Hampta circuit Pass หรือ Hampta circle pass
ทริปนี้ เราก็ไปหลอกพี่ที่ทำงานไปเดินป่าด้วยอีกครั้ง หลังจากรอบที่แล้ว หลอกพี่น้อยไปเดินป่าที่จีนมา คราวนี้ก็ถึงคราวหลอกพี่ที่ห้อง lab ไปแทน หุหุ เดิ มที ตั้งใจจะไป hampta pass ที่เดินไกลเกือบ 40 กิโล แต่ด้วยความที่ ไกด์ท้องถิ่นแจ้งว่า ที่ hampta pass มีดินสไลด์ ซื่งอาจจะไม่ปลอดภัยได้ เลยให้เราเลือก ว่าจะงดทริป หรือจะไปต่อ โดยไปเดินรอบๆ ที่ hampta circle pass แทน
แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตอนแรก ทริปล่มเด๊อะ! เพราะทัวร์เดิมยกเลิก เพราะเห็นว่าดินสไลด์ แต่พวกเรา 2 คน เลือกที่จะไปต่อ เลยเปลี่ยนทัวร์ไทยกะทันหัน แล้วก็เลือกที่จะเปลี่ยนไฟล์บินในประเทศขากลับนิดหน่อย เสียค่าเปลี่ยนไฟล์ทบินไปพอควร เพื่อที่จะให้เหลือเวลาเที่ยวในเมือง นิวเดลีอีกสักวัน (เอาจริงตอนแรกพยายามสมัครเมลล์เพื่อจองรถไฟชั้นเฟริสคลาสไปกลับอัครา เพื่อที่จะไปดูทัชมาฮาล) แต่ด้วยความกลัวตกเครื่อง ทำให้ต้องเปลี่ยนใจกะทันหันอีกแล้ว ... เลยเป็นทริปที่ค่าทริปบานปลายจริงๆค่ะ
วันแรก 9 ส.ค. 67 (นี่ก็ไปก่อนเค้า เพราะว่าทัวร์เดิม นัดกันวันนี้ ) ทำให้ต้องไปนั่งแกร่วที่ สนามบิน chandigarh ตั้ง 10 ชม. เพราะไม่รู้จะไปไหนดี
เราพาพี่ป้อ ออกจากที่ทำงานก่อนเวลานิดหน่อย เพื่อมาขึ้นเครื่องรอบ 21.25 น. ให้ทันเวลา แต่ว่า น้องคนที่มาส่งหลังจากที่ส่งเราเสร็จ ก็ลืม ipad ไว้ในห้องน้ำ เป็นเรื่องราวความโชคดี ที่เค้าเก็บไว้ให้ เลยได้ไปแวะทักทายเจ้าหน้าที่ ที่ชั้น 6 สุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก สื่อสารกันว่า วิธีการไปชั้น 6 ก็ให้ไปที่ยักษ์ใหญ่ ลิฟต์ หรือบันไดเลื่อนจะอยู่หลังยักษ์! เลยได้วิวสวยๆด้านใน ของสุวรรณภูมิมา ^^
เริ่มต้นไม่สวย ... มันก็จะติดขัดไปหมด !
บินลัดฟ้า จาก ไทย มาลงที่นิวเดลี terminal 3 ซึ่งเป็นสายการบิน international ที่ส่วนใหญ่มาลงที่นี่กันหมด ค่ะ เที่ยวบิน TG 335 ออกจากเมืองไทย 21.25 น. มาถึง เดลี เวลา 00.35 น.
พอมาถึง สนามบิน DEL เรื่องวุ่นวายก็บังเกิด เค้าเปลี่ยนจุด เช็คอิน ตม. จากเดิม พอเราเลี้ยวเข้า terminal แล้วจะอยู่ทางขวามือ จุดแรกๆ เค้าก็เปลี่ยนจุด ผ่านตม. ที่เป็น E-Visa ไปไว้ด้านในสุด เดินไปจนสุดทางแล้วจะอยู่ขวามือซะงั้น ใบกรอกตม.ก็ไม่มีให้ บนเครื่อง ไม่ได้ขอเค้า เค้าก็ไม่ได้แจกมา เสียเวลาที่จุดผ่านตม.เกือบชั่วโมงเลยค่ะ สุดท้าย เค้าเห็นว่าเราต่อคิวนาน เค้าก็เลยให้ไปผ่าน ตม.จุดแรก จุดเดิม!
ผ่านตม.เข้าไปละ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ ใช้เวลา ตั้งแต่ ตี 1 จนถึงตี 4 หาทางเพื่อไปต่อ เราวางแผนว่าวันสุดท้าย จะมาฝากกระเป๋า แล้วค่อยเที่ยวในนิวเดลีต่อ เลยไปหา left luggage office ของ terminal 3 ของสนามบิน นิวเดลีก่อน ซึ่งที่ฝากกระเป๋า ก็อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใต้ดินเลย เดินแป๊บเดียว ก็เห็น ถ้าออกมาแล้ว ต้องเปลี่ยนเป็นขาเข้า เราจะต้องใช้ ลิฟต์ด้านนอกในการขึ้นมาชั้น 2 ถัดจากลิฟต์มานิดหน่อยจะเจอทางเชื่อมไปอาคารฝั่งตรงข้าม ให้ดิ่งไปทางนั้นได้เลยค่ะ ก็จะเจอที่ฝากกระเป๋า ก่อนที่จะเดินลงไปเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน แล้วการเดินทางที่ทุลักทุเลก็สามารถมาถึงที่นี่ได้
แล้วเราก็มาถึงโรงแรมที่มะนาลีค่ะ ช่วงดึกๆเลยทีเดียว แต่วิวตัวนี้เป็นวิวตอนเช้าที่หน้าโรงแรม ซึ่งโรงแรมต้องขึ้นไปสูงนิดหน่อย (เดินก็เหนื่อยนิดนึง) แต่เป็นโรงแรมที่ feel good มากค่ะ นอนฟังเสียงน้ำไหล อากาศเย็นสบายมากตอนกลางคืน
แล้วก็ที่โรงแรม แอปเปิ้ล เริ่มจะสุกละค่ะ ... รอเลย อีกเดือนหน้า ได้กินแน่!
หลังจากพักผ่อนเสร็จแล้ว เช้ารุ่งขึ้น วันที่ 11 ส.ค. 67 เราต้องออกเดินทางเพื่อเข้าสู่ โหมดเดินป่าละค่ะ หลังจากที่ตะลอนๆ อยู่ในสนามบินเกือบ 2 วัน
เส้นทางเดินป่า Hampta Circuit pass มักถูกเข้าใจว่า ไม่ค่อยสวย ระยะสั้น และอาจจะไม่เร้าใจสู้ hampta pass ซึ่งระยะทางยาว และ มีความสูงมากกว่า ซึ่งจะสวยกว่าก็ได้ แต่เส้นทางเดินป่า Hampta Circle นั้นเป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นแต่สวยงามไม่แพ้กัน แล้วก็ยังไม่ค่อยมีคนมาเดินกันค่ะ
เราจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา Bara Bhangal, Dhauladhar และ Pir Panjal โดยไม่ต้องปีนขึ้นไปยัง Hampta Pass
เราจะเดินผ่าน ป่าสน ต้นโอ๊ก และต้นเดโอดาร์ที่สวยงาม ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม และผ่านหมู่บ้านบนภูเขาที่สวยงามที่สุดบางแห่ง เส้นทางเดินป่าเริ่มต้นจาก Jagatsukh และสิ้นสุดที่หมู่บ้าน Prini เอาจริง.... ทั้งเขา มีพวกเราแค่นั้น 10 ชีวิต!! เดินเล่นกันอยู่ฝั่งตรงข้ามของ hampta pass จนแบบคิดถึงนิยายสมัยเด็กๆเรื่องบ้านเล็กในป่าใหญ่กันเลยทีเดียว
ดูแล้วเหมือนนอแรดเลย ต้นนี้อายุหลายร้อยปี หรืออาจจะพันปี พันๆปี
ต้นโอ๊คที่นี่ไม่เหมือนใคร ลูกโอ๊คที่อวบอ้วน
วันที่สองของการเดินป่า (12 ส.ค. 67) ค่อนข้างสบาย เดินเรื่อยๆ เมื่อยก็พัก เดินแบบดันขึ้นสูงอีกสักหน่อย จุดตั้งแคมป์ของเรา อยู่ติดคลองน้ำเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากภูเขาด้านบน ส่วนวิวอีกด้าน เป็นหน้าผา ที่มองเห็นวิวเมืองมะนาลี ทั้งเมือง และ ยอดเขา Hanuman Tibba และ Friendship peak ที่ยังพอมีหิมะปกคลุมให้เราได้เห็น สวยจับใจเลยค่ะ
ตรงโน้น คือยอด friendship peak แล้วตรงเหนือหมวกดำ ก็ hanuman tibba ค่ะ
แล้วก็ ถ่ายดาวที่นี่ สวยอย่าบอกใคร ... แต่กล้องมือถือทำได้แค่นี้จริงๆค่ะ ^^
วันที่ 3 ของการเดิน trekking (13 ส.ค.67) วันนี้ ก็เป็นวันที่เดินดันขึ้น และยาวนานกว่าทุกๆวัน เดินข้ามเขาแล้วข้ามเขาอีก เอ้า ต้องข้ามน้ำด้วย แต่ดอกไม้ สวยมากกกก
เดิมมาได้สักพัก เราก็มาถึงน้ำตกค่า สูงมาก ไหลแรงมาก เอาจริงวันนั้น ฝนตกด้วย แล้วแบบน้ำเย็นมากกก น่าเล่นมากกก ^^ อยากพักทานข้าวตรงนี้เลย ^^
หลังจากผ่านน้ำตกไป เราจะเข้าป่าโอ๊ค มีทั้งต้นโอ๊คสีเงินและสีทอง เยอะแยะไปหมด ดินที่นี่ร่วนมากกก อยากขนกลับไปปลูกต้นไม้ที่บ้านเลย
เส้นทางนี้จะนำไปสู่ซาโรตู ซึ่งเป็นจุดตั้งแคมป์ที่สวยงามที่สุดอีกจุดนึงค่ะ ซึ่งมันก็สวยงามมากจริงๆ เดินไป ฝนก็ตกไปเป็นระยะๆ หมอกก็จะเต็มไปหมด ^^ เรานอนที่นี่ 2 คืนค่ะ ฝนก็ตกทั้ง 2 คืน ต้องมาเห็นด้วยตา ท้องฟ้ามันคือสวยมากกก
จบไปอีกคืน พรุ่งนี้เค้าจะพาเราไปดูทะเลสาบ แต่ไปไม่ถึงทะเลสาบ ด้วยความวิวข้างทางมันจึ้งมากกก ... สวย สวยทุกตรง สวยจนคิดว่า เฮ้ย hampta pass จะสวยขนาดนี้มั้ย
[CR] ้hampta circuit pass (circle pass) Manali
ทริปนี้ เราก็ไปหลอกพี่ที่ทำงานไปเดินป่าด้วยอีกครั้ง หลังจากรอบที่แล้ว หลอกพี่น้อยไปเดินป่าที่จีนมา คราวนี้ก็ถึงคราวหลอกพี่ที่ห้อง lab ไปแทน หุหุ เดิ มที ตั้งใจจะไป hampta pass ที่เดินไกลเกือบ 40 กิโล แต่ด้วยความที่ ไกด์ท้องถิ่นแจ้งว่า ที่ hampta pass มีดินสไลด์ ซื่งอาจจะไม่ปลอดภัยได้ เลยให้เราเลือก ว่าจะงดทริป หรือจะไปต่อ โดยไปเดินรอบๆ ที่ hampta circle pass แทน
บินลัดฟ้า จาก ไทย มาลงที่นิวเดลี terminal 3 ซึ่งเป็นสายการบิน international ที่ส่วนใหญ่มาลงที่นี่กันหมด ค่ะ เที่ยวบิน TG 335 ออกจากเมืองไทย 21.25 น. มาถึง เดลี เวลา 00.35 น.
แล้วเราก็มาถึงโรงแรมที่มะนาลีค่ะ ช่วงดึกๆเลยทีเดียว แต่วิวตัวนี้เป็นวิวตอนเช้าที่หน้าโรงแรม ซึ่งโรงแรมต้องขึ้นไปสูงนิดหน่อย (เดินก็เหนื่อยนิดนึง) แต่เป็นโรงแรมที่ feel good มากค่ะ นอนฟังเสียงน้ำไหล อากาศเย็นสบายมากตอนกลางคืน
Takshak Nag Mandir เป็นวัดพระศิวะที่สวยงามซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางเดินป่าของเราในวันนี้ จะเห็นต้นเดโอดาร์ ซึ่งเป็นต้นโอ๊คเก่าแก่ของที่นี่ต้นใหญ่ม๊ากกกก แบบ 5 คนโอบ น่าจะอายุเกือบพันปีแน่ๆ ไกด์บอกมาแบบนี้ ^^ วันแรก เราใช้เวลาในการเดินป่า 3 km. ก็ถึงจุดตั้งแคมป์
เดิมมาได้สักพัก เราก็มาถึงน้ำตกค่า สูงมาก ไหลแรงมาก เอาจริงวันนั้น ฝนตกด้วย แล้วแบบน้ำเย็นมากกก น่าเล่นมากกก ^^ อยากพักทานข้าวตรงนี้เลย ^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้