เมื่อเริ่มคบหาดูใจกับใครสักคน แล้วแม่บอกว่าหนูไม่ได้สิ้

สวัสดีค่ะ เราเป็นผู้หญิงโสด วัย 32 หมาดๆเลยค่ะ หลังจากที่โสดมา 2 ปี ต้องยอมรับว่าเราเดทกับผู้ชายต่างชาติเสมอ เนื่องด้วยประสบการณ์ และความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ คบกับต่างชาติมันดีสำหรับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากกว่า (อยู่ที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วยค่ะ เราไม่ได้มีเจตนาจะเปรียบเทียบแต่อย่างใด พูดจากประสบการณ์ตัวเองล้วนๆเลยค่ะ) ต้องยอมรับเลยค่ะว่าตั้งสเปคตัวเองค่อนข้างสูงประมาณนึง ทั้งรูปลักษณ์ การศึกษา แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันค่อนข้างยากมากๆสำหรับการจะหาคนที่ตรงตามสเปคทุกๆอย่างแบบนี้และจริงจังกับเราจริงๆ เลยไม่ได้คาดหวังในการเดทแต่ละครั้งมากนักค่ะ ผู้ชายดูดี ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มาใส่ใจในความรู้สึกเราเลยค่ะ หลักๆก็ต้องการหา casual sex บ้าง บางคนสับสนกับความรู้สึกตัวเองบ้าง กำลังค้นหาตัวเองบ้าง ยังอยากใช้ชีวิตให้สนุกบ้าง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เรามองหาค่ะ แล้วที่ผ่านมาเจอแต่แบบนี้มาเสมอๆ จนเริ่มเหนื่อยหน่ายกับการออกเดทไปเลยค่ะ 

เราเองเป็นคนไม่ค่อยชอบออกไปไหนมาก ชอบอยู่บ้านค่ะ การที่เราออกไปเดทแต่ละทีส่วนมากจะมาจากการพูดคุยผ่ายแอพหาคู่ค่ะ ถึงจะตัดสินใจออกไปเจอ แต่อย่างที่บอกไปว่ามันไม่ได้สมหวังเลยค่ะช่วงหลังมานี้ เลยตัดสินใจปักหมุดจ่ายเงินไปต่างประเทศ ซึ่งผลลัพธ์ไม่ต่างกันค่ะ คือคนที่นั่นเค้าไม่อยากสู้กับความสัมพันธ์ระยะไกล บางคนคุยดีมากจนเริ่มมีหวัง แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอดและเงียบหายกันไปค่ะเพราะด้วยความไกล แล้วยังต้องมาคอย text อัพเดทกันตลอดไปมา จนมีช่วงจังหวะหนึ่งแอพระบบมีปัญหาส่งเราเด้งกลับประเทศค เลยทำให้เห็นคนไทยจำนวนหนึ่งถูกใจเราเข้ามา จังหวะนั้นเลยตัดสินใจลองคุยกับคนไทยที่ถูกใจมาคนนึง ไม่รู้อะไรดลใจเราตอนนั้นจริงๆค่ะ ซึ่งหน้าตาเขาไม่ใช่สเปคที่ตั้งไว้แต่อย่างใด การศึกษา (เขาจบปริญญาโทค่ะ แต่ไม่ใช่สถาบันที่เราคาดหวังไว้) แต่สิ่งที่เราชอบในตัวเขาคือความจริงใจ ความเป็นผู้ใหญ่ ดูแลเอาใจใส่เราเสมอ ยอมรับเลยว่าช่วงเวลาที่อยู่กับเขามันดีมากๆ จนเราลืมสเปคทุกอย่างที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดไปเลยค่ะ เขาทำให้เราประทับใจและมีความสุขมากๆ เขาถึงขนาดเอ่ยมาว่าเขาอยากที่จะดูแลเราไปตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น (เขาอายุ 39 ปีค่ะ) จนวันนี้เรารู้สึกได้ว่าเรากำลังมีความรักค่ะ 

มาถึงสเตปนี้ คือการบอกแม่ค่ะ แม่เราก็จะออกแนวอ้อล้อ ถามจี้ตลอดด้วยความเป็นห่วงด้วยแหละค่ะว่าเมื่อไหร่จะมีแฟนสักที เราเลยตัดสินใจบอกแม่ ว่าเราเจอผู้ชายคนนี้ในแอพนะ เขาเป็นคนไทย อยู่ไม่ไกลกันมาก พอแม่ได้ยินก็ชะงัก แล้วเริ่มถามละเอียดสามร้อยแปดสิบคำถามว่า เขาจบที่ไหน หน้าตาเป็นไง (แน่นอนเราพูดความจริงค่ะ) ทำงานอะไร (ซึ่งเขาไม่ได้ทำงานประจำค่ะ เขาทำงานอิสระ หาเงินจากหลายๆทางค่ะ ซึ่งเราเองไม่ได้มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเขาตรงนี้เลยค่ะ ตราบใดถ้าเขาเป็นคนขยัน ทำในสิ่งที่รัก เราพร้อมสนับสนุนเขาเสมอค่ะ)

แต่สิ่งที่เราได้ยินจากแม่คือ แม่บอกว่า "หนูใจเย็นๆนะ หนูไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนั้น หนูยังเจอกับคนที่ตรงสเปคหนูอีกมาก เพียงแค่หนูไม่มีโอกาสที่จะเจอต่างหาก คนหน้าตาดีที่เขาพร้อมจะดูแลหนูในวัยเดียวกับพี่เขาก็มีอีกเยอะ ให้โอกาสตัวเองอีกสักหน่อยนะ แม่รู้สึกไม่ชอบเขาเลย (แม่ยังไม่เคยเจอเขาเลยนะคะ แต่แม่บอกแล้วว่าไม่ชอบ) ยังไงอย่าไปให้ความหวังเขามาก หาจังหวะตีตัวออกห่างมาดีกว่า"  เราได้ยินแบบนี้ถึงกับจุกไปไม่เป็นเลยค่ะ เราไม่ได้เตรียมตัวมาจะได้ยินคำนี้ เราแค่คาดหวังว่าแม่เราจะเปิดใจไปกับเราและดีใจไปกับเราที่เรามีความสุขและเจอคนที่ดี เราไม่เคยคิดว่าจะบอกเลิกคุยหรือตีตัวออกห่างจากเขาเลยค่ะ อย่างที่บอกเราไม่ได้สนใจสเปคที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว  แต่หันมาสนใจในความรู้สึกตัวเอง เปิดใจให้กว้างกับเขา สนับสนุนในสิ่งที่เขาทำ รักในสิ่งที่เขาเป็น เรายืนยันว่าเขาเป็นคนไม่ซับซ้อน มองโลกจากความจริง จริงใจ มีความติดดิน ถ่อมตัว ตลกและน่ารักมากๆค่ะ หลังจากนั้นเราจึงเน้นย้ำถามแม่เราว่า "แม่ไม่ชอบเขาเพราะอะไร เราลองมาคุยกันด้วยเหตุผลดีกว่าไหม สรุปแม่ไม่ชอบหน้าตาเขาหรอ" แม่เราตอบว่า "ใช่ เพราะหนูลดสเปคลงมาเยอะมาก ในรูปที่ส่งมาหัวก็ดูเถิกๆ มันไม่ใช่อะ หนูใจเย็นๆ ยังไงก็ลองเปิดโอกาสดูใหม่นะ"

เราอยากรู้ว่าการตัดสินใจของเรามันทำให้คนที่บ้านผิดหวังมากขนาดนี้เลยหรอคะ หรือเขาแค่เป็นห่วงเรื่องการงานของผู้ชาย แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว ไม่น่าจะใช่ประเด็นเรื่องการงานและรายได้ค่ะ แต่น่าจะอยู่ที่เรื่องรูปลักษณ์มากกว่า 

เรารู้สึกว่าการที่เราเจอเขาครั้งนี้ มันเป็นอะไรที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นกับเราหลังจากที่เดทกับผู้ชาบต่างชาติเสมอมา เขาทำให้เรารู้สึกดีใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้มากๆ ซึ่งมันแตกต่างไปจากเดิมมากแต่เรามีความสุขมากเช่นกันค่ะ  ประเด็นคือตอนนี้คนที่บ้านไม่ยินดีกับเราเลย เราควรจะเริ่มจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดีคะ ใครพอจะแชร์ความคิดเห็นได้ ช่วยชี้ทางให้เราหน่อยนะคะ 

ขอบพระคุณมากนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่