หัดใช้สมอง รู้จักมีความคิดซะบ้าง
แตกประเด็นจาก
https://ppantip.com/topic/42941067
ตอนประยุทธ์เป็นนายกฯ น้ำท่วมใต้ ประยุทธ์ไปอีสาน ทำกับข้าว
กองเชียร์ทักษิณ ติ่งเพื่อไทย ด่าเช็ดประยุทธ์ซะไม่มีดี
แต่ตอนนี้
พออุ๊งอิ๊งควงแขนพ่อไปเดินเที่ยวห้าง ขณะคนเหนือน้ำตาท่วม
ติ่งทักษิณ กองเชียร์เพื่อไทย กลับเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องส่วนตัว
เอาอะไรคิดฟระ
ทั้งพ่อทั้งลูก ไปเหนือ เยี่ยมเยียนชาวบ้านโดนน้ำท่วม
ตดยังไม่หายเหม็น พากันเดินเที่ยวห้างใน กทม.สบายใจ
พฤติกรรมแบบนี้ ไม่เหมาะ ไม่ถูกกาลเทศะ เหมือนแค่มีเจตนากวนโอ๊ยคนเคยเกลียดกันเท่านั้น
แสดงพฤติกรรมชิว ๆ ตลอด แบบมีเป้าหมายเย้ยหยามคู่ขัดแย้ง แสดงพฤติกรรมเอาคืนจนเลยเถิด
การไปเหนือ เป็นห่วงประชาชน มันคือฉากหนึ่งของเพื่อไทยการละครเท่านั้นหรือ ?
ลูกสาว อายุจะสี่สิบแล้ว มีตำแหน่งผู้นำประเทศ
แต่แสดงพฤติกรรมเป็นลูกแหง่คลอเคลียพ่อต่อหน้าสาธารณะไม่เลิก
มันสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะ มันสร้างความกังวล มันทำลายความน่าเชื่อถือ
ลองเปรียบเทียบกับผู้หญิงในพรรคก้าวไกลดูสิ ไม่ว่าช่อ ไหม ไอซ์ ลิซ่า เบญจา ฯลฯ
พวกเธอแสดงให้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ แสดงให้เห็นความมีวุฒิภาวะ ไม่มีพฤติกรรมลูกแหง่เลย
ที่สำคัญ ใครก็รู้ ว่าที่ใคร ๆ เกรง ที่มาเป็นใหญ่ได้
ก็เพราะพ่อ พ่อจ่าย พ่อคุม พ่อตั้งพรรค พ่อเคยมีผลงาน
ไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของตัวเองสักนิด (หามาเถียงสักข้อสิ ถ้าหาได้)
เลิกเชียร์ผิด ๆ ซะที
อะไรไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร ก็ต้องติติง ต้องตำหนิ ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์ตะบัน
ก็เห็น ๆ อยู่ บ้านเมืองเสียเวลามาเป็นปีแล้ว
อลวนอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว เรื่องการเมืองความแค้น
แล้วจะหวังอะไร ในเมื่อรับบทเบ๊อำนาจอนุรักษ์ ต้องรับใช้เขา
ประชาชนก็อย่างเดิม ประชาธิปไตยก็อย่างเดิม
แล้วใครรอด ใครได้ดี ใครอยู่ดีมีสุข
เชียร์บ้าบออะไร
คนครอบครัวหนึ่งอยู่ดีมีสุข มีอำนาจรัฐ ได้ผลประโยชน์
แต่ประชาชนอีกหลายสิบล้านยังทุกข์ยาก โครงสร้างประเทศยังอย่างเดิม ความเหลื่อมล้ำยังสุดกู่
มองเห็นแต่การพยายามชี้นำ นำพา ด้วยอุบายการเมืองเรื่องสร้างมายาคติให้ประชาชนหมอบคลานอย่างเดิม
นึกถึงตอนทักษิณพายืนอยู่ตรงกันข้ามขั้วอำนาจอนุรักษ์หน่อย
อย่าทำเป็นลืม
พวกกองเชียร์ทักษิณ เพื่อไทย ถามใจตัวเองดู
แตกประเด็นจาก https://ppantip.com/topic/42941067
ตอนประยุทธ์เป็นนายกฯ น้ำท่วมใต้ ประยุทธ์ไปอีสาน ทำกับข้าว
กองเชียร์ทักษิณ ติ่งเพื่อไทย ด่าเช็ดประยุทธ์ซะไม่มีดี
แต่ตอนนี้
พออุ๊งอิ๊งควงแขนพ่อไปเดินเที่ยวห้าง ขณะคนเหนือน้ำตาท่วม
ติ่งทักษิณ กองเชียร์เพื่อไทย กลับเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องส่วนตัว
เอาอะไรคิดฟระ
ทั้งพ่อทั้งลูก ไปเหนือ เยี่ยมเยียนชาวบ้านโดนน้ำท่วม
ตดยังไม่หายเหม็น พากันเดินเที่ยวห้างใน กทม.สบายใจ
พฤติกรรมแบบนี้ ไม่เหมาะ ไม่ถูกกาลเทศะ เหมือนแค่มีเจตนากวนโอ๊ยคนเคยเกลียดกันเท่านั้น
แสดงพฤติกรรมชิว ๆ ตลอด แบบมีเป้าหมายเย้ยหยามคู่ขัดแย้ง แสดงพฤติกรรมเอาคืนจนเลยเถิด
การไปเหนือ เป็นห่วงประชาชน มันคือฉากหนึ่งของเพื่อไทยการละครเท่านั้นหรือ ?
ลูกสาว อายุจะสี่สิบแล้ว มีตำแหน่งผู้นำประเทศ
แต่แสดงพฤติกรรมเป็นลูกแหง่คลอเคลียพ่อต่อหน้าสาธารณะไม่เลิก
มันสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะ มันสร้างความกังวล มันทำลายความน่าเชื่อถือ
ลองเปรียบเทียบกับผู้หญิงในพรรคก้าวไกลดูสิ ไม่ว่าช่อ ไหม ไอซ์ ลิซ่า เบญจา ฯลฯ
พวกเธอแสดงให้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ แสดงให้เห็นความมีวุฒิภาวะ ไม่มีพฤติกรรมลูกแหง่เลย
ที่สำคัญ ใครก็รู้ ว่าที่ใคร ๆ เกรง ที่มาเป็นใหญ่ได้
ก็เพราะพ่อ พ่อจ่าย พ่อคุม พ่อตั้งพรรค พ่อเคยมีผลงาน
ไม่ใช่เพราะคุณสมบัติของตัวเองสักนิด (หามาเถียงสักข้อสิ ถ้าหาได้)
เลิกเชียร์ผิด ๆ ซะที
อะไรไม่ถูก ไม่เหมาะ ไม่ควร ก็ต้องติติง ต้องตำหนิ ไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์ตะบัน
ก็เห็น ๆ อยู่ บ้านเมืองเสียเวลามาเป็นปีแล้ว
อลวนอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว เรื่องการเมืองความแค้น
แล้วจะหวังอะไร ในเมื่อรับบทเบ๊อำนาจอนุรักษ์ ต้องรับใช้เขา
ประชาชนก็อย่างเดิม ประชาธิปไตยก็อย่างเดิม
แล้วใครรอด ใครได้ดี ใครอยู่ดีมีสุข
เชียร์บ้าบออะไร
คนครอบครัวหนึ่งอยู่ดีมีสุข มีอำนาจรัฐ ได้ผลประโยชน์
แต่ประชาชนอีกหลายสิบล้านยังทุกข์ยาก โครงสร้างประเทศยังอย่างเดิม ความเหลื่อมล้ำยังสุดกู่
มองเห็นแต่การพยายามชี้นำ นำพา ด้วยอุบายการเมืองเรื่องสร้างมายาคติให้ประชาชนหมอบคลานอย่างเดิม
นึกถึงตอนทักษิณพายืนอยู่ตรงกันข้ามขั้วอำนาจอนุรักษ์หน่อย
อย่าทำเป็นลืม