Nielsen ระบุว่าคนไทยดูทีวีในหลายแพลตฟอร์มพร้อมกันจริง พร้อมยกตัวอย่างข้อมูลในระบบเรตติ้งข้ามแฟลตพอร์มจากละครดุจอัปสร

โดยตัวอย่างที่ทาง Nielsen ได้ยกตัวอย่างมานั้น คือ

- ละคร #ดุจอัปสร #Ch3Thailand 
— ออฟไลน์ 53.6% 
— สตรีมมิ่ง 46.4% 
- #วิวกุลวุฒิ แข่ง #แบดมินตัน #โอลิมปิกเกมส์ ปารีส รอบชิงฯ 
— ออฟไลน์ 55.5% 
— สตรีมมิ่ง 44.5%

อยากให้ไปฟังคลิปเต็มๆนะคะ เค้าพูดได้ดีมาก ขอบคุณคุณยามเฝ้าจอด้วยค่ะที่สรุปมาให้ ยังมีอีกหลายคลิปเลยนะคะ อยากให้ไปตามดูกัน
https://x.com/YarmFaoJor/status/1831291091737252097



ก็สรุปได้ว่า ในยุคสมัยนี้ที่ Steaming ครองโลก เราไม่สามารถวัดความดังของละครหรือรายการต่างๆ หรือวัดว่าคนดูเยอะมากแค่ไหนได้เพียงแค่คำว่า "เรตติ้งทีวี" ได้อีกต่อไปแล้ว ในยุคนี้ คนเลือกซื้อมือถือ แท็บเล็ตกันมากกว่าทีวี เพราะงั้นชาวเว็บม่วงทั้งหลาย เลิกนิสัยโลกหมุนรอบเรตติ้งกันได้แล้วนะคะ ตามทันโลกให้ทันหน่อยค่ะ หรือผู้ใหญ่ในช่องบางคนที่ยังแคร์เรตติ้งทีวีอย่างเดียวอยู่ ก็เตรียมตัวเจ๊งไปเถอะค่ะ ยุคนี้ควรเน้นไปทางสองแพลตฟอร์ม ทีวีก็ยังสำคัญ แต่ออนไลน์ก็ต้องควบคู่กันไปด้วยถึงจะไปรอด ซึ่งทาง Nielsen ยกตัวอย่างดุจอัปสรมานับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากค่ะ เรตติ้งทีวีน้อยแล้วทำไมใครจะแคร์ (คนแคร์เห็นมีแต่ติ่งเรื่องอื่น อีกอย่าง ดุจอัปสรเรตติ้งทีวีมันก็ไม่ได้น้อยอะไร) ในเมื่อออนไลน์เราได้มากที่สุดในชุด เราก็สามารถเคลมได้เช่นเดียวกันค่ะ เพราะงั้นวัฒนธรรมแซะเรตติ้งกันไปมา เลิกได้เลิกนะคะ ไม่ใช่แค่ดวงใจเทวพรหม แต่หมายถึงทุกเรื่องทุกช่องนั่นแหละ 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่