ก่อนวันเดินทางมาชลบุรี แฟนได้ดูรีวิวจาก Youtuber ท่านนึง ที่แนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารในพัทยา ที่มีขนมจีนกับน้ำยาหม้อไฟที่มีกั้งตัวโตๆ และข้าวขยำปูแบบเนื้อปูล้นๆ ทำให้เราสองคนตัดสินใจจะมาลองทานกันบ้างครับ สำหรับที่จอดรถ ทางร้านมีลานกว้างไว้ให้บริการด้านหลังร้าน



               แต่ด้วยความชะล่าใจ บวกกับความใจเย็นของเราสองคน ว่ามาถึงร้านในเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว ลูกค้าในร้านน่าจะไม่เยอะ ปรากฏว่า ต้องรอคิวจ้า และมีก่อนหน้าเราอีกประมาณ 9 คิว แต่ทางร้านบอกว่าไม่เกิน 20 นาที 



                ระหว่างรอเวลา เราก็เริ่มเดินสำรวจร้านเห็นว่ามีผักสดและผักลวก แช่อยู่ในตู้เย็นไว้ให้บริการ ค่อนข้างจะมีผักหลากหลายนะครับ ถั่วงอกดิบ ถั่วงอกลวก ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ยอดทานตะวัน มะระหั่น ผักกาดดอง ฯลฯ และเมื่อเห็นว่ามีขนมขายด้วย ก็เลยไม่รอช้า ซื้อมาทานกันก่อนระหว่างรอโต๊ะ



            และเวลาก็ผ่านไปประมาณ 15 นาที พวกเราสองคนก็ได้โต๊ะกันแล้วครับ บนโต๊ะจะมี QR Code ให้ลูกค้าใช้มือถือสแกนดูเมนู แล้วก็สามารถกดสั่งได้เลยนะครับ แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถให้น้องพนักงานกดสั่งให้ได้เช่นกันครับ





                    สำหรับรสชาติอาหารตามความเห็นส่วนตัวของเราสองคนนะครับ ขอเริ่มจากโซนขนมและของฝากกันก่อน ระหว่างรอโต๊ะ เราก็ได้ลองชิมขนมต้ม กล่องละ 35 บาท เนื้อสัมผัสแป้งด้านนอกนุ่มละมุน ไส้มะพร้าวด้านในก็หวานกลมกล่อมกำลังดี ต่อด้วยขนมเบื้องกล่องละ 35 บาท เราลองชิมกันทั้งไส้หวานและเค็ม โดยส่วนตัวชอบไส้หวานมากกว่าครับ รสชาติฝอยทองไม่ได้หวานมาก กำลังทานเลย ส่วนไส้เค็มก็อร่อยแต่ชอบสัมผัสของหวานมากกว่าครับ จะสังเกตุว่า เมนูขนมส่วนใหญ่จะราคา 35 บาทครับ ถ้าซื้อ 3 อย่างก็จะได้ในราคา 100 บาท

                            ต่อด้วยอาหารที่เราสั่งกันนะครับ ด้วยมากัน2คน เราจึงสั่งกันแค่ 2 เมนู เริ่มด้วยเมนูชุดขนมเส้นน้ำยาทูโทนใส่กั้ง เราจะได้เป็นน้ำยากะทิ และน้ำยาใต้ ในส่วนของเส้นขนมจีนอยู่ในเกณฑ์ปกติดีครับ ตามด้วยน้ำยากะทิ รสชาติจะออกเผ็ดปลาย ตัวน้ำยามาแบบข้นๆ ราดกับขนมจีนตามด้วยใส่ผักเยอะๆหน่อย พอจะช่วยคนที่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้แบบเราอยู่ครับ ทีเด็ดคือเนื้อกั้งมาแบบตัวใหญ่ๆ เต็มปากเต็มคำครับ และน้ำยาใต้ ก็อย่างที่คิดไว้ครับ เผ็ดกว่าน้ำยากะทิพอสมควร แต่โดยรวมรสชาติก็อร่อยดีครับ

                        เมนูพระเอกที่แฟนอยากมาทานให้ได้ ข้าวขยำปู ทางร้านจัดมาให้ครบ ทั้งไข่ปู มันปู เนื้อก้ามปู กรรเชียงปู ปูก้อน มากันแบบจัดเต็ม ราดด้วยน้ำสูตรเฉพาะของทางร้าน เสิร์พมากับพริกขี้หนูและหอมแดงซอย สำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดแบบเรา แนะนำให้เขี่ยเอาพริกขี้หนูออกก่อนะครับ จะได้ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดได้แบบสบายใจ รสชาติจานนี้อร่อยกลมกล่อมสุดๆครับ ด้วยความที่เนื้อปูสดมาก มีความหวานในตัว ทานคู่กับน้ำยำและข้าวสวยร้อนๆแล้ว เป็นอะไรที่เกินคำบรรยายจริงๆ

                      มาถึงเมนูเครื่องดื่มกันนะครับ เริ่มจากชาใต้ รสชาติหอม หวาน มัน กลมกล่อม พอจะช่วยดับความเผ็ดร้อนได้บ้าง และน้ำลูกลาน รสชาติหวานน้อยๆ มีเนื้อลูกลานมาให้เคี้ยว  กรุบๆกรอบๆ  เพลินไปอีกแบบครับ

                    สรุปความคุ้มค่าสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ เมื่อเทียบปริมาณอาหาร คุณภาพอาหารและความอร่อยที่ได้รับ กับราคาค่าอาหาร 919 บาทแล้ว เราสองคนเห็นตรงกันว่า คุ้มค่ามากครับ แต่ถ้ามารอบหน้าก็คงไม่ได้สั่งชุดหม้อไฟครับ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ทาง แต่ข้าวขยำปูเป็นอะไรที่ประทับใจสุดๆ โอกาสหน้ามาอีกครั้งก็จะสั่งอีกครับ แต่จะพาผู้ร่วมอุดมการณ์มาทานกันมากกว่านี้ จะได้สามารถสั่งเมนูอื่นๆ อีกหลายเมนูที่อยากลองทานเพิ่มครับ 

                  หลังจากเดินออกจากร้าน ก่อนจะกลับไปที่รถในลานจอด ก็จะพบกับ ร้านขายป๊อบคอร์น ที่ป้ายเขียนว่า โครตอร่อย ทำให้แฟนต้องเดินไปดูสักหน่อยครับ ในเมื่อป้ายกล้าเคลมว่าโครตอร่อย เราก็ต้องไปลองสักหน่อย



                    สายตาแฟนก็มองไปเห็นหมี่กรอบครับ ราคากล่องละ 70 บาท หลังจากได้ชิมรสชาติแล้ว ก็ต้องบอกว่า อร่อยครับ รสชาติกำลังดี ตัวหมี่กรอบกรุบกรอบ ไม่เหนียว ไม่แหยะ หอมกลิ่นส้มซ่าอ่อนๆ ตามด้วยจัดป๊อบคอร์นกันต่อครับ คุณป้าคนขายน่ารักมาก ให้ชิมพร้อมกับโฆษณาว่า ของป้าทำเอง คัดเกรดอย่างดี สามารถสแกน Line QRcode แล้วสั่งคุณป้า แล้วบริการจัดส่งให้ได้ทั่วไทยนะครับ ตัวป๊อบคอร์นมีความกรุบกรอบ ด้านในไม่มีแข็ง ไม่มีใต สุกกำลังดีทุกเม็ด 
 
                    สรุปเราจัดหมี่กรอบกันมา 2 กล่อง และป๊อบคอร์นอีก 4 กล่องครับ ถ้าท่านใดผ่านมาที่ร้านขนมเส้นคุณย่า อย่าลืมแวะอุดหนุนคุณป้าป๊อบคอร์นกันด้วยนะครับ

สามารถติดตามรับชมรีวิวอื่นๆของพวกเราได้ที่
http://www.facebook.com/j2ctravel
http://www.jaaechoun.blogspot.com