- ดูจบ ชอบ เหมือนนั่ง Lecture วิชาทรัพยากรธธรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีเวลาเพียง 50 นาที ที่ได้สาระเต็มอิ่มแล้วยังกระตุกสำนึกให้เกิดการอนุรักษ์และหันมาเอ๊ะกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ตาม Topic ว่า เหตุใดน้อนโลมาถึงเหลืออยู่ 14 ชีวิต จากเดิมที่เคยมีประชากรนับร้อย ซึ่งลดลงไปอย่างน่าใจหาย พอดูไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าไม่ได้เป็นปัญหาเดียวที่ต้องโฟกัสแต่มันลามไปยังระบบทุกภาคส่วนในประเทศเป็นห่วงโซ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งทางตรงอย่างการบุกรุกพื้นที่ป่าแล้วสร้างบ้านสร้างตึกในภาคอุตสาหกรรมธุรกิจที่ผุดเป็นดอกเห็ดพร่ำเพรื่อ , การทำมาหากินของคนในพื้นที่ หรือทางอ้อมอย่างการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม , แผ่นดินไหว อีก โดยทั้งหมดล้วนมาจากคน ไหนจะอัตราการเติบโต , การย้ายที่อยู่ , การใช้ทรัพยากร ที่มาพร้อมกับความโอหัง ปากกล้า อยากได้ อยากควบคุม เอาชนะธรรมชาติ ทั้งสิ้น
- ถึงหนังมีชุดข้อมูลที่พร้อมจะจัดเต็มแต่มีจังหวะ Melody รั้งความจริงจังไว้ทำให้ตัวหนังมีชีวิตชีวาตามท้องเลไปกับกลิ่นอายความเป็น Local ในแง่ของวิถีชีวิตหรือภาษาถิ่นให้คนนอกทราบอย่างไวว่าเป็น Signature ของคนสงขลาแทนที่จะเลือกนำเสนอตรง ๆ ผสมกับ เทคนิคพิเศษที่ไม่นึกว่าจะมี 2 อย่างคือ อย่างแรก ภาพ Animation ด้วยลายเส้นจากดินสอกับสีน้ำ 2 มิติบนตัวน้อนโลมากำลังเวียนว่ายและติดตะข่ายให้รู้สึกดื่มด่ำเหนือจินตนาการและหดหู่กับสารแห่งความจริงที่น้อนติดตะข่ายว่าทรมานแค่ไหน ? ควบกับ อย่างที่ 2 คือ Score ประกอบที่มีความระทึกผสม Hiphop จนปรับอารมณ์ไม่ถูกแต่ก็ช่วยทำให้บรรยากาศมีจังหวะน่าติดตามและชวนให้คนดูมีส่วนร่วมไปกับหนังที่กำลัง Run ตามโดยไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อหรือเผลอวูบหลับระหว่างทางไปซะก่อน
- ตัวหนังจะเล่าเป็น 2 Part ช่วงแรกจะปูเป็นภาคทฤษฎีผ่านมุมมอง 4 ท่านที่อยู่คนละวงการ นำโดย คุณสายป่าน อภิญญา นักแสดง , คุณ ดร.ก้องเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม , คุณ ดร.ธรณ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ และ คุณ ทอม โพธิ์สิทธิ์ ช่างภาพ ศิลปิน ใน Match 4 เส้าบนโต๊ะนั่งท่ามกลางป่าชายเลนที่ไม่ได้ปะทะด้วยกำลังแต่ประลองด้วยปัญญาตั้งแต่ตั้งคำถามหาสาเหตุจากปัญหาในพื้นที่ทะเลสงขลาในมุมของแต่ละคนกึ่งรายการท่องเที่ยวสลับข้างทางด้วยภาพตัวอย่างจากการ Research ข้อมูลแต่ละแหล่งสำทับเพื่อทำให้หนังสมจริง ค่อยเป็นค่อยไปในแง่ของการตีแผ่และหาข้อสรุป ส่วน Part หลังเป็นภาคปฏิบัติเต็มสูบ จะมีความเป็น Action Adeventure ขึ้นมาโดยมี Score นี่แหล่ะเป็นตัวดีดให้บรรยากาศเร้าใจให้เราลุ้นไปกับภารกิจที่ดูจะเป็นไปไม่ได้กำลังจะเป็นไปได้ โดยมีคุณสายป่าน , คุณแดง ชาญกิจ และทีมงานนั่งเรือหางยาวส่องดูตามทะเลสงขลาว่าน้อนโลมายังอยู่หรือไม่ ?
- ถึงระยะเวลาของหนังไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่เหมือนผู้กำกับ คุณแดง ชาญกิจ รู้ใจคนดูว่า พวกเอ็งคงยังไม่เต็มอิ่มสินะ ยังสงสัยอะไรอยู่ใช่มั้ย ? ได้ ! เดี๋ยวจัดให้ ไม่มีปัญหา หลังจากหนังสารคดีจบแทนที่จะปล่อยให้จอดำแล้วไหลชื่อผู้แสดงและทีมงานลงยาว ๆ เปล่า กูปล่อย Behind the Scene ขึ้นมาให้พวกดูเป็นของแถมทุกซอกเลยตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งกลุ่ม ThaiWhales โดยคุณแดง ชาญกิจ ผู้กำกับ , คุณแพง คมฉาย ยัน แผนการปฏิบัติตามหาน้อนโลมาที่เราดูไป รวมถึงขั้นตอนการเตรียมการจัดแสดงนิทรรศการจำลองเชิงศิลปะที่มีคุณสายป่านนำแสดง ซึ่งกินเวลากว่า 3 ปี ในเวลาถึง 1 ชั่วโมงเป็นของสมนาคุณให้คนดูที่สงสัยหาอยากกันไปข้างแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูแล้วดูพร้อมกับบ่นในใจอีกว่า ทราบซึ้งแล้วคร้าบ เมื่อไหร่จะจบว้า
- ช่วงท้ายระหว่างดูลุ้นตามด้วยหัวใจเต้นตุบ ๆ ว่าจะเจอน้อนมั้ย ? ซึ่งไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอ หรือโผล่มาซักแวบยังดี เพราะน้อนเองหรือสัตว์ชนิดอื่นก็ระวังตัวด้วยว่าจะถูกจับ กูอยู่ของกู พวกจะมาเสนอหน้าใกล้ ๆ ทำไม ? ถ้าไม่ใช่มาจับไปแดก มันเลยต้องใช้ความอดทนและใจเย็นกันอย่างมาก ถึงบทสรุปบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้และได้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าความพยายามไม่มีคำว่าสูญเปล่าหากเริ่มลงมือพร้อมกับเปิดโอกาสให้เราไปคิดต่อว่า ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ? จะมีเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ? ยังไงคนหรือสัตว์ก็ต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ต้องมีการเบียดเบียนซึ่งกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการตามโครงสร้างวัฏจักรหรือกลไกระบบทุนนิยมที่ขับเคลื่อนด้วยเงินด้วยการแข่งขัน
- เหนือสิ่งอื่นใดคือ ทำอย่างไรให้คน สัตว์ ธรรมชาติ อยู่ร่วมกันได้โดยทำให้เกิดการสมดุลเท่าที่จะเป็นได้ที่สุด ซึ่งคนที่มีครบสูตรเรื่องกิเลส ต้องสร้างสำนึกให้ตระหนักถึง Effect ที่ตามมา ลงมือจัดการทรัพยากรที่เอาไปให้ใช้ให้คุ้มค่าและเกิดการหมุนเวียนโดยไม่เสียเปล่า เช่น ปลูกไม้แทนต้นที่ตัดไป , ตักอาหารให้พอดีแล้วกินให้หมดจาน , สถานที่ไหนไร้คนอยู่ก็ทุบทิ้งแล้วคืนที่ให้กับป่า , ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ ที่เป็นรูไม่กี่จุด , ใช้กระเป๋าผ้าหรือแก้วเยติสำหรับใส่ภาชนะหรือรับของแทนการรับถุงพลาสติก เป็นต้น แล้วส่งต่อคนดูเป็นตัวอย่างทอด ๆ ว่าแค่ช่วยกันคนละไม้ละมือคำนึงหลัก 5 Re ก็ช่วย Save โลกแล้ว ไม่ต้องเป็นฮีโร่โชว์แสงให้เพื่อนรู้ ยิ่งช่วยกันมาก ๆ จะเป็นผลดีแก่ส่วนรวม ถึงแก้ไม่ได้ทั้งหมดแต่ดีกว่าไม่ทำอะไร ?
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like & Share บทความของผม EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการพรรณนาครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
[CR] ์No.117 The Last 14 (2566) : พลิกผืนน้ำ ฟื้นฟูถิ่น ช่วยกัน Save 14 ชีวิต ให้คงอยู่คู่ท้องเล
- ดูจบ ชอบ เหมือนนั่ง Lecture วิชาทรัพยากรธธรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีเวลาเพียง 50 นาที ที่ได้สาระเต็มอิ่มแล้วยังกระตุกสำนึกให้เกิดการอนุรักษ์และหันมาเอ๊ะกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ตาม Topic ว่า เหตุใดน้อนโลมาถึงเหลืออยู่ 14 ชีวิต จากเดิมที่เคยมีประชากรนับร้อย ซึ่งลดลงไปอย่างน่าใจหาย พอดูไปเรื่อย ๆ ก็พบว่าไม่ได้เป็นปัญหาเดียวที่ต้องโฟกัสแต่มันลามไปยังระบบทุกภาคส่วนในประเทศเป็นห่วงโซ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งทางตรงอย่างการบุกรุกพื้นที่ป่าแล้วสร้างบ้านสร้างตึกในภาคอุตสาหกรรมธุรกิจที่ผุดเป็นดอกเห็ดพร่ำเพรื่อ , การทำมาหากินของคนในพื้นที่ หรือทางอ้อมอย่างการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม , แผ่นดินไหว อีก โดยทั้งหมดล้วนมาจากคน ไหนจะอัตราการเติบโต , การย้ายที่อยู่ , การใช้ทรัพยากร ที่มาพร้อมกับความโอหัง ปากกล้า อยากได้ อยากควบคุม เอาชนะธรรมชาติ ทั้งสิ้น
- ถึงหนังมีชุดข้อมูลที่พร้อมจะจัดเต็มแต่มีจังหวะ Melody รั้งความจริงจังไว้ทำให้ตัวหนังมีชีวิตชีวาตามท้องเลไปกับกลิ่นอายความเป็น Local ในแง่ของวิถีชีวิตหรือภาษาถิ่นให้คนนอกทราบอย่างไวว่าเป็น Signature ของคนสงขลาแทนที่จะเลือกนำเสนอตรง ๆ ผสมกับ เทคนิคพิเศษที่ไม่นึกว่าจะมี 2 อย่างคือ อย่างแรก ภาพ Animation ด้วยลายเส้นจากดินสอกับสีน้ำ 2 มิติบนตัวน้อนโลมากำลังเวียนว่ายและติดตะข่ายให้รู้สึกดื่มด่ำเหนือจินตนาการและหดหู่กับสารแห่งความจริงที่น้อนติดตะข่ายว่าทรมานแค่ไหน ? ควบกับ อย่างที่ 2 คือ Score ประกอบที่มีความระทึกผสม Hiphop จนปรับอารมณ์ไม่ถูกแต่ก็ช่วยทำให้บรรยากาศมีจังหวะน่าติดตามและชวนให้คนดูมีส่วนร่วมไปกับหนังที่กำลัง Run ตามโดยไม่รู้สึกถึงความน่าเบื่อหรือเผลอวูบหลับระหว่างทางไปซะก่อน
- ตัวหนังจะเล่าเป็น 2 Part ช่วงแรกจะปูเป็นภาคทฤษฎีผ่านมุมมอง 4 ท่านที่อยู่คนละวงการ นำโดย คุณสายป่าน อภิญญา นักแสดง , คุณ ดร.ก้องเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม , คุณ ดร.ธรณ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ และ คุณ ทอม โพธิ์สิทธิ์ ช่างภาพ ศิลปิน ใน Match 4 เส้าบนโต๊ะนั่งท่ามกลางป่าชายเลนที่ไม่ได้ปะทะด้วยกำลังแต่ประลองด้วยปัญญาตั้งแต่ตั้งคำถามหาสาเหตุจากปัญหาในพื้นที่ทะเลสงขลาในมุมของแต่ละคนกึ่งรายการท่องเที่ยวสลับข้างทางด้วยภาพตัวอย่างจากการ Research ข้อมูลแต่ละแหล่งสำทับเพื่อทำให้หนังสมจริง ค่อยเป็นค่อยไปในแง่ของการตีแผ่และหาข้อสรุป ส่วน Part หลังเป็นภาคปฏิบัติเต็มสูบ จะมีความเป็น Action Adeventure ขึ้นมาโดยมี Score นี่แหล่ะเป็นตัวดีดให้บรรยากาศเร้าใจให้เราลุ้นไปกับภารกิจที่ดูจะเป็นไปไม่ได้กำลังจะเป็นไปได้ โดยมีคุณสายป่าน , คุณแดง ชาญกิจ และทีมงานนั่งเรือหางยาวส่องดูตามทะเลสงขลาว่าน้อนโลมายังอยู่หรือไม่ ?
- ถึงระยะเวลาของหนังไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่เหมือนผู้กำกับ คุณแดง ชาญกิจ รู้ใจคนดูว่า พวกเอ็งคงยังไม่เต็มอิ่มสินะ ยังสงสัยอะไรอยู่ใช่มั้ย ? ได้ ! เดี๋ยวจัดให้ ไม่มีปัญหา หลังจากหนังสารคดีจบแทนที่จะปล่อยให้จอดำแล้วไหลชื่อผู้แสดงและทีมงานลงยาว ๆ เปล่า กูปล่อย Behind the Scene ขึ้นมาให้พวกดูเป็นของแถมทุกซอกเลยตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการก่อตั้งกลุ่ม ThaiWhales โดยคุณแดง ชาญกิจ ผู้กำกับ , คุณแพง คมฉาย ยัน แผนการปฏิบัติตามหาน้อนโลมาที่เราดูไป รวมถึงขั้นตอนการเตรียมการจัดแสดงนิทรรศการจำลองเชิงศิลปะที่มีคุณสายป่านนำแสดง ซึ่งกินเวลากว่า 3 ปี ในเวลาถึง 1 ชั่วโมงเป็นของสมนาคุณให้คนดูที่สงสัยหาอยากกันไปข้างแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูแล้วดูพร้อมกับบ่นในใจอีกว่า ทราบซึ้งแล้วคร้าบ เมื่อไหร่จะจบว้า
- ช่วงท้ายระหว่างดูลุ้นตามด้วยหัวใจเต้นตุบ ๆ ว่าจะเจอน้อนมั้ย ? ซึ่งไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอ หรือโผล่มาซักแวบยังดี เพราะน้อนเองหรือสัตว์ชนิดอื่นก็ระวังตัวด้วยว่าจะถูกจับ กูอยู่ของกู พวกจะมาเสนอหน้าใกล้ ๆ ทำไม ? ถ้าไม่ใช่มาจับไปแดก มันเลยต้องใช้ความอดทนและใจเย็นกันอย่างมาก ถึงบทสรุปบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้และได้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าความพยายามไม่มีคำว่าสูญเปล่าหากเริ่มลงมือพร้อมกับเปิดโอกาสให้เราไปคิดต่อว่า ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร ? จะมีเหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ? ยังไงคนหรือสัตว์ก็ต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ต้องมีการเบียดเบียนซึ่งกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการตามโครงสร้างวัฏจักรหรือกลไกระบบทุนนิยมที่ขับเคลื่อนด้วยเงินด้วยการแข่งขัน
- เหนือสิ่งอื่นใดคือ ทำอย่างไรให้คน สัตว์ ธรรมชาติ อยู่ร่วมกันได้โดยทำให้เกิดการสมดุลเท่าที่จะเป็นได้ที่สุด ซึ่งคนที่มีครบสูตรเรื่องกิเลส ต้องสร้างสำนึกให้ตระหนักถึง Effect ที่ตามมา ลงมือจัดการทรัพยากรที่เอาไปให้ใช้ให้คุ้มค่าและเกิดการหมุนเวียนโดยไม่เสียเปล่า เช่น ปลูกไม้แทนต้นที่ตัดไป , ตักอาหารให้พอดีแล้วกินให้หมดจาน , สถานที่ไหนไร้คนอยู่ก็ทุบทิ้งแล้วคืนที่ให้กับป่า , ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ ที่เป็นรูไม่กี่จุด , ใช้กระเป๋าผ้าหรือแก้วเยติสำหรับใส่ภาชนะหรือรับของแทนการรับถุงพลาสติก เป็นต้น แล้วส่งต่อคนดูเป็นตัวอย่างทอด ๆ ว่าแค่ช่วยกันคนละไม้ละมือคำนึงหลัก 5 Re ก็ช่วย Save โลกแล้ว ไม่ต้องเป็นฮีโร่โชว์แสงให้เพื่อนรู้ ยิ่งช่วยกันมาก ๆ จะเป็นผลดีแก่ส่วนรวม ถึงแก้ไม่ได้ทั้งหมดแต่ดีกว่าไม่ทำอะไร ?
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like & Share บทความของผม EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการพรรณนาครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้