ถ้าเป็นงานศิลปะ ออม คือ modern art หลิงหลิง คือ classic art
“เป็นจุดจบของสิ่งหนึ่ง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่ง”
ขอยืมคำพูดของหลิงหลิง มาอธิบายบรรยากาศใน
Standard Pop รายการสัมภาษณ์แนว deep talk
เมื่อซีรีย์จบลง ทั้งสอง landing ใกล้ปิดจ๊อบ แต่ยังคงความสัมพันธ์ที่สวยงาม
โดยส่วนตัว เราชอบกริยาของออมในรายการนี้ อาจเพราะป่วย ทำให้ออมดูมีสมาธิ
และเคารพในตัวหลิงหลิง
การเปิดเผยความใน เป็น sign ที่น่าจะฟันธงได้ถึงมุมมอง
ทั้งสองน่าจะแยกย้ายไปทำอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่คงไว้ซึ่งความทรงจำที่ดี
สำหรับประสพการณ์อันมีค่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในคำตอบว่า อีก 20 ปีข้างหน้าอยากบอกอีกฝ่าย "ถ้าว่างอย่าลืมนัดพี่ทานข้าวนะ"
แสดงว่า เขาไม่ได้มองอนาคต ว่าต้องเดินบนเส้นทางเดียวกันเสมอไป
และพวกเขายืนยันว่าสบายใจที่ได้แสดงความรักต่อกันในอีเว้นท์และรายการต่างๆ
ตราบเท่าที่เคารพพื้นที่ส่วนตัว
เราเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมผลงานฝีมือการแสดง
โดยไม่มีอคติว่านักแสดงมีความสัมพันธ์กันแบบใด
ละครเรื่องหนึ่งอาจพังได้ ถ้านำคู่จิ้นจากเรื่องหนึ่ง มาไว้ในอีกเรื่องที่บริบทเปลี่ยนไป
แต่หากมีโอกาส พวกเขาก็อาจโคจรมาเจอกัน
ทั้งสองคน จึงน่าจะแยกย้าย ไปทำสิ่งที่ท้าทายมากขึ้น เป็น key person ขององค์กร
ละครเรื่องนี้ ถือเป็นก้าวที่กล้า ทำให้สถานะนักแสดง (รวมถึงค่าตัวศิลปิน) ของทั้งสองคนเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ไม่ใช่แค่ฝีมือทางการแสดง แต่รวมถึงความงามอันเป็นที่ประจักษ์ ในสไตล์ของตัวเอง
ในภาพรวม มองว่า ใจซ่อนรัก คือ ละครที่เปิดเกมส์ ให้กับอาชีพนักแสดงของทั้งสองคน
ออม ชอบเพลงที่ความหมายดี “My Love, Mine, All Mine”
ซึ่งท่อนฮุก มีเนื้อร้องถึงผู้ที่มีความรักแต่ไม่ครอบครอง
เนื้อร้องบรรยาย เหมือนรักพระจันทร์ บนฟ้า…
ทุกอย่างมีนานมา และจะมีต่อไป
แม้ในวันที่ไม่มีตัวฉัน พระจันทร์ก็จะยังคงอยู่
“Cause my love is mine, all mine
เพราะความรักของฉันเป็นของฉัน ทั้งหมด (ไม่ต้องแบ่งใคร)
I love, my, my, mine
ฉันรัก..ของฉัน..ของของฉัน
Nothing in the world belongs to me
แม้ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ เป็นของฉัน
But my love, mine, all mine, all mine
แต่ความรักของฉัน เป็นของฉัน”
ดังนั้น จะสุขหรือทุกข์ สมหวังหรือไม่ ความรักก็เป็นของคนคนนั้น
สุขใจที่ได้รัก โดยไม่ต้องร้องขอให้อีกฝ่ายต้องมาช่วยแบกความรู้สึก
เป็นเพลงของนักรักที่ดูเท่ห์มาก
ตอนหนึ่ง หลิงหลิงกล่าวว่า "ตอนที่คนรอบข้างให้กำลังใจ (รวมถึงให้อภัย) ก็ยังสงสัยในความสามารถของตัวเองอยู่ดี"
ความเห็นนี้ดีนะ มันทำให้เราไม่ตกอยู่ในอิทธิพลของสังคมมากเกินไป สุดท้าย เราคือผู้ที่ตอบตัวเองได้ดีที่สุด
รีวิว LingOrm's Time Capsule, The Standard Pop
“เป็นจุดจบของสิ่งหนึ่ง แต่เป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลายสิ่ง”
ขอยืมคำพูดของหลิงหลิง มาอธิบายบรรยากาศใน
Standard Pop รายการสัมภาษณ์แนว deep talk
เมื่อซีรีย์จบลง ทั้งสอง landing ใกล้ปิดจ๊อบ แต่ยังคงความสัมพันธ์ที่สวยงาม
โดยส่วนตัว เราชอบกริยาของออมในรายการนี้ อาจเพราะป่วย ทำให้ออมดูมีสมาธิ
และเคารพในตัวหลิงหลิง
การเปิดเผยความใน เป็น sign ที่น่าจะฟันธงได้ถึงมุมมอง
ทั้งสองน่าจะแยกย้ายไปทำอะไรอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่คงไว้ซึ่งความทรงจำที่ดี
สำหรับประสพการณ์อันมีค่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในคำตอบว่า อีก 20 ปีข้างหน้าอยากบอกอีกฝ่าย "ถ้าว่างอย่าลืมนัดพี่ทานข้าวนะ"
แสดงว่า เขาไม่ได้มองอนาคต ว่าต้องเดินบนเส้นทางเดียวกันเสมอไป
และพวกเขายืนยันว่าสบายใจที่ได้แสดงความรักต่อกันในอีเว้นท์และรายการต่างๆ
ตราบเท่าที่เคารพพื้นที่ส่วนตัว
เราเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมผลงานฝีมือการแสดง
โดยไม่มีอคติว่านักแสดงมีความสัมพันธ์กันแบบใด
ละครเรื่องหนึ่งอาจพังได้ ถ้านำคู่จิ้นจากเรื่องหนึ่ง มาไว้ในอีกเรื่องที่บริบทเปลี่ยนไป
แต่หากมีโอกาส พวกเขาก็อาจโคจรมาเจอกัน
ทั้งสองคน จึงน่าจะแยกย้าย ไปทำสิ่งที่ท้าทายมากขึ้น เป็น key person ขององค์กร
ละครเรื่องนี้ ถือเป็นก้าวที่กล้า ทำให้สถานะนักแสดง (รวมถึงค่าตัวศิลปิน) ของทั้งสองคนเพิ่มขึ้นอีกขั้น
ไม่ใช่แค่ฝีมือทางการแสดง แต่รวมถึงความงามอันเป็นที่ประจักษ์ ในสไตล์ของตัวเอง
ในภาพรวม มองว่า ใจซ่อนรัก คือ ละครที่เปิดเกมส์ ให้กับอาชีพนักแสดงของทั้งสองคน
ออม ชอบเพลงที่ความหมายดี “My Love, Mine, All Mine”
ซึ่งท่อนฮุก มีเนื้อร้องถึงผู้ที่มีความรักแต่ไม่ครอบครอง
เนื้อร้องบรรยาย เหมือนรักพระจันทร์ บนฟ้า…
ทุกอย่างมีนานมา และจะมีต่อไป
แม้ในวันที่ไม่มีตัวฉัน พระจันทร์ก็จะยังคงอยู่
“Cause my love is mine, all mine
เพราะความรักของฉันเป็นของฉัน ทั้งหมด (ไม่ต้องแบ่งใคร)
I love, my, my, mine
ฉันรัก..ของฉัน..ของของฉัน
Nothing in the world belongs to me
แม้ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ เป็นของฉัน
But my love, mine, all mine, all mine
แต่ความรักของฉัน เป็นของฉัน”
ดังนั้น จะสุขหรือทุกข์ สมหวังหรือไม่ ความรักก็เป็นของคนคนนั้น
สุขใจที่ได้รัก โดยไม่ต้องร้องขอให้อีกฝ่ายต้องมาช่วยแบกความรู้สึก
เป็นเพลงของนักรักที่ดูเท่ห์มาก
ตอนหนึ่ง หลิงหลิงกล่าวว่า "ตอนที่คนรอบข้างให้กำลังใจ (รวมถึงให้อภัย) ก็ยังสงสัยในความสามารถของตัวเองอยู่ดี"
ความเห็นนี้ดีนะ มันทำให้เราไม่ตกอยู่ในอิทธิพลของสังคมมากเกินไป สุดท้าย เราคือผู้ที่ตอบตัวเองได้ดีที่สุด