ก่อนจะลงรายละเอียด ขอแสดง ความรู้สึก เสียใจ ต่อ เหตุการณ์ ครั้งนี้เป็นอย่างสูง
ที่ตั้งกระทู้ เพื่อ ตั้งข้อสังเกต เเละ ปรึกษา หาแนวทางการให้ข่าว ครับ
เพราะ ข่าวใน คราวเเรก มี ความหวัง ว่า ทั้งสามคนที่ ถูกดินถล่ม น่าจะยังมีชีวิต แต่ สุดท้าย เสียชีวิต ทั้งหมด
เเละ จากการชันสูตร พบว่า เสียชีวิต มานานแล้ว( แต่ ข่าว ยังบอกว่า พบ สัญญาณชีพ มาตลอด จนกระทั่งพบถึงตัว )
เเละ มาให้ข่าวว่า ที่พบ สัญญาณชีพ คือ พบเเต่ การเคลื่อนไหว ที่ อาจจะ เกิดจาก อะไรอื่นที่ไม่ใช่คนทำ/ร่างกายคนเกิดการเปลี่ยนแปลง
ปล.
1.ไม่ได้ต่อว่า การช่วยเหลือ ล่าช้า/ไม่เก่ง
2.การให้ข่าว แบบให้ความหวัง คล้ายกับ WHITE LIE ที่ หมอบางคน..พูด ให้ความหวังญาติ ว่า รอ ปาฎิหารย์.... หรือไม่
( แต่พูด แบบหมอ ตอนเห็นคนป่วย ไม่เหมือน กับ ครั้งนี้ ที่ไม่เห็นคน)
3.ยอมรับว่า การเข้า กู้ภัย ความปลอดภัยของผู้เข้าไปช่วย ต้องมาก่อนผู้ประสพภัย ( ไม่ใช่เอาคนไปเสี่ยงเพิ่ม )
.............................
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่อุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จากเหตุดินถล่มทับคนงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ได้พบผู้ประสบภัยซึ่งเสียชีวิตแล้ว 1 ราย
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตรายแรกที่พบนั้นขณะนี้ได้ส่งไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชฯ แล้วเพื่อต้องการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตและพิสูจน์อัตลักษณ์ต่างๆ เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ซึ่งทราบว่ารายแรกที่พบนั้นพบร่างอยู่ภายนอกรถบรรทุกซึ่งอาจจะเกิดจากการที่หนีออกมาในขณะที่ดินถล่มลงมา ก่อนที่จะมาหลบอยู่ใต้รถบรรทุก
เนื่องจากรถบรรทุกที่พบนั้นอยู่ในสภาพเอียงประมาณ 45 องศา ก่อนที่ผู้ประสบภัยรายแรกที่พบนั้นจะขาดอากาศหายใจ ขาดน้ำและอาหารจนทำให้เสียชีวิต
ทั้งนี้ สำหรับสัญญาณชีพนั้น ล่าสุดตนได้สอบถามกับทีมแพทย์ทราบว่าเครื่องที่ใช้จับสัญญาณชีพดังกล่าวบอกได้เพียงการเคลื่อนไหว
ซึ่งอาจจะเป็นดิน หิน หรือแม้แต่ร่างกายที่เปลี่ยนสภาพไป ไม่ใช่บ่งบอกว่ายังมีสัญญาณชีพอยู่
ดังนั้นจึงอยากจะให้เปลี่ยนจากคำว่าสัญญาณชีพเป็นสัญญาณการเคลื่อนไหวมากกว่า
จึงยืนยันไม่ได้ว่าผู้ประสบภัยทั้ง 2 รายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เพราะรายแรกที่พบก็จับสัญญาณการเคลื่อนไหวได้เช่นกัน ทำให้คิดว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่แท้จริงนั้นเป็นสภาพกล้ามเนื้อภายในร่างกายที่เปลี่ยนไปเท่านั้น
.....................................................
วันนี้ (30 ส.ค.2567) มีรายงานว่า เมื่อเวลา 06.10 น. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยืนยันเบื้องต้นว่า
ได้รับแจ้งจากทีมค้นหาในอุโมงค์ .. เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า ผู้ประสบภัยอีก 2 คนเสียชีวิตแล้ว
โดยไม่ห่างจากจุดที่พบศพแรกไปเมื่อวานนี้ รวมผู้ประสบเหตุเสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา 1 คน และชาวจีน 2 คน
คือ นายหูเสียงหมิ่น ผู้ควบคุมงาน และนายตงชิ่นหลิน คนขับรถแบคโฮ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ถอนกำลังและรื้อเต็นท์ ซึ่งใช้ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวออกแล้ว
จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกู้และลำเลียงศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่งชันสูตรต่อไป
.......................................
ขอแสดงความเสียใจ อีกครั้ง ครับ
สรุป สุดท้าย
1.ไม่ได้ มาตามหาว่า ใครเป็นคน ใช้คำไทย ว่า. สัญญาณชีพ...เป็น...สัญญาณการเคลื่อนไหว .
และ ถ้าเป็น ข่าว ต่างประเทศ ที่ใช้ ภาษาอังกฤษ เขา จะใช้คำไหน / หรือ ใช้คำตรงๆ ( ผม เดาว่า เขาใช้คำตรงๆ ถูกมั้ย) และ
2.ขอถาม นักวิทย์ว่า นอกจาก การตรวจ ความเคลื่อนไหว มี วิธีอื่นอีกมั้ย ที่จะ ตรวจคนที่ถูกฝังในดิน/หิมะ/เรือ ( ไม่ใช่จมน้ำ ). ว่า ยังไม่เสียชีวิตครับ
ขอบคุณ ครับ
คุณคิดว่า จากข่าว อุโมงถล่มที่โคราช ว่า ตรวจพบ สัญญาณชีพ ต่อไป ควรเปลี่ยนคำใหม่ เป็น พบความเคลื่อนไหวอาจจะยัง...
ที่ตั้งกระทู้ เพื่อ ตั้งข้อสังเกต เเละ ปรึกษา หาแนวทางการให้ข่าว ครับ
เพราะ ข่าวใน คราวเเรก มี ความหวัง ว่า ทั้งสามคนที่ ถูกดินถล่ม น่าจะยังมีชีวิต แต่ สุดท้าย เสียชีวิต ทั้งหมด
เเละ จากการชันสูตร พบว่า เสียชีวิต มานานแล้ว( แต่ ข่าว ยังบอกว่า พบ สัญญาณชีพ มาตลอด จนกระทั่งพบถึงตัว )
เเละ มาให้ข่าวว่า ที่พบ สัญญาณชีพ คือ พบเเต่ การเคลื่อนไหว ที่ อาจจะ เกิดจาก อะไรอื่นที่ไม่ใช่คนทำ/ร่างกายคนเกิดการเปลี่ยนแปลง
ปล.
1.ไม่ได้ต่อว่า การช่วยเหลือ ล่าช้า/ไม่เก่ง
2.การให้ข่าว แบบให้ความหวัง คล้ายกับ WHITE LIE ที่ หมอบางคน..พูด ให้ความหวังญาติ ว่า รอ ปาฎิหารย์.... หรือไม่
( แต่พูด แบบหมอ ตอนเห็นคนป่วย ไม่เหมือน กับ ครั้งนี้ ที่ไม่เห็นคน)
3.ยอมรับว่า การเข้า กู้ภัย ความปลอดภัยของผู้เข้าไปช่วย ต้องมาก่อนผู้ประสพภัย ( ไม่ใช่เอาคนไปเสี่ยงเพิ่ม )
.............................
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่อุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จากเหตุดินถล่มทับคนงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ได้พบผู้ประสบภัยซึ่งเสียชีวิตแล้ว 1 ราย
นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตรายแรกที่พบนั้นขณะนี้ได้ส่งไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชฯ แล้วเพื่อต้องการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตและพิสูจน์อัตลักษณ์ต่างๆ เพื่อยืนยันตัวบุคคล
ซึ่งทราบว่ารายแรกที่พบนั้นพบร่างอยู่ภายนอกรถบรรทุกซึ่งอาจจะเกิดจากการที่หนีออกมาในขณะที่ดินถล่มลงมา ก่อนที่จะมาหลบอยู่ใต้รถบรรทุก
เนื่องจากรถบรรทุกที่พบนั้นอยู่ในสภาพเอียงประมาณ 45 องศา ก่อนที่ผู้ประสบภัยรายแรกที่พบนั้นจะขาดอากาศหายใจ ขาดน้ำและอาหารจนทำให้เสียชีวิต
ทั้งนี้ สำหรับสัญญาณชีพนั้น ล่าสุดตนได้สอบถามกับทีมแพทย์ทราบว่าเครื่องที่ใช้จับสัญญาณชีพดังกล่าวบอกได้เพียงการเคลื่อนไหว
ซึ่งอาจจะเป็นดิน หิน หรือแม้แต่ร่างกายที่เปลี่ยนสภาพไป ไม่ใช่บ่งบอกว่ายังมีสัญญาณชีพอยู่
ดังนั้นจึงอยากจะให้เปลี่ยนจากคำว่าสัญญาณชีพเป็นสัญญาณการเคลื่อนไหวมากกว่า
จึงยืนยันไม่ได้ว่าผู้ประสบภัยทั้ง 2 รายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เพราะรายแรกที่พบก็จับสัญญาณการเคลื่อนไหวได้เช่นกัน ทำให้คิดว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่แท้จริงนั้นเป็นสภาพกล้ามเนื้อภายในร่างกายที่เปลี่ยนไปเท่านั้น
.....................................................
วันนี้ (30 ส.ค.2567) มีรายงานว่า เมื่อเวลา 06.10 น. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยืนยันเบื้องต้นว่า
ได้รับแจ้งจากทีมค้นหาในอุโมงค์ .. เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า ผู้ประสบภัยอีก 2 คนเสียชีวิตแล้ว
โดยไม่ห่างจากจุดที่พบศพแรกไปเมื่อวานนี้ รวมผู้ประสบเหตุเสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา 1 คน และชาวจีน 2 คน
คือ นายหูเสียงหมิ่น ผู้ควบคุมงาน และนายตงชิ่นหลิน คนขับรถแบคโฮ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ถอนกำลังและรื้อเต็นท์ ซึ่งใช้ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวออกแล้ว
จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกู้และลำเลียงศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่งชันสูตรต่อไป
.......................................
ขอแสดงความเสียใจ อีกครั้ง ครับ
สรุป สุดท้าย
1.ไม่ได้ มาตามหาว่า ใครเป็นคน ใช้คำไทย ว่า. สัญญาณชีพ...เป็น...สัญญาณการเคลื่อนไหว .
และ ถ้าเป็น ข่าว ต่างประเทศ ที่ใช้ ภาษาอังกฤษ เขา จะใช้คำไหน / หรือ ใช้คำตรงๆ ( ผม เดาว่า เขาใช้คำตรงๆ ถูกมั้ย) และ
2.ขอถาม นักวิทย์ว่า นอกจาก การตรวจ ความเคลื่อนไหว มี วิธีอื่นอีกมั้ย ที่จะ ตรวจคนที่ถูกฝังในดิน/หิมะ/เรือ ( ไม่ใช่จมน้ำ ). ว่า ยังไม่เสียชีวิตครับ
ขอบคุณ ครับ