...การตัดสินใจย้ายสตอรี่มาไว้ที่ไทยทั้งหมดตั้งแต่ต้นเรื่อง
ซึ่งทำให้ต้องเขียนเนื้อเรื่องใหม่ เสมือนเขียนนิยายใหม่ขึ้นมาอีกเรื่องเลย แทนที่นิยายต้นฉบับเรื่องเดิม
ซึ่งถ้าทำได้ดีก็ดีไป แต่ถ้าทำไม่ไหว ก็ไม่ควรฝืนมั้ยคะ
(แถมพอเขียนยังคุมคาแรคเตอร์ของตัวละครให้เหมือนในนิยายเดิมไม่ได้อีก
เพราะเหตุการณ์เหตุผลที่ใส่มามันไปคนละทาง
ตัวละครคนเดิมจะไม่มีทางคิด ตัดสินใจ พูด ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบที่เขียนขึ้นใหม่
มันเลยต้องกลายตัวละครใหม่ คนละคนกันกับคนในนิยายเป็นคนทำแทน)
ทำไมตั้งแต่แรกไม่ลองคิดถึงวิธีการแบบละครสมัยก่อน คือ หาโลถ่ายหลอกเอา
ปรับบทเท่าที่จำเป็น ฉากไหนไม่จำเป็นต้อง outdoor ปรับเป็นถ่าย indoor หรือใช้มุมแคบ
แต่ให้เนื้อเรื่องและตัวละครยังอยู่ตปท. ยังเรียนหนังสือ ทำงาน ใช้ชีวิตอย่างที่เคยทำ
เซ็ตห้องเซ็ตร้านอาหารให้เป็นบ้าน, ห้องพัก, ร้านเมืองนอกไม่น่ายากนะ
สมัยนี้ร้านอาหารสิ่งก่อสร้างที่ดูคล้ายอิตาลี(หรือสวิส)ในไทยมีเยอะไปหมด
บอกเหตุผลประกอบเหมือนกับที่ให้ในตอนนี้(งบประมาณและปัญหาโควิด)คนดูก็น่าจะเข้าใจ
ส่วนที่ไปได้ก็ใช้เฉพาะถ่าย outdoor ที่จำเป็นกับเนื้อเรื่องให้คุ้มค่า
สถานที่เท่าที่เราเห็นไปในช่วง 2 ep แรก บริหารดีๆ มันพอกับฉากหลักๆ ในเรื่องอยู่
อย่างฉากสรุจพาชีวันไปวาดรูป สรุจประสบอุบัติเหตุไหล่หลุด ถ่ายกรินเดอร์วัลด์แทนโดโลมิติได้
(แล้วตอนดูแลคนเจ็บในห้องพัก ค่อยเก็บมาถ่ายเมืองไทย)
ฉากเขียนรูปอื่นๆ ใช้ตรงไหนก็ได้ Lake Brienz สะพาน Iseltwald แถว interlaken (ที่เห็นไปถ่ายกันมาได้ แปลว่าไม่ปิด) น่าจะใช้ได้หมด
เพราะชีวันเห็นอะไรสวยก็อยากวาดจนเป็นนิสัย สรุจถึงจีบด้วยการซื้อกระดาษวาดรูปให้ แล้วรอสาวส่งเป็นโปสการ์ดมาให้คนที่รัก
ฉากเล่นดนตรีให้ฟัง และฉากอื่นๆ ก็กระจายไปที่ละนิดละหน่อย อิตาลีในนิยายมันปรับโลเป็นประเทศอื่นได้หมดอยู่แล้ว
เป็น indoor เป็นมุมแคบได้เกือบหมดจริงๆ เพราะตัวเรื่องไม่ได้ตั้งใจเป็นไพรัชนิยายแบบท่องเที่ยวขนาดปวรรุจหรือรัตนาวดี
เป็นนิยายคนใช้ชีวิตที่นั่น ฉากมันอยู่ในบ้านในอาคารเสียเยอะอยู่
ใช้สองอาทิตย์ที่ไปเก็บเฉพาะ outdoor ให้มันได้ภาพกระจายไปสัก 10-12 ep รวมๆ ไปกับที่ถ่ายในประเทศแต่เซ็ตให้เป็นตปท.
ไม่น่าเกินความสามารถกองถ่ายเมืองไทยหรอก
ตอนปวรรุจ(หรือเรื่องอื่นๆ) เนื้อเรื่องช่วงที่อยู่ตปท.ก็ไม่ได้ถ่ายตปท.ทุกฉากเหมือนกัน ฉากในบ้านในอาคารก็กลับมาถ่ายเมืองไทยทั้งนั้น
นี่ไปตั้งสองอาทิตย์ถ่ายมาใช้แค่ 2 ep (หรืออาจอีกสักครึ่งอีพีหรือเบรกนึงตอนท้าย) น้อยไปหรือเปล่า
ที่จริงก็เทละครไปนานแล้ว แต่เห็นภาพในคอนแล้วเสียดายแทนเด็ก
เก้าอาจยังเล่นละครแข็งๆ แต่กายภาพเค้าดี ถ้าได้บทนิ่งๆขรึมๆแต่นุ่มลึกอย่างในนิยาย
+ได้ผกก.เคี่ยวดีๆ มันจะกลบจุดอ่อนชูจุดแข็งเค้าได้ดีมาก
เหมือนเทศน์กับไมกี้ ตัวจริงเด็กแต่กายภาพดี บทก็มีส่วนช่วยให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้
ส่วนพีพี ตอนพรหมลิขิต น้องเล่นน่ารักน่าเอ็นดูมาก
เรื่องนี้บท(ในนิยาย)คล้ายกัน แต่มีรายละเอียดและความลึกซึ้งที่เพิ่มขึ้น เพราะขยับจากบทสมทบมาเป็นตลคหลัก
น่าจะได้ฉายแสง แสดงฝีมือกว่านี้ ไม่ใช่วนไปวนมาด้วยบทที่... นสดเองก็คงทำค.เข้าใจตลค.ยาก
คนดูจะรักก็รักไม่ไหวจะเกลียดก็เกลียดไม่ลงแบบนี้
...คิดอยู่นานว่าจะเขียนกระทู้ดีหรือเปล่า เดี๋ยวจะถูกหาว่าตามกระแส มีจุดประสงค์แอบแฝง ด่าเกินเบอร์ ฯลฯ
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งแท้ๆ
แต่อยากส่งฟีดแบคให้ถึงทางผู้จัด, ค่ายละคร และช่องจริงๆ
ละครดีๆ ของค่ายของช่อง เราก็เขียนกระทู้ชมเป็นกำลังใจไปแล้ว
แต่ถ้าจะชมอย่างเดียว ผิดพลาดแล้วไม่ชี้ให้เห็น ไม่ท้วงติงกันบ้าง มันก็ไม่ใช่คนที่รักกันจริง จริงไหมคะ
พรชีวัน จุดผิดพลาดที่สุด อาจจะเป็น....
ซึ่งทำให้ต้องเขียนเนื้อเรื่องใหม่ เสมือนเขียนนิยายใหม่ขึ้นมาอีกเรื่องเลย แทนที่นิยายต้นฉบับเรื่องเดิม
ซึ่งถ้าทำได้ดีก็ดีไป แต่ถ้าทำไม่ไหว ก็ไม่ควรฝืนมั้ยคะ
(แถมพอเขียนยังคุมคาแรคเตอร์ของตัวละครให้เหมือนในนิยายเดิมไม่ได้อีก
เพราะเหตุการณ์เหตุผลที่ใส่มามันไปคนละทาง
ตัวละครคนเดิมจะไม่มีทางคิด ตัดสินใจ พูด ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบที่เขียนขึ้นใหม่
มันเลยต้องกลายตัวละครใหม่ คนละคนกันกับคนในนิยายเป็นคนทำแทน)
ทำไมตั้งแต่แรกไม่ลองคิดถึงวิธีการแบบละครสมัยก่อน คือ หาโลถ่ายหลอกเอา
ปรับบทเท่าที่จำเป็น ฉากไหนไม่จำเป็นต้อง outdoor ปรับเป็นถ่าย indoor หรือใช้มุมแคบ
แต่ให้เนื้อเรื่องและตัวละครยังอยู่ตปท. ยังเรียนหนังสือ ทำงาน ใช้ชีวิตอย่างที่เคยทำ
เซ็ตห้องเซ็ตร้านอาหารให้เป็นบ้าน, ห้องพัก, ร้านเมืองนอกไม่น่ายากนะ
สมัยนี้ร้านอาหารสิ่งก่อสร้างที่ดูคล้ายอิตาลี(หรือสวิส)ในไทยมีเยอะไปหมด
บอกเหตุผลประกอบเหมือนกับที่ให้ในตอนนี้(งบประมาณและปัญหาโควิด)คนดูก็น่าจะเข้าใจ
ส่วนที่ไปได้ก็ใช้เฉพาะถ่าย outdoor ที่จำเป็นกับเนื้อเรื่องให้คุ้มค่า
สถานที่เท่าที่เราเห็นไปในช่วง 2 ep แรก บริหารดีๆ มันพอกับฉากหลักๆ ในเรื่องอยู่
อย่างฉากสรุจพาชีวันไปวาดรูป สรุจประสบอุบัติเหตุไหล่หลุด ถ่ายกรินเดอร์วัลด์แทนโดโลมิติได้
(แล้วตอนดูแลคนเจ็บในห้องพัก ค่อยเก็บมาถ่ายเมืองไทย)
ฉากเขียนรูปอื่นๆ ใช้ตรงไหนก็ได้ Lake Brienz สะพาน Iseltwald แถว interlaken (ที่เห็นไปถ่ายกันมาได้ แปลว่าไม่ปิด) น่าจะใช้ได้หมด
เพราะชีวันเห็นอะไรสวยก็อยากวาดจนเป็นนิสัย สรุจถึงจีบด้วยการซื้อกระดาษวาดรูปให้ แล้วรอสาวส่งเป็นโปสการ์ดมาให้คนที่รัก
ฉากเล่นดนตรีให้ฟัง และฉากอื่นๆ ก็กระจายไปที่ละนิดละหน่อย อิตาลีในนิยายมันปรับโลเป็นประเทศอื่นได้หมดอยู่แล้ว
เป็น indoor เป็นมุมแคบได้เกือบหมดจริงๆ เพราะตัวเรื่องไม่ได้ตั้งใจเป็นไพรัชนิยายแบบท่องเที่ยวขนาดปวรรุจหรือรัตนาวดี
เป็นนิยายคนใช้ชีวิตที่นั่น ฉากมันอยู่ในบ้านในอาคารเสียเยอะอยู่
ใช้สองอาทิตย์ที่ไปเก็บเฉพาะ outdoor ให้มันได้ภาพกระจายไปสัก 10-12 ep รวมๆ ไปกับที่ถ่ายในประเทศแต่เซ็ตให้เป็นตปท.
ไม่น่าเกินความสามารถกองถ่ายเมืองไทยหรอก
ตอนปวรรุจ(หรือเรื่องอื่นๆ) เนื้อเรื่องช่วงที่อยู่ตปท.ก็ไม่ได้ถ่ายตปท.ทุกฉากเหมือนกัน ฉากในบ้านในอาคารก็กลับมาถ่ายเมืองไทยทั้งนั้น
นี่ไปตั้งสองอาทิตย์ถ่ายมาใช้แค่ 2 ep (หรืออาจอีกสักครึ่งอีพีหรือเบรกนึงตอนท้าย) น้อยไปหรือเปล่า
ที่จริงก็เทละครไปนานแล้ว แต่เห็นภาพในคอนแล้วเสียดายแทนเด็ก
เก้าอาจยังเล่นละครแข็งๆ แต่กายภาพเค้าดี ถ้าได้บทนิ่งๆขรึมๆแต่นุ่มลึกอย่างในนิยาย
+ได้ผกก.เคี่ยวดีๆ มันจะกลบจุดอ่อนชูจุดแข็งเค้าได้ดีมาก
เหมือนเทศน์กับไมกี้ ตัวจริงเด็กแต่กายภาพดี บทก็มีส่วนช่วยให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นได้