ขอเกริ่นก่อนว่าผมเป็นหนึ่งในทีมกรรมการที่เข้ามาบริหารหมู่บ้าน
จากที่ประชุมใหญ่ครั้งแรกของหมู่บ้านตั้งแต่ 11 มิถุนายน 2566
โดยเข้ามาทำด้วยไฟเต็มเปี่ยม
โดย ณ วันนั้นนิติที่บริหารเป็นบริษัทที่ถูกสรรหามาโดยโครงการ
ทีมกรรมการพยายามขอข้อมูลต่าง ๆ เพิ่อมาตรวจสอบ
เช่น
- งบการเงิน งบการดำเนินงาน
- เอกสารสัญญา
- งบประมาณการใช้เงิน
และอื่นๆที่ต้องตรวจสอบ
แต่คำตอบที่ได้คือ ไม่มี ให้ไม่ได้ ติดPDPA
รวมถึงอ้างต่างๆนานา ว่าการจดจัดตั้งนิติยังไม่เสร็จสิ้น ทีมกรรมการยังไม่มีอำนาจมาสั่งการใดๆ
พอถามเยอะเข้าก็โดนว่า ว่ามาจู้จี้จุกจิก
ทีมกรรมการก็อดทนจนจดจัดตั้งนิติบุคคลเสร็จช่วงเตือนตุลาคม
ทีมเลยจัดทำหนังสือเพื่อขอเปลี่ยนบริษัทบริหารนิติโดยยื่นไปยังบริษัท N.
โดยข้อสาเหตุหลัก ๆ ที่ขอเปลี่ยนคือ
พบว่าบริหารนิติมีการโกงเงินค่าฉีดปลวก โดยเก็บเงินลูกบ้านไปแต่ไม่จ่ายให้บริษัทฉีดปลวก
มีการเก็บค่าหัวคิวผู้รับเหมาต่อเติม
แต่คำตอบคือ เปลี่ยนไม่ได้ ไม่ให้เปลี่ยนเดี่ยวเกิดภาวะสุญญากาศนะ ส่วนเรื่องโกงเขาก็เปลี่ยนคนแล้วหนิ
ทางกรรมการก็ได้มีชี้แจงว่าไม่ต้องกังวลสุญญากาศ เราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ถ้ากังวลเรื่องสุญญากาศเรื่องไหนก็แจ้งมา
จะได้เตรียมให้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องโกงก็ได้แต่โมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พอคุยไปได้สักพัก เถียงไปมา ข้อสรุปสุดท้ายคือ "การจดรับรองกรรมการยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นคุณไม่มีอำนาจเปลี่ยนบริษัทนิติ"
ก็งง ๆ กันไป แล้วที่เราได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่เดือน มิถุนายน พยายามทำเพื่อหมู่บ้านมาครึ่งปีคืออะไร
ก็เลยต้องทนต่อไปและเฝ้ารอว่าจะจดกรรมการเสร็จเมื่อไร
จนถึงเดือนมีนาคมปี 2567 ก็จดชื่อกรรมการเสร็จ! (ไม่รู้ทำไมกรมที่ดินถึงใช้เวลาจดกรรมการนานขนาดนี้)
พอได้ชื่อกรรมการปุ๊บก็ส่งหนังสือขอเปลี่ยนบริษัทบริหารนิติอีก
คำตอบคือ "ไม่ได้ ต้องรอโอนสาธารณูปโภค ก่อนเดี๋ยวเกิด สุญญากาศ"
จังหวะนั้นคือโมโห มากๆ อ้างสุญญากาศ อ้างไปเรื่อย จนเริ่มคิดแล้วว่ามันผิดปกติเกินไป
ทีมกรรมการเลยต้องสรรหาบริษัทนิติใหม่ แต่เป็นสัญญาจ้างปรึกษาเรื่องโอนสาธารณูปโภค
เพราะตอนนั้นกรรมการยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องงบใดเลย ยังไม่ได้ List ว่ารายจ่ายใดหักผิดหักถูกไหม
เอาเงินของหมู่บ้านไปใช้ผิดปกติหรือไม่
N. ก็ตอบว่าเดี๋ยวโอนสาธาเสร็จค่อยมาตรวจสอบเรื่อยๆก็ได้ ถ้าเจอตรงไหนผิดปกติ N. พร้อมชี้แจง
เลยมีการประชุมเพื่อทำ MOU เกี่ยวกับการโอนสาธารณูปโภค ขั้นมาคือ
1.ต้องเปลี่ยนบริษัทนิติ
2.ต้องซ่อมบำรุงสาธารณูปโภค ของส่วนกลางให้เรียบร้อยก่อน
3.และข้อตกลงอื่นๆเช่นให้ตั้งป้ายโฆษณาได้
แต่จะมีอยู่เรื่องนึงคือค่าใช้จ่ายที่ N. เอาเงินส่วนกลางไปจ่าย
โดยตอนนั้นเจอเพียงค่าซื้ออุปกรณ์สำนักงาน พวกคอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้
ทีมกรรมการกับที่ปรึกษาก็บอกไปว่า ของพวกนี้ใช้เงินส่วนกลางซื้อไม่ได้นะ มันไม่ตรงเงื่อนไขที่จะเอาเงินมาใช้ได้
ก็เถียงกันจน N. บอกว่าเดี๋ยวให้ที่ปรึกษาของ N. List มาให้ว่ามีค่าใช้จ่ายตัวไหนบ้างที่เอาเงินส่วนกลางหักไม่ได้
แจ้งทีมกรรมการภายใน 11 เมษา และทีมกรรมการต้องตอบกลับ
ตามรูป
สรุปแล้วที่ปรึกษาของ N. ก็ส่งมาแต่พวกซื้ออุปกรณ์สำนักงาน พวกคอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้เท่านั้น
และหลังจากนั้นก็มีเถียงกันเรื่อยมาถึงปัจจุบันว่าสรุปแล้วเอาเงินไปใช้ได้หรือไม่
แต่หลังวันที่ 24 เมษา จะมีเรื่องการใช้เงินโดย N. ไปอีก 2 เดือน (กันเงินส่วนกลางไปใช้จ่ายพวกสัญญาจ้างต่างๆในช่วงคาบเกี่ยว)
แล้วก็เจอว่ามีค่าใช้จ่ายแปลกๆโผล่ขึ้นมา เช่น ค่าซ่อมสาธา ซ่อมโน้นนั่นนี้
ก็เลยเน้นย้ำบริษัทนิติใหม่ให้ตรวจดีๆ
โดยมีการส่ง List กลับไปให้ N. เพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าสินทรัพย์ที่เคยคุยกัน ไปในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567
โดยมี List ดังนี้
โดยพยายามขอคำชี้แจ้งไป โดยบอกว่าอันไหนมั่นใจว่าหักได้ก็ตอบกลับมา แล้วก็มาคุยกัน
N. ก็เงียบหายไปเกือบเดือน แล้วก็ตอบกลับมาว่า
"ค่าใช้จ่ายพวกนี้ ทีมกรรมการเพิ่งจะมาแจ้งหลังวันที่ 24 เมษานะ เพราะงั้นเราจะไม่ตอบ ไม่ชี้แจง"
อ่าว! หน้าชาสิ
ปัจจุบันก็ยังหาทางออกกับเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่รู้จะฟ้องร้องดีไหม
แต่ส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกรมที่ดินแล้ว
เพื่อนๆพันทิปมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างครับ
ค่าใช้จ่ายที่เราเจอ สรุปแล้วเอาเงินส่วนกลางของหมู่บ้านไปจ่ายได้หรือไม่
โดยรายจ่ายพวกนี้เกิดขึ้นก่อนการจัดตั้งนิติ โดยกฎหมายกำหนดให้ใช้ได้เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น
ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 43
แต่อย่างไรก็ตาม ขอเตือนทีมกรรมการ ไม่ว่าจะซื้อบ้านกับเจ้านี้ หรือเจ้าอื่น
ตรวจสอบงบให้เสร็จ ก่อนรับโอนสาธารณูปโภค เท่านั้นกันนะครับ
จะได้ไม่โดนแบบพวกเรา
[CR] โอนสาธารณูปโภค กับบริษัท N.
จากที่ประชุมใหญ่ครั้งแรกของหมู่บ้านตั้งแต่ 11 มิถุนายน 2566
โดยเข้ามาทำด้วยไฟเต็มเปี่ยม
โดย ณ วันนั้นนิติที่บริหารเป็นบริษัทที่ถูกสรรหามาโดยโครงการ
ทีมกรรมการพยายามขอข้อมูลต่าง ๆ เพิ่อมาตรวจสอบ
เช่น
- งบการเงิน งบการดำเนินงาน
- เอกสารสัญญา
- งบประมาณการใช้เงิน
และอื่นๆที่ต้องตรวจสอบ
แต่คำตอบที่ได้คือ ไม่มี ให้ไม่ได้ ติดPDPA
รวมถึงอ้างต่างๆนานา ว่าการจดจัดตั้งนิติยังไม่เสร็จสิ้น ทีมกรรมการยังไม่มีอำนาจมาสั่งการใดๆ
พอถามเยอะเข้าก็โดนว่า ว่ามาจู้จี้จุกจิก
ทีมกรรมการก็อดทนจนจดจัดตั้งนิติบุคคลเสร็จช่วงเตือนตุลาคม
ทีมเลยจัดทำหนังสือเพื่อขอเปลี่ยนบริษัทบริหารนิติโดยยื่นไปยังบริษัท N.
โดยข้อสาเหตุหลัก ๆ ที่ขอเปลี่ยนคือ
พบว่าบริหารนิติมีการโกงเงินค่าฉีดปลวก โดยเก็บเงินลูกบ้านไปแต่ไม่จ่ายให้บริษัทฉีดปลวก
มีการเก็บค่าหัวคิวผู้รับเหมาต่อเติม
แต่คำตอบคือ เปลี่ยนไม่ได้ ไม่ให้เปลี่ยนเดี่ยวเกิดภาวะสุญญากาศนะ ส่วนเรื่องโกงเขาก็เปลี่ยนคนแล้วหนิ
ทางกรรมการก็ได้มีชี้แจงว่าไม่ต้องกังวลสุญญากาศ เราเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ถ้ากังวลเรื่องสุญญากาศเรื่องไหนก็แจ้งมา
จะได้เตรียมให้ดีขึ้น
ส่วนเรื่องโกงก็ได้แต่โมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พอคุยไปได้สักพัก เถียงไปมา ข้อสรุปสุดท้ายคือ "การจดรับรองกรรมการยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นคุณไม่มีอำนาจเปลี่ยนบริษัทนิติ"
ก็งง ๆ กันไป แล้วที่เราได้รับแต่งตั้งมาตั้งแต่เดือน มิถุนายน พยายามทำเพื่อหมู่บ้านมาครึ่งปีคืออะไร
ก็เลยต้องทนต่อไปและเฝ้ารอว่าจะจดกรรมการเสร็จเมื่อไร
จนถึงเดือนมีนาคมปี 2567 ก็จดชื่อกรรมการเสร็จ! (ไม่รู้ทำไมกรมที่ดินถึงใช้เวลาจดกรรมการนานขนาดนี้)
พอได้ชื่อกรรมการปุ๊บก็ส่งหนังสือขอเปลี่ยนบริษัทบริหารนิติอีก
คำตอบคือ "ไม่ได้ ต้องรอโอนสาธารณูปโภค ก่อนเดี๋ยวเกิด สุญญากาศ"
จังหวะนั้นคือโมโห มากๆ อ้างสุญญากาศ อ้างไปเรื่อย จนเริ่มคิดแล้วว่ามันผิดปกติเกินไป
ทีมกรรมการเลยต้องสรรหาบริษัทนิติใหม่ แต่เป็นสัญญาจ้างปรึกษาเรื่องโอนสาธารณูปโภค
เพราะตอนนั้นกรรมการยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องงบใดเลย ยังไม่ได้ List ว่ารายจ่ายใดหักผิดหักถูกไหม
เอาเงินของหมู่บ้านไปใช้ผิดปกติหรือไม่
N. ก็ตอบว่าเดี๋ยวโอนสาธาเสร็จค่อยมาตรวจสอบเรื่อยๆก็ได้ ถ้าเจอตรงไหนผิดปกติ N. พร้อมชี้แจง
เลยมีการประชุมเพื่อทำ MOU เกี่ยวกับการโอนสาธารณูปโภค ขั้นมาคือ
1.ต้องเปลี่ยนบริษัทนิติ
2.ต้องซ่อมบำรุงสาธารณูปโภค ของส่วนกลางให้เรียบร้อยก่อน
3.และข้อตกลงอื่นๆเช่นให้ตั้งป้ายโฆษณาได้
แต่จะมีอยู่เรื่องนึงคือค่าใช้จ่ายที่ N. เอาเงินส่วนกลางไปจ่าย
โดยตอนนั้นเจอเพียงค่าซื้ออุปกรณ์สำนักงาน พวกคอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้
ทีมกรรมการกับที่ปรึกษาก็บอกไปว่า ของพวกนี้ใช้เงินส่วนกลางซื้อไม่ได้นะ มันไม่ตรงเงื่อนไขที่จะเอาเงินมาใช้ได้
ก็เถียงกันจน N. บอกว่าเดี๋ยวให้ที่ปรึกษาของ N. List มาให้ว่ามีค่าใช้จ่ายตัวไหนบ้างที่เอาเงินส่วนกลางหักไม่ได้
แจ้งทีมกรรมการภายใน 11 เมษา และทีมกรรมการต้องตอบกลับ
ตามรูป
สรุปแล้วที่ปรึกษาของ N. ก็ส่งมาแต่พวกซื้ออุปกรณ์สำนักงาน พวกคอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตู้เท่านั้น
และหลังจากนั้นก็มีเถียงกันเรื่อยมาถึงปัจจุบันว่าสรุปแล้วเอาเงินไปใช้ได้หรือไม่
แต่หลังวันที่ 24 เมษา จะมีเรื่องการใช้เงินโดย N. ไปอีก 2 เดือน (กันเงินส่วนกลางไปใช้จ่ายพวกสัญญาจ้างต่างๆในช่วงคาบเกี่ยว)
แล้วก็เจอว่ามีค่าใช้จ่ายแปลกๆโผล่ขึ้นมา เช่น ค่าซ่อมสาธา ซ่อมโน้นนั่นนี้
ก็เลยเน้นย้ำบริษัทนิติใหม่ให้ตรวจดีๆ
โดยมีการส่ง List กลับไปให้ N. เพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าสินทรัพย์ที่เคยคุยกัน ไปในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567
โดยมี List ดังนี้
โดยพยายามขอคำชี้แจ้งไป โดยบอกว่าอันไหนมั่นใจว่าหักได้ก็ตอบกลับมา แล้วก็มาคุยกัน
N. ก็เงียบหายไปเกือบเดือน แล้วก็ตอบกลับมาว่า
"ค่าใช้จ่ายพวกนี้ ทีมกรรมการเพิ่งจะมาแจ้งหลังวันที่ 24 เมษานะ เพราะงั้นเราจะไม่ตอบ ไม่ชี้แจง"
อ่าว! หน้าชาสิ
ปัจจุบันก็ยังหาทางออกกับเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่รู้จะฟ้องร้องดีไหม
แต่ส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกรมที่ดินแล้ว
เพื่อนๆพันทิปมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้างครับ
ค่าใช้จ่ายที่เราเจอ สรุปแล้วเอาเงินส่วนกลางของหมู่บ้านไปจ่ายได้หรือไม่
โดยรายจ่ายพวกนี้เกิดขึ้นก่อนการจัดตั้งนิติ โดยกฎหมายกำหนดให้ใช้ได้เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น
ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 มาตรา 43
แต่อย่างไรก็ตาม ขอเตือนทีมกรรมการ ไม่ว่าจะซื้อบ้านกับเจ้านี้ หรือเจ้าอื่น
ตรวจสอบงบให้เสร็จ ก่อนรับโอนสาธารณูปโภค เท่านั้นกันนะครับ
จะได้ไม่โดนแบบพวกเรา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้