โอโมดา แอนด์ เจคู (OMODA & JAECOO) แบรนด์รถยนต์ส่วนบุคคลผู้เล่นรายใหม่ในอุตสหกรรมยานยนต์โลก ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ที่เปิดตัวไปเมื่อเมษายนปีที่แล้ว ยังคงรักษาแชมป์แบรนด์ที่มียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดสะสมกว่า 284,872 คันทั่วโลก โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO มียอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกกว่า 20,184 คัน และถือเป็นเดือนที่สามติดต่อกันของปีนี้ที่ยอดขายรถยนต์ทะลุ 20,000 คันต่อเดือน
สหภาพยุโรปถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ท้าทายของแบรนด์ OMODA & JAECOO หลังจากที่ได้เปิดตัวในประเทศสเปนอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี ยอดขายรถยนต์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว โดยในเดือนกรกฎาคมมียอดขายถึง 1,018 คัน ในฐานะแบรนด์ใหม่ OMODA & JAECOO ชิงส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 1% ในเซกเมนต์รถยนต์ SUV C ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างสเปนไปได้ และถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ด้วยปริมาณการขายสะสม 3,636 คัน ทำให้ OMODA & JAECOO กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่คุณภาพของรถยนต์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังสะท้อนถึงความเข้าใจความต้องการของผู้ขับขี่ของแบรนด์และการก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง
“เดือนแห่งกีฬา” ที่ย้ำการเป็น “มากกว่ารถยนต์” ของ OMODA & JAECOO
ช่วงเดือนที่ผ่านมาถูกยกให้เป็น “เดือนแห่งกีฬา” OMODA & JAECOO จึงได้ปล่อยแคมเปญ “Go Paris” โดย OMODA & JAECOO ในประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ทั้งสเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ ร่วมกันจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ “Brand Night” จัดป็อปอัพสโตร์ใต้หอไอเฟล ฉลองความยิ่งใหญ่ของมหานครที่เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลกเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ในปี 1924 และ 100 ปีถัดมาในปี 2024
ท่ามกลางการแข่งขันกีฬาระดับโลกครั้งนี้ อินฟลูเอนเซอร์มากมายจากทุกวงการทั้ง แฟชั่น เทคโนโลยี รถยนต์ ได้ขับขี่รถยนต์สามรุ่นดาวเด่น “OMODA 5 – OMODA C5 EV – JAECOO 7 PHEV” เดินทางกว่า 5,000 กิโลเมตร ทั่วพื้นทวีปยุโรป เพื่อไปสัมผัสประสบการณ์ในสถานที่ทรงคุณค่า หรือการตั้งแคมป์ทำกิจกรรมสุดเหวี่ยง ชิมไวน์ พายคายัค เล่นพาราไกลดิ้ง ย้ำภาพรถยนต์และแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ของ OMODA & JAECOO
และในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ยังได้ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “Goodwood Festival of Speed” ในสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับเกียรติจาก His Grace the Duke of Richmond Frederick ตัดริบบิ้นเปิดตัวแบรนด์ JAECOO แบรนด์ซีรีส์รถยนต์ออฟโรดพรีเมียมซึ่งเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในยุโรปของแบรนด์อีกด้วย ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งที่ประเทศแอฟริกาใต้ OMODA & JAECOO ได้ร่วมเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขัน “Extreme Fighting Championship – EFC” หรือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแอฟริกาอีกด้วย
กิจกรรมต่าง ๆ ของ OMODA & JAECOO ตลอดช่วง “เดือนแห่งกีฬา” ที่ผ่านมา ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์เติบโตขึ้น บนพื้นฐานแนวคิดที่ว่า “เป็นมากกว่ารถยนต์ (More Than Cars)” ทำให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายทั่วโลกที่เป็นการผสมผสานระหว่าง “กีฬา” และ “การเคลื่อนที่” ให้เข้ากันอย่างลงตัว ด้วยการนำกิจกรรมกีฬามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้น
นอกจาก OMODA & JAECOO จะการกระชับความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่ทั่วโลกผ่านกิจกรรมกีฬาแล้ว ยังได้จัด “Global User Summit” ประจำปีด้วย โดยกิจกรรมในปีนี้จะจัดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มสรรหาและคัดเลือกผู้ขับขี่ที่มีเรื่องราวโดดเด่นจากทั่วโลกแล้ว ผู้ชนะจะต้องนำเสนอมุมมองของแบรนด์ที่เปิดกว้าง และส่งต่อคุณค่าระบบนิเวศไลฟ์สไตล์ E-LOHAS ผ่านประสบการณ์ของตัวเองด้วย
เปิดประตู “ยุโรป” กับเป้าหมายการเป็นแบรนด์ระดับโลก ของ OMODA & JAECOO
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ไม่เพียงแต่เห็นปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเผยโฉมกับทุกคนไปทั่วโลกพร้อม ๆ กับการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยในเดือนนี้ได้จัดงานเปิดตัวแบรนด์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมให้บริการ “เต็มรูปแบบ” ในอิตาลี ซึ่งได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญหลายคนร่วมงาน อาทิ Sergio Gaddi สมาชิกสภาแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy Regional) Francesco Vassallo รองนายกเทศมนตรีเมืองมิลาน อย่างไรก็ตาม อิตาลีถือเป็นอีกตลาดสำคัญในยุโรปของ OMODA & JAECOO รองจากสเปนและโปแลนด์ และยังเป็นประเทศที่สร้างการยอมรับในระดับสากลให้กับบริษัทยานยนต์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ OMODA & JAECOO เติบโตขึ้นตลาดโลก
นอกเหนือจากการเปิดตัวในตลาดยุโรปด้วยการได้รับรองมาตรฐานขั้นสูงของยุโรปแล้ว OMODA & JAECOO ยังประสบความสำเร็จในหลายมิติ อาทิ การเปิดตัวแบรนด์และเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในหลายประเทศ ทั้งซาอุดีอาระเบีย คูเวต และมาเลเซีย ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การเปิดโชว์รูมแห่งแรกบนความร่วมมือระหว่าง OMODA & JAECOO กับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นชื่อดังอย่าง “CFAO” ในโมร็อกโก ที่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่เพื่อการพัฒนาแบรนด์ OMODA & JAECOO ในแอฟริกา
จากความพยายามในการเข้าสู่ตลาดยุโรปที่มีกฎระเบียบสูง หรือการขยายแบรนด์ไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงหลายแห่งทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OMODA & JAECOO ที่จะพร้อมเผชิญกับการแข่งขันในตลาดยานยนต์นานาชาติ และพร้อมให้ตรวจสอบอย่างเปิดเผยในตลาดโลก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้ง OMODA & JAECOO แบรนด์ได้ใช้ “มาตรฐานสากล” ที่เข้มงวดในการผลิตมาโดยตลอดเพื่อสร้าง “คุณภาพระดับโลก” ซึ่งรถยนต์ระดับโลกรุ่นแรกของแบรนด์ “OMODA 5” ได้รับการรับรองระดับ 5 ดาวจาก E-NCAP ในยุโรป และ A-NCAP ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสองใบรับรองความปลอดภัยรถยนต์ใหม่ที่เชื่อถือได้และเข้มงวดที่สุดทั่วโลก ในขณะที่ “OMODA 7” ซึ่งเป็นโมเดลระดับโลกรุ่นที่สองของซีรีส์ OMODA ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในปีนี้ กำลังจะเข้ารับการทดสอบอุณหภูมิสูง (Extremely High-temperature Test) ในเมืองถูหลู่ฟาน (Turpan) หรือที่รู้จักในชื่อ “Furnace of a place” การทดสอบนี้ Shawn Xu ซีอีโอของแบรนด์ จะเข้าร่วมการทดสอบด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของแบรนด์ต่อความแข็งแกร่งของรถรุ่นใหม่ และความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในตลาดโลกด้วยคุณภาพที่เต็มเปี่ยมไร้ที่ติ
จากจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งแบรนด์ OMODA & JAECOO ได้กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการก้าวสู่ระดับโลก โดยแบรนด์ตะหนักว่าการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกนั้นจะต้องอาศัยความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งในอนาคต OMODA & JAECOO จะเร่งยกระดับผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตที่มีอยู่ การจัดการระบบอุปทาน และอื่น ๆ อีกมากมาย ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละพื้นที่ ตอบแทนลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นเรื่อยไป พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลก ทั้งนี้ OMODA & JAECOO ตั้งตารอที่จะมีช่วงเวลาสุดพิเศษร่วมกับผู้ขับขี่ทั่วโลกในงาน OMODA & JAECOO Global User Summit ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ได้เปิดราคารถ OMODA C5 EV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยราคา 899,000 บาท สำหรับรุ่นย่อย Long Range Plus และราคา 949,000 บาท สำหรับรุ่นย่อย Long Range Ultimate และเปิดตัว JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า เวอร์ชันพวงมาลัยขวา ครั้งแรกในโลก ไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา มี 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ JAECOO 6 EV Long Range 2WD ราคาคาดการณ์ 1,099,000 บาท และ JAECOO 6 EV Long Range 4WD ราคาคาดการณ์ 1,249,000 บาท สำหรับลูกค้าชาวไทยที่ผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่และจองรถทั้ง 2 รุ่น ได้แล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของ OMODA & JAECOO ทั้ง 25 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย หรือพบกับรถทั้ง 2 รุ่น ได้ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น G โซน B ในวันที่ 22 – 28 สิงหาคมนี้ กับโปรโมชันและของสมนาคุณสุดพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง พร้อมมั่นใจได้กับบริการหลังการขายที่ครอบคลุมครบวงจรของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ต่อไป
โอโมดา แอนด์ เจคู ทะยานไม่หยุด เผยยอดขายเดือนกรกฎาคม 20,184 คันทั่วโลก
โอโมดา แอนด์ เจคู (OMODA & JAECOO) แบรนด์รถยนต์ส่วนบุคคลผู้เล่นรายใหม่ในอุตสหกรรมยานยนต์โลก ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน ที่เปิดตัวไปเมื่อเมษายนปีที่แล้ว ยังคงรักษาแชมป์แบรนด์ที่มียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยยอดสะสมกว่า 284,872 คันทั่วโลก โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO มียอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกกว่า 20,184 คัน และถือเป็นเดือนที่สามติดต่อกันของปีนี้ที่ยอดขายรถยนต์ทะลุ 20,000 คันต่อเดือน
สหภาพยุโรปถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ท้าทายของแบรนด์ OMODA & JAECOO หลังจากที่ได้เปิดตัวในประเทศสเปนอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี ยอดขายรถยนต์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว โดยในเดือนกรกฎาคมมียอดขายถึง 1,018 คัน ในฐานะแบรนด์ใหม่ OMODA & JAECOO ชิงส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 1% ในเซกเมนต์รถยนต์ SUV C ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างสเปนไปได้ และถือเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ด้วยปริมาณการขายสะสม 3,636 คัน ทำให้ OMODA & JAECOO กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่คุณภาพของรถยนต์ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังสะท้อนถึงความเข้าใจความต้องการของผู้ขับขี่ของแบรนด์และการก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง
“เดือนแห่งกีฬา” ที่ย้ำการเป็น “มากกว่ารถยนต์” ของ OMODA & JAECOO
ช่วงเดือนที่ผ่านมาถูกยกให้เป็น “เดือนแห่งกีฬา” OMODA & JAECOO จึงได้ปล่อยแคมเปญ “Go Paris” โดย OMODA & JAECOO ในประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ทั้งสเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ ร่วมกันจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ “Brand Night” จัดป็อปอัพสโตร์ใต้หอไอเฟล ฉลองความยิ่งใหญ่ของมหานครที่เคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับโลกเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ในปี 1924 และ 100 ปีถัดมาในปี 2024
ท่ามกลางการแข่งขันกีฬาระดับโลกครั้งนี้ อินฟลูเอนเซอร์มากมายจากทุกวงการทั้ง แฟชั่น เทคโนโลยี รถยนต์ ได้ขับขี่รถยนต์สามรุ่นดาวเด่น “OMODA 5 – OMODA C5 EV – JAECOO 7 PHEV” เดินทางกว่า 5,000 กิโลเมตร ทั่วพื้นทวีปยุโรป เพื่อไปสัมผัสประสบการณ์ในสถานที่ทรงคุณค่า หรือการตั้งแคมป์ทำกิจกรรมสุดเหวี่ยง ชิมไวน์ พายคายัค เล่นพาราไกลดิ้ง ย้ำภาพรถยนต์และแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ของ OMODA & JAECOO
และในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ยังได้ร่วมงานมหกรรมยานยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “Goodwood Festival of Speed” ในสหราชอาณาจักร ซึ่งได้รับเกียรติจาก His Grace the Duke of Richmond Frederick ตัดริบบิ้นเปิดตัวแบรนด์ JAECOO แบรนด์ซีรีส์รถยนต์ออฟโรดพรีเมียมซึ่งเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในยุโรปของแบรนด์อีกด้วย ขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งที่ประเทศแอฟริกาใต้ OMODA & JAECOO ได้ร่วมเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขัน “Extreme Fighting Championship – EFC” หรือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแอฟริกาอีกด้วย
กิจกรรมต่าง ๆ ของ OMODA & JAECOO ตลอดช่วง “เดือนแห่งกีฬา” ที่ผ่านมา ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์เติบโตขึ้น บนพื้นฐานแนวคิดที่ว่า “เป็นมากกว่ารถยนต์ (More Than Cars)” ทำให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายทั่วโลกที่เป็นการผสมผสานระหว่าง “กีฬา” และ “การเคลื่อนที่” ให้เข้ากันอย่างลงตัว ด้วยการนำกิจกรรมกีฬามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้น
นอกจาก OMODA & JAECOO จะการกระชับความสัมพันธ์กับผู้ขับขี่ทั่วโลกผ่านกิจกรรมกีฬาแล้ว ยังได้จัด “Global User Summit” ประจำปีด้วย โดยกิจกรรมในปีนี้จะจัดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มสรรหาและคัดเลือกผู้ขับขี่ที่มีเรื่องราวโดดเด่นจากทั่วโลกแล้ว ผู้ชนะจะต้องนำเสนอมุมมองของแบรนด์ที่เปิดกว้าง และส่งต่อคุณค่าระบบนิเวศไลฟ์สไตล์ E-LOHAS ผ่านประสบการณ์ของตัวเองด้วย
เปิดประตู “ยุโรป” กับเป้าหมายการเป็นแบรนด์ระดับโลก ของ OMODA & JAECOO
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา OMODA & JAECOO ไม่เพียงแต่เห็นปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเผยโฉมกับทุกคนไปทั่วโลกพร้อม ๆ กับการแข่งขันกีฬาระดับโลก โดยในเดือนนี้ได้จัดงานเปิดตัวแบรนด์อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมให้บริการ “เต็มรูปแบบ” ในอิตาลี ซึ่งได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญหลายคนร่วมงาน อาทิ Sergio Gaddi สมาชิกสภาแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy Regional) Francesco Vassallo รองนายกเทศมนตรีเมืองมิลาน อย่างไรก็ตาม อิตาลีถือเป็นอีกตลาดสำคัญในยุโรปของ OMODA & JAECOO รองจากสเปนและโปแลนด์ และยังเป็นประเทศที่สร้างการยอมรับในระดับสากลให้กับบริษัทยานยนต์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ OMODA & JAECOO เติบโตขึ้นตลาดโลก
นอกเหนือจากการเปิดตัวในตลาดยุโรปด้วยการได้รับรองมาตรฐานขั้นสูงของยุโรปแล้ว OMODA & JAECOO ยังประสบความสำเร็จในหลายมิติ อาทิ การเปิดตัวแบรนด์และเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในหลายประเทศ ทั้งซาอุดีอาระเบีย คูเวต และมาเลเซีย ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา การเปิดโชว์รูมแห่งแรกบนความร่วมมือระหว่าง OMODA & JAECOO กับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นชื่อดังอย่าง “CFAO” ในโมร็อกโก ที่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่เพื่อการพัฒนาแบรนด์ OMODA & JAECOO ในแอฟริกา
จากความพยายามในการเข้าสู่ตลาดยุโรปที่มีกฎระเบียบสูง หรือการขยายแบรนด์ไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงหลายแห่งทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OMODA & JAECOO ที่จะพร้อมเผชิญกับการแข่งขันในตลาดยานยนต์นานาชาติ และพร้อมให้ตรวจสอบอย่างเปิดเผยในตลาดโลก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้ง OMODA & JAECOO แบรนด์ได้ใช้ “มาตรฐานสากล” ที่เข้มงวดในการผลิตมาโดยตลอดเพื่อสร้าง “คุณภาพระดับโลก” ซึ่งรถยนต์ระดับโลกรุ่นแรกของแบรนด์ “OMODA 5” ได้รับการรับรองระดับ 5 ดาวจาก E-NCAP ในยุโรป และ A-NCAP ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสองใบรับรองความปลอดภัยรถยนต์ใหม่ที่เชื่อถือได้และเข้มงวดที่สุดทั่วโลก ในขณะที่ “OMODA 7” ซึ่งเป็นโมเดลระดับโลกรุ่นที่สองของซีรีส์ OMODA ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในปีนี้ กำลังจะเข้ารับการทดสอบอุณหภูมิสูง (Extremely High-temperature Test) ในเมืองถูหลู่ฟาน (Turpan) หรือที่รู้จักในชื่อ “Furnace of a place” การทดสอบนี้ Shawn Xu ซีอีโอของแบรนด์ จะเข้าร่วมการทดสอบด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของแบรนด์ต่อความแข็งแกร่งของรถรุ่นใหม่ และความมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในตลาดโลกด้วยคุณภาพที่เต็มเปี่ยมไร้ที่ติ
จากจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งแบรนด์ OMODA & JAECOO ได้กำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการก้าวสู่ระดับโลก โดยแบรนด์ตะหนักว่าการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกนั้นจะต้องอาศัยความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งในอนาคต OMODA & JAECOO จะเร่งยกระดับผลิตภัณฑ์ในสายการผลิตที่มีอยู่ การจัดการระบบอุปทาน และอื่น ๆ อีกมากมาย ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละพื้นที่ ตอบแทนลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นเรื่อยไป พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ทั่วโลก ทั้งนี้ OMODA & JAECOO ตั้งตารอที่จะมีช่วงเวลาสุดพิเศษร่วมกับผู้ขับขี่ทั่วโลกในงาน OMODA & JAECOO Global User Summit ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ได้เปิดราคารถ OMODA C5 EV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยราคา 899,000 บาท สำหรับรุ่นย่อย Long Range Plus และราคา 949,000 บาท สำหรับรุ่นย่อย Long Range Ultimate และเปิดตัว JAECOO 6 EV รถออฟโรดพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า เวอร์ชันพวงมาลัยขวา ครั้งแรกในโลก ไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา มี 2 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ JAECOO 6 EV Long Range 2WD ราคาคาดการณ์ 1,099,000 บาท และ JAECOO 6 EV Long Range 4WD ราคาคาดการณ์ 1,249,000 บาท สำหรับลูกค้าชาวไทยที่ผู้สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่และจองรถทั้ง 2 รุ่น ได้แล้ววันนี้ ที่ผู้จำหน่ายทั่วประเทศของ OMODA & JAECOO ทั้ง 25 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย หรือพบกับรถทั้ง 2 รุ่น ได้ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น G โซน B ในวันที่ 22 – 28 สิงหาคมนี้ กับโปรโมชันและของสมนาคุณสุดพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่จอง พร้อมมั่นใจได้กับบริการหลังการขายที่ครอบคลุมครบวงจรของโอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ต่อไป