ตอนเด็กๆผมผมถูกเลี้ยงดูโดยตาของผมตั้งจำความได้ตาก็ให้ความรักกับผมตลอดจนผมเอาแต่ใจ วันนึงตาผมเสียด้วยโรคร้าย วันนั้นเป็นที่โลกทั้งใบมันไม่เหมือนเดิม ผมร้องไห้ไม่หยุดผมคิดถึงจนถึงทุกวันนี้ หลังจากตาผมเสียแม่และยายก็เอาไปดูแลเลี้ยงดู จากนั้นผมก็เริ่มเอาแต่ใจน้อยลง แต่ก็มีบ้าง ตอนอยู่กับยายและแม่มีความสุขมาก แต่พอพ่อออกจากคุกมาแล้วมาดูแลผม เขาก็มีปากเสียงกับแม่เถียบจะตลอดเวลา มันเป็นปมในชีวิตผม มีอยู่วันนึงเป็นช่วงโควิด ที่วัดจังหวัดที่ผมอยู่จะมีข้าวกล่องแจก วันนั้นผมเลยไปเอาข้าวกล่องจากที่วัด เพราะที่บ้านถานะค่อยข้างยากจน วันนั้นพ่อบอกกับผมว่าให้เอากล่องไปเผื่อแม่ด้วยเพราะตอนนั้นแม่กำลังท้องน้องของผม เลยตอบตกลง เมื่อถึงเวลารับข้าวกล่องผมทำไม่ได้ ผมไม่เคยขอของที่คนอื่นให้ด้วยความเต็ม ผมไม่กล้าขอเพราะคนอื่นก็หิวเหมือนกันมีสิ่งที่ต้องดูแลเหมือนกัน หลังจากที่เดินออกมา พ่อถามผมว่า"ทำไมไม่ขอข้าวกล่องให้แม่ที่ท้องอยู่"ผมไม่กล้าตอบเพราะกลัว
พ่อด่าผมกลางวัด ถอดแหวนพระสร้อยพระออก และด้าผมเหมือนเป็นถังขยะ พ่อด่าผมว่า"มันหน้าด้าน แม่กำลังท้องอยู่เห็นมั้ย กูให้ทำแค่นี้ทำไม่ได้ มันหน้าด้าน กลับไปบ้านเจอกูแน่"ผมกลัวจนเดินขาสั่น น้ำตาจะไหลแต่มันก็ไม่ไหลมันคลออยู่ที่เบ้าตา พอเดินใกล้ถึงรถผมเห็นยายของผมเดินมาเอาข้าวที่วัดเหมือนกัน ผมเห็นยายแล้วก็ดีใจ แต่ผมไม่กล้าบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกลับผม ยายมองหน้าผมก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยายเลยบอกกับพ่อว่า"อย่าทำอะไรลูกนะ" พ่อบอกว่า "ผมไม่ทำอะไรมันหลอก" ก่อนถึงบ้านผมเห็นแม่เดินไปซื้อของเลยมีความหวังว่าแม่จะทันก่อนผมโดนกระถืบ ถึงบ้านพ่อก็เริ่มด่าผมอีกครั้ง
และพ่อบอกผมว่า ถ้าแดกข้าวที่เอามาไม่หมดตายแน่ ก่อนกินข้าวผมไปล้างหน้าเพราะผมร้องไห้ พอกลับมานั่งกินข้าว พ่อก็ดุผมด่าผมตะคอกใส่ผม จนผมร้องไห้ไม่หยุด ผมกำหัวผมขึ้นมาและถามว่า"ถ้ากูจริงๆเนี่ย จะมีใครช่วยได้มั้ย ห้ะ! จะมีมั้ย! ตอบ! จะมีมั้ย!"ผมตอบไปว่าไม่มี แม่กลับพอดีแม่เห็นว่าพ่อกำหัวผมขึ้นมา แม่เลยวิ่ง้เข้ามากอด และถามว่า ทำอะไรลูกกู พ่อผมตอบว่า กูยังไม่ได้ทำอะไรมันเลย แม่ถามผมว่า เกมส์มันทำหนูหรอ ผมพยักหน้า แม่ถามอีกรอบ ทำอะไรลูกกู พ่อผมตอบเหมือนเดิม กูไม่ได้ทำอะไรมันเลย กูทำอะไรเกมส์ไหนตอบกูดิ๊ ผมกลัวจนพูดไม่ออก แม่ผมไล่พ่อให้ออกไปจากห้องพ่อผมก็ฉุนเลยเดินออกไปและขับรถไปไหนก็ไม่รู้ พอผมเริ่มดีขึ้นก็ออกไปเล่นกับเพื่อน และแม่ก็เรียกผมมาเรียนออนไลน์ ตอนนี้ยายก็มาที่บ้านแล้ว และพ่อก็กลับมาบ้านผมก็กลัวว่าพ่อของผมนั้นจะว่าผมอีกเลยอยู่นิ่งๆ แม่และยายก็ถามว่า
ทำอะไรลูก พ่อก็เหมือนเดิมว่าไม่ได้ทำ แม่บอกว่าไม่ได้ทำและมันจะร้องไห้ได้ยังไง พ่อก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมด แม่และยายฟังแล้วก็บอกว่า ผมยังเด็กอยู่และไม่มีใครเลยสอนผมให้ขอคนแปลกหน้า ตอนนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย พ่อก็บอกว่า เพราะเอาแต่ใจผมเลยติดเป็นสันดาน มัวแต่ถือหางผมอย่างงี้ไง ยายผมบอกว่าผมยังเด็กยังไม่รู้เรื่องมากจะเอาอะไรกับเด็กมัน พ่อผมเถียงไม่ออก และก็หยุดเถียงและทะเลาะกัน ปัญหานี้เหมือนเนื้องอกที่ตัดยังไงก็ไม่ขาด ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันผมไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวมากนัก ผมกลายเป็นเด็กเก็บกฎ เวลามีเรื่องไม่กล้าบอกใครทั้งนั้นมีแค่เพื่อนที่ผมปรึกษาได้ เพราะผมคิดว่าไม่มีใครรักผมจริงๆ เขาไม่รับฟังปัญหาของผมทั้งยังด่าผม แม่เคยเป็นเหมือนฮีโร่ของผม ตอนนี้แม่กลับเป็นคนที่พูดทำร้ายจิตใจผมจนเคลียด เคยด่าผมว่าเหมือนพ่อ ปัญญาอ่อน ทุเรศ สกปรก ไม่ดูแลตัวเอง ทั้งๆที่ผมทำดีที่สุดเท่าที่เด็ก15อย่างผมจะทำได้แล้ว เขาพูดจารุนแรงใส่โดยไม่นึงถึงใจผมเลย เหตุการณ์ที่ทำให้ผมมองแม่เปลี่ยนไป คือเหตุการณ์ที่ผมจะไปโรงบาลเพื่อที่จะรักษาโรคผิวหนังที่ศรีษะ ผมอยากรักษามันจริงๆ เลยขอทุกคนที่อาจจะช่วยผมได้ นิดนึงก็ยังดี ตอนแรกผมไปอนามัยก่อนแต่หมอบอกว่าผมต้องไปหาหมอผิวหนังที่โรงบาล ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยถามน้าว่าพอจะมีใครช่วยพาผมไปโรงบาลได้มั้ย น้าก็ตอบผมอย่างสุภาพว่า แม่บอกว่าจะพาไปพรุ่งนี้ครับ ผมก็บอกว่าขอบคุณ และแม่ก็โทรมาหาผม และถามผมว่า ทำไมถึงทักไปบอกน้า ไหนเล่ามาสิ ผมก็บอกว่าไปอนามัยมาแล้วหมอว่าน่าจะแผ้อะไรสักอย่าง เลยแนะนำว่าผมควรไปหาหมอที่โรงบาล เพราะไม่หมอที่อนามัยไม่มียาให้ผมทาน แม่ผมบอกว่า มันหมดเวลาทำการแล้ว จะไปยังไงเกมส์ จะไปยังไง แล้วหมอให้อะไรมามั้ยแม่ถาม ผมเลยตอบว่าไม่มีแม่ ก่อนวางสายแม่บอกว่า เออๆแค่นี้แหละ รบกวนเขาไปทั่ว ประโยคเดียวที่แม่พูดอาจจะไม่คิดอะไร แต่ผมเอามาคิดว่าผมผิดขนาดนั้นเลยหรอ ที่อยากหายไวๆ จากโลกนี้ผิดขนาดนั้นเลยผมก็ไม่ได้อยากเป็นหนิโรคแบบเนี่ย ผมเลยต้องทีกไปขอโทษน้า ที่วุ่นวาย ผมร้องไห้ผมเสียใจที่ไม่มีที่แม่ผมพูดออกมาอย่างนั้น ผมแค่อยากหายจากโรคบ้านี้ มันน่าอาย แต่แม่กลับด่าผมว่าวุ่ยวายชีวิตคนอื่นผมผิดหรอครับผมผิดมากใช่มั้ย ผิดมากใช่มั้ยที่เป็นผม มันคงจะดีมากเลยถ้าผมตายไปภาระจะได้ไม่มีภาระ
คงจะดีถ้าไม่มีผม
พ่อด่าผมกลางวัด ถอดแหวนพระสร้อยพระออก และด้าผมเหมือนเป็นถังขยะ พ่อด่าผมว่า"มันหน้าด้าน แม่กำลังท้องอยู่เห็นมั้ย กูให้ทำแค่นี้ทำไม่ได้ มันหน้าด้าน กลับไปบ้านเจอกูแน่"ผมกลัวจนเดินขาสั่น น้ำตาจะไหลแต่มันก็ไม่ไหลมันคลออยู่ที่เบ้าตา พอเดินใกล้ถึงรถผมเห็นยายของผมเดินมาเอาข้าวที่วัดเหมือนกัน ผมเห็นยายแล้วก็ดีใจ แต่ผมไม่กล้าบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกลับผม ยายมองหน้าผมก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยายเลยบอกกับพ่อว่า"อย่าทำอะไรลูกนะ" พ่อบอกว่า "ผมไม่ทำอะไรมันหลอก" ก่อนถึงบ้านผมเห็นแม่เดินไปซื้อของเลยมีความหวังว่าแม่จะทันก่อนผมโดนกระถืบ ถึงบ้านพ่อก็เริ่มด่าผมอีกครั้ง
และพ่อบอกผมว่า ถ้าแดกข้าวที่เอามาไม่หมดตายแน่ ก่อนกินข้าวผมไปล้างหน้าเพราะผมร้องไห้ พอกลับมานั่งกินข้าว พ่อก็ดุผมด่าผมตะคอกใส่ผม จนผมร้องไห้ไม่หยุด ผมกำหัวผมขึ้นมาและถามว่า"ถ้ากูจริงๆเนี่ย จะมีใครช่วยได้มั้ย ห้ะ! จะมีมั้ย! ตอบ! จะมีมั้ย!"ผมตอบไปว่าไม่มี แม่กลับพอดีแม่เห็นว่าพ่อกำหัวผมขึ้นมา แม่เลยวิ่ง้เข้ามากอด และถามว่า ทำอะไรลูกกู พ่อผมตอบว่า กูยังไม่ได้ทำอะไรมันเลย แม่ถามผมว่า เกมส์มันทำหนูหรอ ผมพยักหน้า แม่ถามอีกรอบ ทำอะไรลูกกู พ่อผมตอบเหมือนเดิม กูไม่ได้ทำอะไรมันเลย กูทำอะไรเกมส์ไหนตอบกูดิ๊ ผมกลัวจนพูดไม่ออก แม่ผมไล่พ่อให้ออกไปจากห้องพ่อผมก็ฉุนเลยเดินออกไปและขับรถไปไหนก็ไม่รู้ พอผมเริ่มดีขึ้นก็ออกไปเล่นกับเพื่อน และแม่ก็เรียกผมมาเรียนออนไลน์ ตอนนี้ยายก็มาที่บ้านแล้ว และพ่อก็กลับมาบ้านผมก็กลัวว่าพ่อของผมนั้นจะว่าผมอีกเลยอยู่นิ่งๆ แม่และยายก็ถามว่า
ทำอะไรลูก พ่อก็เหมือนเดิมว่าไม่ได้ทำ แม่บอกว่าไม่ได้ทำและมันจะร้องไห้ได้ยังไง พ่อก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมด แม่และยายฟังแล้วก็บอกว่า ผมยังเด็กอยู่และไม่มีใครเลยสอนผมให้ขอคนแปลกหน้า ตอนนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย พ่อก็บอกว่า เพราะเอาแต่ใจผมเลยติดเป็นสันดาน มัวแต่ถือหางผมอย่างงี้ไง ยายผมบอกว่าผมยังเด็กยังไม่รู้เรื่องมากจะเอาอะไรกับเด็กมัน พ่อผมเถียงไม่ออก และก็หยุดเถียงและทะเลาะกัน ปัญหานี้เหมือนเนื้องอกที่ตัดยังไงก็ไม่ขาด ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันผมไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวมากนัก ผมกลายเป็นเด็กเก็บกฎ เวลามีเรื่องไม่กล้าบอกใครทั้งนั้นมีแค่เพื่อนที่ผมปรึกษาได้ เพราะผมคิดว่าไม่มีใครรักผมจริงๆ เขาไม่รับฟังปัญหาของผมทั้งยังด่าผม แม่เคยเป็นเหมือนฮีโร่ของผม ตอนนี้แม่กลับเป็นคนที่พูดทำร้ายจิตใจผมจนเคลียด เคยด่าผมว่าเหมือนพ่อ ปัญญาอ่อน ทุเรศ สกปรก ไม่ดูแลตัวเอง ทั้งๆที่ผมทำดีที่สุดเท่าที่เด็ก15อย่างผมจะทำได้แล้ว เขาพูดจารุนแรงใส่โดยไม่นึงถึงใจผมเลย เหตุการณ์ที่ทำให้ผมมองแม่เปลี่ยนไป คือเหตุการณ์ที่ผมจะไปโรงบาลเพื่อที่จะรักษาโรคผิวหนังที่ศรีษะ ผมอยากรักษามันจริงๆ เลยขอทุกคนที่อาจจะช่วยผมได้ นิดนึงก็ยังดี ตอนแรกผมไปอนามัยก่อนแต่หมอบอกว่าผมต้องไปหาหมอผิวหนังที่โรงบาล ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยถามน้าว่าพอจะมีใครช่วยพาผมไปโรงบาลได้มั้ย น้าก็ตอบผมอย่างสุภาพว่า แม่บอกว่าจะพาไปพรุ่งนี้ครับ ผมก็บอกว่าขอบคุณ และแม่ก็โทรมาหาผม และถามผมว่า ทำไมถึงทักไปบอกน้า ไหนเล่ามาสิ ผมก็บอกว่าไปอนามัยมาแล้วหมอว่าน่าจะแผ้อะไรสักอย่าง เลยแนะนำว่าผมควรไปหาหมอที่โรงบาล เพราะไม่หมอที่อนามัยไม่มียาให้ผมทาน แม่ผมบอกว่า มันหมดเวลาทำการแล้ว จะไปยังไงเกมส์ จะไปยังไง แล้วหมอให้อะไรมามั้ยแม่ถาม ผมเลยตอบว่าไม่มีแม่ ก่อนวางสายแม่บอกว่า เออๆแค่นี้แหละ รบกวนเขาไปทั่ว ประโยคเดียวที่แม่พูดอาจจะไม่คิดอะไร แต่ผมเอามาคิดว่าผมผิดขนาดนั้นเลยหรอ ที่อยากหายไวๆ จากโลกนี้ผิดขนาดนั้นเลยผมก็ไม่ได้อยากเป็นหนิโรคแบบเนี่ย ผมเลยต้องทีกไปขอโทษน้า ที่วุ่นวาย ผมร้องไห้ผมเสียใจที่ไม่มีที่แม่ผมพูดออกมาอย่างนั้น ผมแค่อยากหายจากโรคบ้านี้ มันน่าอาย แต่แม่กลับด่าผมว่าวุ่ยวายชีวิตคนอื่นผมผิดหรอครับผมผิดมากใช่มั้ย ผิดมากใช่มั้ยที่เป็นผม มันคงจะดีมากเลยถ้าผมตายไปภาระจะได้ไม่มีภาระ