สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ใครอยากไปก็เป็นชีวิตเขานะ เลือกแล้วก็รับเองตามหลักสิทธิเสรี ส่วนรัฐบาลเกาหลีเขาเลือกแล้วที่จะทำกับเราคนไทยแบบนี้ แล้วเขายังไปกลัวอะไรอีกล่ะ ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นค่าที่เขารับได้ ต่อให้เขาเข้าใจผิดว่านักท่องเที่ยวบางคนเป็นผีน้อย เขาก็รับได้ ดังนั้นไม่ต้องเป็นกังวลแทนเขาหรอก
ตัดเรื่องดราม่าออกไปก่อน แล้วมามองในแง่ของการต่างประเทศกันจะสนุกกว่า
จากการไปตามข่าวมา โดยส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลเกาหลียังอ่อนนโยบายการต่างประเทศมากนะ การแก้ปัญหาโดยกฎระเบียบระเบียบที่เหมารวมและเลือกปฏิบัติมันจะส่งผลกระทบแบบนี้แหละ (อย่างการสร้างคนที่มีแนวคิดอย่างเจ้าของกระทู้ขึ้นมาไง) เมื่อคุณเปิดประเทศ มันก็เหมือนการเปิดรับคนที่หลากหลายเข้ามาหาเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางทีเกาหลีอาจจะศึกษาภูมิหลังของไทยน้อยไปนิด เลยรู้แค่ว่าคนไทยมีความแตกต่างทางด้านชนชั้น แต่ไม่ได้นึกถึงว่าแต่ละชนชั้นมันมีอำนาจต่อตัวตนของเกาหลีที่ต่างกัน โปรจีน โปรญี่ปุ่นก็มี ซ้ำแต่ละกลุ่มก็มีอำนาจมาก เลยเล่นเหมารวมคนไทยอย่างไม่มีชั้นเชิง สุดท้ายมันเลยเกิดปรากฏการณ์ขัดแย้งกันแบบนี้แหละ
จะเชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน แต่คุณค่าของไทยในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (เอาเฉพาะ ณ ตอนนี้นะ) คือหินสำหรับก้าวกระโดดไปสู่อาเซียนบนการแผ่อำนาจทางวัฒนธรรม และไทยก็รู้จักคุณค่าของการพัฒนาภูมิพลังทางวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เพราะเราเคยเห็นญี่ปุ่นทำมาก่อน เราเลยจับมือกับเกาหลีเพื่อให้เขาสามารถเผยแพร่กระแสเกาหลีออกไปได้ เราจะได้เรียนรู้ไปกับเขา และเราก็เป็นชาติแรกด้วยนะ ที่สนับสนุนเขาแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ก็มันสนุกจริงนี่หว่า จะไปขวางเขาทำไม
(สำหรับคนที่ไม่เคยตามข่าว อยากจะแจ้งให้ทราบไว้ว่าจีนกับเวียดนามเป็นชาติแรกๆ ที่ไม่สบอารมณ์กับวัฒนธรรมเกาหลีนะ เขาถือว่านี่เป็นการรุกราน ส่วนพวกอินเดียหรือแขกต่างๆ ก็ไม่ได้มีรสนิยมความงามแบบนี้ ส่วนฝรั่งก็อย่างที่เห็น วิพากษ์กันใหญ่ว่ามันสาวแตก มีแต่ไอ้ไทยนี่แหละที่อะไรก็ได้ยังไงก็ได้ ก็เรามันเป็นคนเมืองท่า รู้หมดแหละว่าความงามที่แตกต่างหลากหลายมันเป็นแบบไหน ความงามแบบเกาหลีไม่ใช่ว่าไม่สวยงาม มันคือความงามบนอารมณ์การ์ตูนญี่ปุ่นเลยล่ะ เกาหลีเขาสามารถจับอารมณ์ในการ์ตูนตาหวานมาทำใส่คนเป็นเป็นๆ ให้มีเนื้อหนังได้ แล้วทำไมถึงจะไม่น่าสนใจล่ะ?)
หากใครยังทันกันได้ จะรู้เลยว่าสมัยนั้นญี่ปุ่นที่ที่เราเทิดทูนกันนักหนา เขาไม่ได้ทำการขายวัฒนธรรมบันเทิงบนยูทูปด้วยนะ เขาหวงจะตายหะ ใครอยากชมอยากชิม โน่น! จ่ายเงินมา ไม่หรอกไอ้คำว่าฟรีน่ะ อยากดูไอดอลเรานักใช่มั้ย? ต้องเข้าไปดูในประเทศเขาเด้อ เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับของจริง จนกระทั่งเกาหลีมาทำการตลาดแบบเข้าถึงง่ายร่วมกับไทยนี่แหละ ญี่ปุ่นถึงกับกระเทือน
นั่นหมายความว่าอย่างไร? นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ไทยกับเกาหลีบนนโยบายขยายกระแส K pop ไม่ใช่เรื่องที่น่าสบอารมณ์กับประเทศรอบข้างเกาหลีสักเท่าไร แน่นอนแม้กระทั่งพี่ใหญ่อย่างจีน ก็รู้คุณค่าในกระแสนี้ และเขาก็ต้องคิดว่าชนชาติที่อารยธรรมห้าพันปีอย่างกุ ของแค่นี้ทำได้ไม่ยาก ไอ้เด็กน้อยอย่างเกาหลีมันก็แค่ลูกไล่ วัฒนธรรมใดๆ ที่มันใช้ก็ของกุทั้งนั้น มันถึงได้เกิดการแตกหักไง ยังจำไอดอลสิบสองนักษัตรได้มั้ย? (เอ็กโซ) นั่นแหละคือจุดหักจุดแรก ตามมาด้วยการแบนกระแส K pop ในจีน
ถ้ารัฐบาลเกาหลีฉลาด ก็น่าจะรู้ตัวมาตั้งนานแล้วนะว่ามีเท้ารอกระทืบก็ยังเล่นออกนโยบายใส่คนไทยแบบนี้
จริงๆ กระแสนี้มันควรจะจบลงไปเมื่อเดือนที่แล้วนะ ถ้าสื่ออย่างนิเคย์อิไม่ได้ไปสัมภาษณ์คนของการท่องเที่ยวแล้วเอามาตีข่าวว่าแหล่งท่องเที่ยวเกาหลีมีน้อย ดังได้เพราะสื่อ คนเลยหันไปเที่ยวจีนกับญี่ปุ่น และมันคงจะไม่ได้ดังจนดันกระแสไปกว่านี้ถ้าสื่อเกาหลีวางเฉยให้มันจบๆ ไป โดนเขาตอกลิ่มให้แตก พี่ก็ดันโกรธอีก คราวนี้ไฟที่ควรจะดับก็มาลุกขึ้นกันใหม่ พวกแอนตี้ก็ทำคลิปปั่นเอาวิวกันอย่างสนุกสนาน กองแช่งมันมีอยู่แล้ว พี่เล่นร้อนรนแบบนี้ก็ได้ทีซ้ำสิ ใครอ่านญี่ปุ่นกับจีนออก ขอเชิญไปส่องที่เว็บพวกเขาได้ ไทยกับเกาหลีทะเลาะกัน หวานมันอร่อยเหาะ
คำถามก็คือใครได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้?
ไทยน่ะเสียแน่ แต่เกาหลีที่นิ่งเงียบไม่ใช่ว่าจะไม่เสียนะ หากใครตามข่าวกระแสการต่อต้านเกาหลีจะรู้เลยว่าตัวละครในสนามนี้ไม่ได้มีแค่ไทย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ยังมีอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ เวียดนาม เข้ามาร่วมด้วย แต่ละประเทศก็ล้วนแต่ดุๆ ทั้งนั้น เคยเห็นจีนตะโกนด่าเกาหลีตอนไปแข่งกีฬาแล้วขึ้นเพลงชาติมั้ยล่ะ? เคยเห็นญี่ปุ่นสั่งห้ามคนเกาหลีเข้าพื้นที่อย่างไม่เกรงใจบ้างมั้ย? เอาาแค่แช็ตเหยียดในกรณีอินโดซารังทุกวันนี้คนอินโดเขาก็ยังเล่นไม่เลิก ฯลฯ
ไอ้คำว่าแบนการไปเกาหลีที่คนบางกลุ่มทำในไทยน่ะ เขาไม่ได้วาดหวังจะชนะในวันนี้นะ เขาต้องการให้เกิดสิ่งเรียกว่าการสร้างแบบอย่าง การที่ผีเสื้อกระพือจากที่หนึ่งแล้วแล้วไปสร้างพายุในที่หนึ่งน่ะ มันจะต้องเริ่มกระพือก่อน จากนั้นต้องกระพรืบไม่หยุด จนค่าความน่าจะเป็นเข้าใกล้จุดเริ่มต้นของภาวะโกลาหล จากนั้นมันถึงจะเริ่มเกิดความปั่นป่วน
ในไทย โปรจีน โปรญี่ปุ่น เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าเกาหลีกับไทยจะทะเลาะกันจนพังความสัมพันธ์ที่สร้างมาลงไปขนาดไหน ยิ่งพังยิ่งดี ตอนนี้มันเป็นแค่กระแสแบนในเน็ต ยังไม่ออกสู่ชีวิตจริงก็เฮงไป ลองให้กลุ่มแอนตี้กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยเหล่านี้จับมือกันได้สิ ฐานอำนาจละมุนของเกาหลีได้สั่นคลอนแน่นอน
แอบไปอ่านความเห็นของเกาหลีหลายคนบอกว่ากุไม่แคร์หรอก ประเทศกุไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยว โอ้ย!!!! ให้มันจริงเถอะ จะสาธุท่วมหัว หมดคู่แข่งไปหนึ่ง เงินทองจากนักท่องเที่ยวเป็นเงินตกลงมาจากฟ้า เขาให้มาแล้วก็เดินจากไป ขายท่องเที่ยวคือขายความสุข ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งหน้า ไม่ต้องไปเหนื่อยยากลงแรงแข่งกับใคร เลี้ยงไว้สักฐานหนึ่งเอาไว้สร้างเงินแบบกินนิ่ม คิดไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าอะไร
เอาเป็นว่าเกาหลียังจะออกกฎระเบียบแบบนี้ต่อก็แล้วแต่เถอะ คิดว่าตัวเองเจ๋งพอก็ว่ากันไป ส่วนคนไหนอยากไปเกาหลีก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ต่างคนต่างอยู่เรื่องมันจะได้เบา
เราเองก็หัดเรียนรู้ไว้ อย่าออกนโยบายเหมารวมและเลือกปฏิบัติเป็นอันขาด ไอ้วาจาด่าเพื่อนบ้านเป็นคนป่า ด่ากราดด่ากร่างไปทั่วอย่าหาทำ เปิดแผลสดให้แมงวันตอมจนเน่ากับฆ่าหนึ่งเกิดสิบมันเป็นแบบนี้แหละ
ตัดเรื่องดราม่าออกไปก่อน แล้วมามองในแง่ของการต่างประเทศกันจะสนุกกว่า
จากการไปตามข่าวมา โดยส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลเกาหลียังอ่อนนโยบายการต่างประเทศมากนะ การแก้ปัญหาโดยกฎระเบียบระเบียบที่เหมารวมและเลือกปฏิบัติมันจะส่งผลกระทบแบบนี้แหละ (อย่างการสร้างคนที่มีแนวคิดอย่างเจ้าของกระทู้ขึ้นมาไง) เมื่อคุณเปิดประเทศ มันก็เหมือนการเปิดรับคนที่หลากหลายเข้ามาหาเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางทีเกาหลีอาจจะศึกษาภูมิหลังของไทยน้อยไปนิด เลยรู้แค่ว่าคนไทยมีความแตกต่างทางด้านชนชั้น แต่ไม่ได้นึกถึงว่าแต่ละชนชั้นมันมีอำนาจต่อตัวตนของเกาหลีที่ต่างกัน โปรจีน โปรญี่ปุ่นก็มี ซ้ำแต่ละกลุ่มก็มีอำนาจมาก เลยเล่นเหมารวมคนไทยอย่างไม่มีชั้นเชิง สุดท้ายมันเลยเกิดปรากฏการณ์ขัดแย้งกันแบบนี้แหละ
จะเชื่อไม่เชื่อไม่ว่ากัน แต่คุณค่าของไทยในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (เอาเฉพาะ ณ ตอนนี้นะ) คือหินสำหรับก้าวกระโดดไปสู่อาเซียนบนการแผ่อำนาจทางวัฒนธรรม และไทยก็รู้จักคุณค่าของการพัฒนาภูมิพลังทางวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เพราะเราเคยเห็นญี่ปุ่นทำมาก่อน เราเลยจับมือกับเกาหลีเพื่อให้เขาสามารถเผยแพร่กระแสเกาหลีออกไปได้ เราจะได้เรียนรู้ไปกับเขา และเราก็เป็นชาติแรกด้วยนะ ที่สนับสนุนเขาแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ก็มันสนุกจริงนี่หว่า จะไปขวางเขาทำไม
(สำหรับคนที่ไม่เคยตามข่าว อยากจะแจ้งให้ทราบไว้ว่าจีนกับเวียดนามเป็นชาติแรกๆ ที่ไม่สบอารมณ์กับวัฒนธรรมเกาหลีนะ เขาถือว่านี่เป็นการรุกราน ส่วนพวกอินเดียหรือแขกต่างๆ ก็ไม่ได้มีรสนิยมความงามแบบนี้ ส่วนฝรั่งก็อย่างที่เห็น วิพากษ์กันใหญ่ว่ามันสาวแตก มีแต่ไอ้ไทยนี่แหละที่อะไรก็ได้ยังไงก็ได้ ก็เรามันเป็นคนเมืองท่า รู้หมดแหละว่าความงามที่แตกต่างหลากหลายมันเป็นแบบไหน ความงามแบบเกาหลีไม่ใช่ว่าไม่สวยงาม มันคือความงามบนอารมณ์การ์ตูนญี่ปุ่นเลยล่ะ เกาหลีเขาสามารถจับอารมณ์ในการ์ตูนตาหวานมาทำใส่คนเป็นเป็นๆ ให้มีเนื้อหนังได้ แล้วทำไมถึงจะไม่น่าสนใจล่ะ?)
หากใครยังทันกันได้ จะรู้เลยว่าสมัยนั้นญี่ปุ่นที่ที่เราเทิดทูนกันนักหนา เขาไม่ได้ทำการขายวัฒนธรรมบันเทิงบนยูทูปด้วยนะ เขาหวงจะตายหะ ใครอยากชมอยากชิม โน่น! จ่ายเงินมา ไม่หรอกไอ้คำว่าฟรีน่ะ อยากดูไอดอลเรานักใช่มั้ย? ต้องเข้าไปดูในประเทศเขาเด้อ เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับของจริง จนกระทั่งเกาหลีมาทำการตลาดแบบเข้าถึงง่ายร่วมกับไทยนี่แหละ ญี่ปุ่นถึงกับกระเทือน
นั่นหมายความว่าอย่างไร? นั่นหมายความว่าความสัมพันธ์ไทยกับเกาหลีบนนโยบายขยายกระแส K pop ไม่ใช่เรื่องที่น่าสบอารมณ์กับประเทศรอบข้างเกาหลีสักเท่าไร แน่นอนแม้กระทั่งพี่ใหญ่อย่างจีน ก็รู้คุณค่าในกระแสนี้ และเขาก็ต้องคิดว่าชนชาติที่อารยธรรมห้าพันปีอย่างกุ ของแค่นี้ทำได้ไม่ยาก ไอ้เด็กน้อยอย่างเกาหลีมันก็แค่ลูกไล่ วัฒนธรรมใดๆ ที่มันใช้ก็ของกุทั้งนั้น มันถึงได้เกิดการแตกหักไง ยังจำไอดอลสิบสองนักษัตรได้มั้ย? (เอ็กโซ) นั่นแหละคือจุดหักจุดแรก ตามมาด้วยการแบนกระแส K pop ในจีน
ถ้ารัฐบาลเกาหลีฉลาด ก็น่าจะรู้ตัวมาตั้งนานแล้วนะว่ามีเท้ารอกระทืบก็ยังเล่นออกนโยบายใส่คนไทยแบบนี้
จริงๆ กระแสนี้มันควรจะจบลงไปเมื่อเดือนที่แล้วนะ ถ้าสื่ออย่างนิเคย์อิไม่ได้ไปสัมภาษณ์คนของการท่องเที่ยวแล้วเอามาตีข่าวว่าแหล่งท่องเที่ยวเกาหลีมีน้อย ดังได้เพราะสื่อ คนเลยหันไปเที่ยวจีนกับญี่ปุ่น และมันคงจะไม่ได้ดังจนดันกระแสไปกว่านี้ถ้าสื่อเกาหลีวางเฉยให้มันจบๆ ไป โดนเขาตอกลิ่มให้แตก พี่ก็ดันโกรธอีก คราวนี้ไฟที่ควรจะดับก็มาลุกขึ้นกันใหม่ พวกแอนตี้ก็ทำคลิปปั่นเอาวิวกันอย่างสนุกสนาน กองแช่งมันมีอยู่แล้ว พี่เล่นร้อนรนแบบนี้ก็ได้ทีซ้ำสิ ใครอ่านญี่ปุ่นกับจีนออก ขอเชิญไปส่องที่เว็บพวกเขาได้ ไทยกับเกาหลีทะเลาะกัน หวานมันอร่อยเหาะ
คำถามก็คือใครได้ประโยชน์จากความขัดแย้งนี้?
ไทยน่ะเสียแน่ แต่เกาหลีที่นิ่งเงียบไม่ใช่ว่าจะไม่เสียนะ หากใครตามข่าวกระแสการต่อต้านเกาหลีจะรู้เลยว่าตัวละครในสนามนี้ไม่ได้มีแค่ไทย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ยังมีอินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ เวียดนาม เข้ามาร่วมด้วย แต่ละประเทศก็ล้วนแต่ดุๆ ทั้งนั้น เคยเห็นจีนตะโกนด่าเกาหลีตอนไปแข่งกีฬาแล้วขึ้นเพลงชาติมั้ยล่ะ? เคยเห็นญี่ปุ่นสั่งห้ามคนเกาหลีเข้าพื้นที่อย่างไม่เกรงใจบ้างมั้ย? เอาาแค่แช็ตเหยียดในกรณีอินโดซารังทุกวันนี้คนอินโดเขาก็ยังเล่นไม่เลิก ฯลฯ
ไอ้คำว่าแบนการไปเกาหลีที่คนบางกลุ่มทำในไทยน่ะ เขาไม่ได้วาดหวังจะชนะในวันนี้นะ เขาต้องการให้เกิดสิ่งเรียกว่าการสร้างแบบอย่าง การที่ผีเสื้อกระพือจากที่หนึ่งแล้วแล้วไปสร้างพายุในที่หนึ่งน่ะ มันจะต้องเริ่มกระพือก่อน จากนั้นต้องกระพรืบไม่หยุด จนค่าความน่าจะเป็นเข้าใกล้จุดเริ่มต้นของภาวะโกลาหล จากนั้นมันถึงจะเริ่มเกิดความปั่นป่วน
ในไทย โปรจีน โปรญี่ปุ่น เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าเกาหลีกับไทยจะทะเลาะกันจนพังความสัมพันธ์ที่สร้างมาลงไปขนาดไหน ยิ่งพังยิ่งดี ตอนนี้มันเป็นแค่กระแสแบนในเน็ต ยังไม่ออกสู่ชีวิตจริงก็เฮงไป ลองให้กลุ่มแอนตี้กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยเหล่านี้จับมือกันได้สิ ฐานอำนาจละมุนของเกาหลีได้สั่นคลอนแน่นอน
แอบไปอ่านความเห็นของเกาหลีหลายคนบอกว่ากุไม่แคร์หรอก ประเทศกุไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยว โอ้ย!!!! ให้มันจริงเถอะ จะสาธุท่วมหัว หมดคู่แข่งไปหนึ่ง เงินทองจากนักท่องเที่ยวเป็นเงินตกลงมาจากฟ้า เขาให้มาแล้วก็เดินจากไป ขายท่องเที่ยวคือขายความสุข ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งหน้า ไม่ต้องไปเหนื่อยยากลงแรงแข่งกับใคร เลี้ยงไว้สักฐานหนึ่งเอาไว้สร้างเงินแบบกินนิ่ม คิดไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าอะไร
เอาเป็นว่าเกาหลียังจะออกกฎระเบียบแบบนี้ต่อก็แล้วแต่เถอะ คิดว่าตัวเองเจ๋งพอก็ว่ากันไป ส่วนคนไหนอยากไปเกาหลีก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ต่างคนต่างอยู่เรื่องมันจะได้เบา
เราเองก็หัดเรียนรู้ไว้ อย่าออกนโยบายเหมารวมและเลือกปฏิบัติเป็นอันขาด ไอ้วาจาด่าเพื่อนบ้านเป็นคนป่า ด่ากราดด่ากร่างไปทั่วอย่าหาทำ เปิดแผลสดให้แมงวันตอมจนเน่ากับฆ่าหนึ่งเกิดสิบมันเป็นแบบนี้แหละ
แสดงความคิดเห็น
ประเทศเกาหลี น่าไปเที่ยวขนาดนั้นจริงๆหรอ ขนาดผ่าน ตม.ยาก คนไทยก็จะยังอยากไป พอเข้าไม่ได้ก็ออกมา#แบนเกาหลี ไม่รู้กี่รอบ
ฮัลโหล.... เห็น#แบนเกาหลี ขึ้นแทรนด์ X อีกวันนี้ (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้)
สรุปจะแบนกี่โมง แล้วแบนได้ยัง? ตอนแรกก็เข้าใจคนไทยนะ
แต่หลังๆๆนี่สงสัย เค้าไม่อยากต้อนรับ เหยียดเรา สารพัดที่คนไทยจะเอามาอ้าง
แต่ทุกวันนี้ คนไทยก็ยังดิ้นรน จะไปเกาหลีให้ได้อีก พอเข้าไม่ได้ มาโพสด่าในโซเชียล โวยวายนี่นั้น
แน่ใจนะ ว่าอยากไปเที่ยวจริงๆเนี่ย เอาดีดี...ไปเที่ยวหรือจะไป ทำอย่างอื่น
มันต้องขนาด จะไปให้ได้ขนาดนั้นเลยหรอ?
เกาหลีน่าเที่ยวมากกกกกกกกกกกกกก ขนาดนั้น จริงดิ ????