้วปล่อยแช่น้ำร้อนไว้ก่อน เพื่อให้ความร้อนแทรกซึมถึงหัวใจ แล้วก็เตรียมผัดไก่ ต่อไปในหม้อหางใบเดิม
รวน ๆ ผัด ๆ ไก่จนเริ่มมีความรู้สึกว่า มันสุกยากกว่าสามชั้นสไลซ์ เพราะชิ้นมันหนา และจะทำหลายทีเพราะหม้อมันมินิ จึงไปคว้าเอากะบะใบใหญ่ขึ้น ที่พอใช้ได้ มาผัดใส่แทน OK ดีขึ้น
ระหว่างผัด ๆ จะมีน้ำออกมาเล็กน้อย กลายเป็นตุ๋นไปกลาย ๆ จึงปล่อยทิ้งไว้แป๊ป เพื่อ switch ตัวเองไปล้างจาน ล้างหม้อ ที่เปื้อนพริกแกงอยู่
กลับมาก็เกือบ ๆ จะพอดี
ทดแทนมะกรูด ที่ไม่มีและไม่ได้ซื้อ จึงเดินไปเด็ดใบกะเพรามาวางเพื่อถ่ายภาพ ให้สวยงามมีสีสรรตัดกันอย่างโดดเด่น
ถ่ายรูปเสร็จรีบหยิบใบกะเพรา ออกมา เดี๋ยวมันจะเฉา แล้วก็ตักผัดพริกแพงไก่ มาใส่จานเพื่อชิมต่อไป
ใบกะเพราที่เห็นในชาม สีตัดสวย ๆ ก็ใบเดียวกับที่อยู่ในกะทะเมื่อตะกี้
เรียบร้อย รอตักแบ่งใส่กล่องเล็ก ๆ ตักไปก็ชิมไปเรื่อย ไม่แน่ใจว่าจะได้ทานมื้อเที่ยงเลยหรือเปล่า หรือเลื่อนไปมื้อเย็นเลยท่าจะดีกว่า
แบ่งเรียบร้อยได้ 4 กล่อง ก็ 4 มื้อ และจานตักแบ่งที่ว่างเปล่า ปนเปื้อนไปด้วยคราบพริกแกง
รีวิวว่าอร่อยมั้ย รสชาติก็พอใช้ได้นะ แต่ไม่มีหวานแจมมาเลย ถึงจะเป็นคนที่อ่อนหวานไปนิด แต่ก็พอทานได้ สังเกตุได้จาก จานตักแบ่งที่คราบพริกแกงถูกตักข้าวไปคลุกอีกที
สรุปราคาคร่าว ๆ ข้าวไม่คิด
- เนื้อไก่หั่นชิ้น 50 บาท (ประมาณ 6 ขีด, เลือน ๆ ว่ากิโลละ 90 บาทนิด ๆ)
- ข้าวโพดอ่อน 45 บาท
- ยอดมะพร้าวอ่อน 27 บาท
- พริกแกงพะแนง ลดราคาเหลือ 16 บาท
แก๊สไม่คิด, น้ำมันมะพร้าวไม่คิด เพราะจริง ๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ก็ใส่นิดเดียวจริง ๆ
138 บาท ปัดขึ้นเป็น 140 บาท ได้มา 4 กล่อง + 1 จานชิม
กลม ๆ ก็ มื้อละ 28 บาทไม่รวมข้าว
ปล. คราวหน้าถ้าได้แก้ตัว จะติดน้ำตาลปี๊ปมานิดนึง ใส่พอเจือ ๆ หวาน
มื้อนี้เลยยอมเป็นคนไม่หวาน กลายเป็นคนเค็มแข็งแทน
อร่อยยยยยยยยย
เตรียมเสบียงอีกวัน-วันนี้ไก่ผัดพริกแกง
วันนี้ได้ไปตลาด เลยเตรียมใหม่อีกแล้ว เพื่อเป็นการตอบคำถามว่า กินกะเพราหลายวันจะเบื่อมั้ย
ตอบไปว่า ไม่เบื่อ เพราะที่แช่ไว้ในฟรีซยังไม่ได้กินซักกล่อง เนื่องจากไมโครเวฟพัง ยังไม่ได้ไปซื้อแผ่นไมก้ามาเปลี่ยนใหม่เลย
จริง ๆ จะออกไปซื้อแล้วล่ะ แต่ตัวอำเภอต่างจังหวัดที่ไม่ใช่ตัวเมืองใหญ่ เหมือนจะไม่มีขาย แล้วมันก็ไม่มีจริง ๆ ซะด้วย, ไม่เป็นไร วันนี้ทำใหม่อีกล่ะ
แต่วันนี้ กะจะแช่ฟรีซเฉพาะกับข้าว เพราะกล่องแช่หมด แต่ไปได้กล่องเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ที่ห้างดอกบัวอีกเช่นเคย
อยากกินผัดพริกแกง หรือว่าผัดพริกขิง แต่เอาจริง ๆ เอาแนว ๆ พริกแกงมาผัดกับอะไรก็ได้แหล่ะ
จึงได้เครื่องพริกแกงพะแนงมา น่าจะพอถัว ๆ ไปได้ เอาน่าสีเครื่องแกง แดง ๆ เหมือนกันที่สำคัญคือลดราคา
เดิน ๆ ดู จินตนาการว่าพริกแกงกับไก่ คงจะเหงา ๆ ไป เลยหาความเป็นผักใส่ลงไปให้เกิดคุณค่า จึงได้ข้าวโพดอ่อนมา ตามด้วยยอดมะพร้าวอ่อน อย่างละนิดละหน่อย
เดิน ๆ ไปนึกอีกว่า แดง + ขาว และเหลืองนิดหน่อย สีมันไปทางเดียวกัน อย่างได้สีตัดกันนิดนึง จึงนึกถึงใบมะกรูด
แต่ใส่ไปก็ไม่ได้กิน นอกจากสวย เลยไม่ได้ซื้อมาใส่, จริง ๆ ต้องบอกว่า ลืม 555
กลับมาก็จัดแจงล้างไก่ และหั่นข้าวโพดอ่อนเป็นชิ้นเล็ก ๆ เก็บไว้ก่อน
ตอนแรกว่าจะใส่เครื่องพริกแกงลงไปเลย แต่ช้าก่อน !!!
เรามีนมจืด ขอแซงคิวด้วยการอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม เพื่อผิวกระจ่างใส ซะนิดหน่อยก่อน
แช่ได้ซักครึ่งชั่วโมง ก็ตามด้วย พริกแกงลดราคา 16 บาท ใส่มันไปให้หมด
จัดไปอย่าให้เหลือ เพราะที่เก็บมันไม่มี
แผนที่วางไว้คือ ผัดแป๊ปเดียว ระหว่างหมักพริกแกง เลยแว๊บไปหุ่งข้าวพลาง ๆ
ด้วยข้าวหอม 2 กิโลที่เหลืออยู่จากกะเพราคราวก่อน
การหุงข้าวอย่างผู้เชี่ยวชาญ ดุจเทพมาลงองค์ ไม่จำเป็นต้องเอานิ้วลงไปจุ่ม
แค่เล็งด้วยสายตาอันพร่ามัวก็เพียงพอแล้ว
นี่แหล่ะ อร่อย !!!
ยังไม่แน่ใจว่า ตอนผัด ๆ มันจะแห้งไปมั้ย เลยขโมยน้ำมันมากันพลาดซักขวดนึง
น้ำมันมะพร้าว น่าจะเข้ากันได้ดีกับยอดมะพร้าวอ่อนได้นะ
แต่จริง ๆ คือตั้งใจจะซื้อมาเพื่อลองทำ pancake ทานตอนเช้ากับกาแฟมากกว่า
... เอามาวางให้ไขมันละลายไว้ก่อน ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ เหมือนคนมีเงื่อนไขเต็มไปหมด
ไม่เอา เราชอบแบบใส ๆ ไม่มีเงื่อนงำ
ระหว่างเดินไป เดินมา เจ็ดโมงตรงยังมัวงง ๆ โมงเท่งโมง เดินงงเป้นไก่ ก็นึกได้ว่า
ข้าวโพดอ่อนมันสุกช้า เกรงว่าผัดรวมกับไก่มันจะร่วมทางกันไปไม่ได้
จึงตักเอามาอาบน้ำร้อนไปก่อนไก่ เพื่อให้นุ่ม ๆ กำลังดี น่าจะดี, ไอเค ดีล
ต้มจนน้ำเดือดซักพัก ประมาณ 5 นาที ก็ดับไป แล้วปล่อยแช่น้ำร้อนไว้ก่อน เพื่อให้ความร้อนแทรกซึมถึงหัวใจ แล้วก็เตรียมผัดไก่ ต่อไปในหม้อหางใบเดิม
รวน ๆ ผัด ๆ ไก่จนเริ่มมีความรู้สึกว่า มันสุกยากกว่าสามชั้นสไลซ์ เพราะชิ้นมันหนา และจะทำหลายทีเพราะหม้อมันมินิ จึงไปคว้าเอากะบะใบใหญ่ขึ้น ที่พอใช้ได้ มาผัดใส่แทน OK ดีขึ้น
ระหว่างผัด ๆ จะมีน้ำออกมาเล็กน้อย กลายเป็นตุ๋นไปกลาย ๆ จึงปล่อยทิ้งไว้แป๊ป เพื่อ switch ตัวเองไปล้างจาน ล้างหม้อ ที่เปื้อนพริกแกงอยู่
กลับมาก็เกือบ ๆ จะพอดี
ทดแทนมะกรูด ที่ไม่มีและไม่ได้ซื้อ จึงเดินไปเด็ดใบกะเพรามาวางเพื่อถ่ายภาพ ให้สวยงามมีสีสรรตัดกันอย่างโดดเด่น
ถ่ายรูปเสร็จรีบหยิบใบกะเพรา ออกมา เดี๋ยวมันจะเฉา แล้วก็ตักผัดพริกแพงไก่ มาใส่จานเพื่อชิมต่อไป
ใบกะเพราที่เห็นในชาม สีตัดสวย ๆ ก็ใบเดียวกับที่อยู่ในกะทะเมื่อตะกี้
เรียบร้อย รอตักแบ่งใส่กล่องเล็ก ๆ ตักไปก็ชิมไปเรื่อย ไม่แน่ใจว่าจะได้ทานมื้อเที่ยงเลยหรือเปล่า หรือเลื่อนไปมื้อเย็นเลยท่าจะดีกว่า
แบ่งเรียบร้อยได้ 4 กล่อง ก็ 4 มื้อ และจานตักแบ่งที่ว่างเปล่า ปนเปื้อนไปด้วยคราบพริกแกง
รีวิวว่าอร่อยมั้ย รสชาติก็พอใช้ได้นะ แต่ไม่มีหวานแจมมาเลย ถึงจะเป็นคนที่อ่อนหวานไปนิด แต่ก็พอทานได้ สังเกตุได้จาก จานตักแบ่งที่คราบพริกแกงถูกตักข้าวไปคลุกอีกที
สรุปราคาคร่าว ๆ ข้าวไม่คิด
- เนื้อไก่หั่นชิ้น 50 บาท (ประมาณ 6 ขีด, เลือน ๆ ว่ากิโลละ 90 บาทนิด ๆ)
- ข้าวโพดอ่อน 45 บาท
- ยอดมะพร้าวอ่อน 27 บาท
- พริกแกงพะแนง ลดราคาเหลือ 16 บาท
แก๊สไม่คิด, น้ำมันมะพร้าวไม่คิด เพราะจริง ๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่ก็ใส่นิดเดียวจริง ๆ
138 บาท ปัดขึ้นเป็น 140 บาท ได้มา 4 กล่อง + 1 จานชิม
กลม ๆ ก็ มื้อละ 28 บาทไม่รวมข้าว
ปล. คราวหน้าถ้าได้แก้ตัว จะติดน้ำตาลปี๊ปมานิดนึง ใส่พอเจือ ๆ หวาน
มื้อนี้เลยยอมเป็นคนไม่หวาน กลายเป็นคนเค็มแข็งแทน
อร่อยยยยยยยยย