EP1
สวัสดีครับ คงไม่ต้องเกริ่นอะไรมากมาย วันนี้หลาย ๆ ท่านที่ได้ทำหน้าที่เป็นพ่อคนแม่คน คงจะผ่านประสบการณ์การเลี้ยงดูทารกน้อยกันมาบ้าง บางคนโชคดีหน่อยก็ผ่านช่วง 3 เดือน 6 เดือนมาได้อย่างสบาย หรือท่านใดพอมีทุนทรัพย์ ก็สามารถที่จะไหว้วานจ่ายค่าจ้างพี่เลี้ยงให้ช่วยดูแล เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากในการเลี้ยงดูทารกไปได้
เลี้ยงดูทารก มันยากลำบากยังไง?
ถ้าผู้อ่านยังไม่ได้เคยเป็นพ่อคนแม่คน ผมจะเล่าให้ฟัง...มันอาจเป็นประสบการณ์ที่ท่านต้องพบเจอในสักวันหากวางแผนจะมีลูกน้อย หรือไม่ได้ตั้งใจจะมี แต่เด็กเขาอยากจะเกิดมา
เริ่มจากช่วงที่ทราบว่า ภรรยาตั้งครรภ์ แม้จะเคยมีลูกสาวคนแรกและผ่านช่วงเวลาการเลี้ยงดูทารกจนปัจจุบันเข้าเรียนและช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แต่นั่นมันก็ 7-8 ปีมาแล้ว แถมตอนนั้น พี่เลี้ยงหรือแม่นมทั้งหลายก็พากันตื่นเต้น ผลัดกันเข้าเวรเพื่อเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยไม่ขาดสาย ผมซึ่งทำหน้าที่เป็นคุณพ่อ พอได้อุ้มได้เลี้ยงดูบ้าง หน้าที่ส่วนใหญ่เลยไปโฟกัสที่การทำงานหาเงินเป็นหัวหน้าครอบครัว แถมภรรยาก็ได้วันหยุด 3 เดือนหลังคลอด แทบไม่กระทบกระเทือนอะไรกับผมเท่าไร รู้ตัวอีกทีลูกผมก็เริ่มคลาน เริ่มเดินได้แล้ว แพมเพิสสักครั้งก็ยังไม่เคยเปลี่ยนให้เลย ได้อุ้มอยู่สองสามทีพี่เลี้ยงทั้งหลายที่เห็นท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ กลัวหลานจะหลุดมือ ก็เข้าชาร์จและให้ผมไปทำงานต่อ
ครั้งนี้แตกต่างออกไป หลังจากทำเรื่องฝากครรภ์ คุณหมอก็จะมีรอบการนัดตรวจเลือดคุณพ่อคุณแม่ และอัลตร้าซาวด์ดูความสมบูรณ์ของทารกน้อย เราวางแผนกันไว้แล้วว่า จะมีลูกอีกสักคนแล้วก็จะพากันปิดอู่ การเดินทางระหว่างฝากครรภ์ไปจนถึงการเลี้ยงดูจนทารกโตพอจะดูแลตัวเองได้ คงไม่ได้หนักหนาหรือแตกต่างอะไรจากครั้งแรก ผมตื่นเต้นนิดหน่อยช่วงที่กดบัตรคิวรออัลตร้าซาวด์ให้ภรรยา แต่ก็ไม่ได้คิดกังวลอะไรมาก จำได้ว่าหลังจากกดบัตรคิวเสร็จ ยังนั่งเล่นเกม ฟังเพลง ดูยูทูบอย่างสบายใจ
หลังจากภรรยาผมออกจากห้องอัลตร้าซาวด์ ก็เดินตรงปรี่มาหาผม ที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามันส์ ผมก็รีบถามถึงสถานการณ์ว่าลูกน้อยมีอะไรน่าเป็นห่วงไหม ซึ่งภรรยาผมดูเหมือนจะคาดหวังว่าผมจะเห็นความผิดสังเกตุจากการที่หมอและพยาบาลจำนวนนึงวิ่งเข้าวิ่งออกห้องอัลตร้าซาวด์ที่ภรรยาผมเข้าไปตรวจ และแน่นอน ผมแทบไม่ได้เงยหน้าเลยในช่วงเวลานั้น
"ได้ยินหมอคุยกันหรือเปล่าเมื่อกี้" ภรรยาผมพูดเสียงแตกตื่นมาก ผมรีบถอดหูฟัง วางมือถือลงและรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ในใจเสี้ยงนึงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้อยหลังจากอัลตร้าซาวด์หรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกตุดูภรรยาผมก็เข้าห้องไปนานอยู่เหมือนกัน แม้จะไม่แน่ใจว่านานขนาดไหน
"ไม่ได้ยินอะไรเลย เกิดอะไรขึ้น" ผมถาม
"หมอบอกว่าเราได้ลูกแฝด" ภรรยาผมพูด
"ห๊ะ ลูกแฝด" ผมกำลัง งง และตกใจ สมองยังไม่ทันได้แปลความหมายอะไร ภรรยาผมก็สะอึกสะอื้น ร้องไห้ออกมา
"ว่าจะมีลูกอีกแค่คนเดียว แต่ลูกดันมาแฝดเลย จะทำยังไงกับค่าใช้จ่าย ค่าเลี้ยงดู..." ภรรยาพูดไปร้องไห้ไป
ทุกอย่างดูเกิดขึ้นเร็วมาก ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลูกแฝด และแผนการเงินที่วางกันไว้ รวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ก็มีพอสำหรับเด็กหนึ่งคนเท่านั้น ไม่ทันไรก็มีพยาบาลนำใบนัดไปคลินิกพิเศษสำหรับฝากครรภ์แฝดมายื่นให้ และแจ้งภรรยาว่าสัปดาห์นี้ยังไม่มียาบำรุงอะไร รอนัดสัปดาห์หน้า
"เดี๋ยวคงมีหนทางแหละ..." ผมได้แค่ปลอบใจภรรยาและพาเธอกลับบ้าน
ระหว่างทางก็แชทคุยกับบรรดา พี่ ป้า น้า อา ที่รอฟังข่าวกันอยู่ ด้วยความคาดหวัง จริง ๆ ว่า จะพอทราบเพศของเจ้าตัวน้อย...
"ได้ลูกแฝดนะ ทุกคน แต่หมอยังไม่ฟันธงว่าเป็น เพศไหน..." ผมพิมพ์ไประหว่างรอรถแท็กซี่ ซึ่งตอนนั้นในหัวได้แต่วางแผนและสะสางความกังวลต่าง ๆ นา ๆ ในเรื่องการเลี้ยงดู และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทุกคนในกลุ่มแชทกลับดูตื่นเต้นและยินดีมาก ๆ ครอบครัวและญาติพี่น้องเราไม่เคยมีแฝด หรือหากมีก็เป็นรุ่นที่ไกลจากเรามาก ๆ บางคนก็โทรมาอาสาจะเป็นพี่เลี้ยงให้ ส่วนคุณย่าก็ดีใจเกินเบอร์พูดให้คนแถวบ้านตื่นเต้นกันไปด้วย
ถึงจุดนี้ผมก็ได้แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง ก็แค่เด็กที่เกิดมาพร้อมกันสองคน ค่าใช้จ่ายค่อยหาหนทางข้างหน้าเอา หนทางก็ยังอีกยาวไกล ผมจำเรื่องอายุครรภ์เป๊ะ ๆ ไม่ได้ แต่เหมือนช่วงนี้ยังอีกหลายเดือนกว่าทุกคนจะได้เจอเจ้าแฝดน้อย เวลาที่เหลือน่าจะพอเตรียมรับมือกับสิ่งที่เกินความคาดหมายนี้ได้บ้าง ผมลูบหัวภรรยา และจับมือเธอแน่น จนกระทั่งเดินทางถึงบ้าน
แชร์ประสบการณ์มีลูกแฝด EP.2
สวัสดีครับ คงไม่ต้องเกริ่นอะไรมากมาย วันนี้หลาย ๆ ท่านที่ได้ทำหน้าที่เป็นพ่อคนแม่คน คงจะผ่านประสบการณ์การเลี้ยงดูทารกน้อยกันมาบ้าง บางคนโชคดีหน่อยก็ผ่านช่วง 3 เดือน 6 เดือนมาได้อย่างสบาย หรือท่านใดพอมีทุนทรัพย์ ก็สามารถที่จะไหว้วานจ่ายค่าจ้างพี่เลี้ยงให้ช่วยดูแล เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากในการเลี้ยงดูทารกไปได้
เลี้ยงดูทารก มันยากลำบากยังไง?
ถ้าผู้อ่านยังไม่ได้เคยเป็นพ่อคนแม่คน ผมจะเล่าให้ฟัง...มันอาจเป็นประสบการณ์ที่ท่านต้องพบเจอในสักวันหากวางแผนจะมีลูกน้อย หรือไม่ได้ตั้งใจจะมี แต่เด็กเขาอยากจะเกิดมา
เริ่มจากช่วงที่ทราบว่า ภรรยาตั้งครรภ์ แม้จะเคยมีลูกสาวคนแรกและผ่านช่วงเวลาการเลี้ยงดูทารกจนปัจจุบันเข้าเรียนและช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แต่นั่นมันก็ 7-8 ปีมาแล้ว แถมตอนนั้น พี่เลี้ยงหรือแม่นมทั้งหลายก็พากันตื่นเต้น ผลัดกันเข้าเวรเพื่อเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยไม่ขาดสาย ผมซึ่งทำหน้าที่เป็นคุณพ่อ พอได้อุ้มได้เลี้ยงดูบ้าง หน้าที่ส่วนใหญ่เลยไปโฟกัสที่การทำงานหาเงินเป็นหัวหน้าครอบครัว แถมภรรยาก็ได้วันหยุด 3 เดือนหลังคลอด แทบไม่กระทบกระเทือนอะไรกับผมเท่าไร รู้ตัวอีกทีลูกผมก็เริ่มคลาน เริ่มเดินได้แล้ว แพมเพิสสักครั้งก็ยังไม่เคยเปลี่ยนให้เลย ได้อุ้มอยู่สองสามทีพี่เลี้ยงทั้งหลายที่เห็นท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ กลัวหลานจะหลุดมือ ก็เข้าชาร์จและให้ผมไปทำงานต่อ
ครั้งนี้แตกต่างออกไป หลังจากทำเรื่องฝากครรภ์ คุณหมอก็จะมีรอบการนัดตรวจเลือดคุณพ่อคุณแม่ และอัลตร้าซาวด์ดูความสมบูรณ์ของทารกน้อย เราวางแผนกันไว้แล้วว่า จะมีลูกอีกสักคนแล้วก็จะพากันปิดอู่ การเดินทางระหว่างฝากครรภ์ไปจนถึงการเลี้ยงดูจนทารกโตพอจะดูแลตัวเองได้ คงไม่ได้หนักหนาหรือแตกต่างอะไรจากครั้งแรก ผมตื่นเต้นนิดหน่อยช่วงที่กดบัตรคิวรออัลตร้าซาวด์ให้ภรรยา แต่ก็ไม่ได้คิดกังวลอะไรมาก จำได้ว่าหลังจากกดบัตรคิวเสร็จ ยังนั่งเล่นเกม ฟังเพลง ดูยูทูบอย่างสบายใจ
หลังจากภรรยาผมออกจากห้องอัลตร้าซาวด์ ก็เดินตรงปรี่มาหาผม ที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามันส์ ผมก็รีบถามถึงสถานการณ์ว่าลูกน้อยมีอะไรน่าเป็นห่วงไหม ซึ่งภรรยาผมดูเหมือนจะคาดหวังว่าผมจะเห็นความผิดสังเกตุจากการที่หมอและพยาบาลจำนวนนึงวิ่งเข้าวิ่งออกห้องอัลตร้าซาวด์ที่ภรรยาผมเข้าไปตรวจ และแน่นอน ผมแทบไม่ได้เงยหน้าเลยในช่วงเวลานั้น
"ได้ยินหมอคุยกันหรือเปล่าเมื่อกี้" ภรรยาผมพูดเสียงแตกตื่นมาก ผมรีบถอดหูฟัง วางมือถือลงและรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ในใจเสี้ยงนึงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้อยหลังจากอัลตร้าซาวด์หรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกตุดูภรรยาผมก็เข้าห้องไปนานอยู่เหมือนกัน แม้จะไม่แน่ใจว่านานขนาดไหน
"ไม่ได้ยินอะไรเลย เกิดอะไรขึ้น" ผมถาม
"หมอบอกว่าเราได้ลูกแฝด" ภรรยาผมพูด
"ห๊ะ ลูกแฝด" ผมกำลัง งง และตกใจ สมองยังไม่ทันได้แปลความหมายอะไร ภรรยาผมก็สะอึกสะอื้น ร้องไห้ออกมา
"ว่าจะมีลูกอีกแค่คนเดียว แต่ลูกดันมาแฝดเลย จะทำยังไงกับค่าใช้จ่าย ค่าเลี้ยงดู..." ภรรยาพูดไปร้องไห้ไป
ทุกอย่างดูเกิดขึ้นเร็วมาก ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ลูกแฝด และแผนการเงินที่วางกันไว้ รวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ก็มีพอสำหรับเด็กหนึ่งคนเท่านั้น ไม่ทันไรก็มีพยาบาลนำใบนัดไปคลินิกพิเศษสำหรับฝากครรภ์แฝดมายื่นให้ และแจ้งภรรยาว่าสัปดาห์นี้ยังไม่มียาบำรุงอะไร รอนัดสัปดาห์หน้า
"เดี๋ยวคงมีหนทางแหละ..." ผมได้แค่ปลอบใจภรรยาและพาเธอกลับบ้าน
ระหว่างทางก็แชทคุยกับบรรดา พี่ ป้า น้า อา ที่รอฟังข่าวกันอยู่ ด้วยความคาดหวัง จริง ๆ ว่า จะพอทราบเพศของเจ้าตัวน้อย...
"ได้ลูกแฝดนะ ทุกคน แต่หมอยังไม่ฟันธงว่าเป็น เพศไหน..." ผมพิมพ์ไประหว่างรอรถแท็กซี่ ซึ่งตอนนั้นในหัวได้แต่วางแผนและสะสางความกังวลต่าง ๆ นา ๆ ในเรื่องการเลี้ยงดู และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทุกคนในกลุ่มแชทกลับดูตื่นเต้นและยินดีมาก ๆ ครอบครัวและญาติพี่น้องเราไม่เคยมีแฝด หรือหากมีก็เป็นรุ่นที่ไกลจากเรามาก ๆ บางคนก็โทรมาอาสาจะเป็นพี่เลี้ยงให้ ส่วนคุณย่าก็ดีใจเกินเบอร์พูดให้คนแถวบ้านตื่นเต้นกันไปด้วย
ถึงจุดนี้ผมก็ได้แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง ก็แค่เด็กที่เกิดมาพร้อมกันสองคน ค่าใช้จ่ายค่อยหาหนทางข้างหน้าเอา หนทางก็ยังอีกยาวไกล ผมจำเรื่องอายุครรภ์เป๊ะ ๆ ไม่ได้ แต่เหมือนช่วงนี้ยังอีกหลายเดือนกว่าทุกคนจะได้เจอเจ้าแฝดน้อย เวลาที่เหลือน่าจะพอเตรียมรับมือกับสิ่งที่เกินความคาดหมายนี้ได้บ้าง ผมลูบหัวภรรยา และจับมือเธอแน่น จนกระทั่งเดินทางถึงบ้าน