มหากาพย์​โดนนอกใจ​ กลับตัวก็ไม่ได้กลับใจก็ไม่ทัน

กระทู้นี้สำหรับคนที่ว่างนะคะเพราะน่าจะร่ายยาว~~
จริงๆอยากระบายค่ะ... 

เราคบกับแฟนมา​ ตั้งแต่​ม.6 (2018) เราใช้เวลาคุยกับเค้า​
8-9 เดือน​ จริงๆ​ ก็เจอหน้าและทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย​ เพราะอยู่ห้องเดียวกัน​ ช่วงนั้นเราอกหักเรามีแฟนเป็นรุ่นพี่​ที่เขาไปคุยกับคนใหม่​ ซึ่งแฟนคนปัจจุบันเขาก็โดนแฟนทิ้ง​  เราไม่รู้อะไรดลใจให้เขามาจีบเราเราก็คุยๆช่วงแรก​ ยอมรับไม่คิดอะไร​ ด้วยความที่เจอกันตลอดและยังเป็นวัยรุ่น​ เราก็คิดว่าเออ​ เขาก็ดูโอเค​ ดูจริงใจดี​  เลยตกลงคบกัน​ช่วงนั้นเรียนจบพอดี​ ก็เลือกเรียนมหาลัยที่เดียวกัน​  เขาเรียนครุศาสตร์​  เราเรียน​มนุษยศาสตร์​ ช่วง​ 1-2​ ปีแรกอะไรมันก็ดีไปหมด​ ถึงจะมีทะเลาะบ้างแค่มันไปต่อได้​ มันมองเห็นอนาคตร่วมกันคนนี้แหละน่าจะคือคนที่ใช่... มาช่วงจะปี​ 2 เราก็ตัดสินใจเช่าอยู่หอเดียวกัน​ พ่อแม่เรารู้ทั้งสองฝ่าย​ แต่ด้วยความที่โรงเรียนเดิมมันเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก​ นร.​ น้อยกว่า​ 200​ คน​

ช่วงขึ้นมหาลัยแฟนเราเริ่มอยากทำความรู้จักๆกัยหลายๆคน​  เขาดูตื่นเต้นไปกับทุกๆอย่าง​ ไอเราก็คิดว่าอืมคงธรรมดา​ เพราะเราก็พึ่งจะออกจากกรอบ​ ช่วงนั้นเขาเริ่มทำความรู้จักไปหมด​ จากเพื่อนในห้อง​ สู่สายรหัส​ รวมไปถึง​ทุกคนในสาขา​ ตั้งแต่​ ปี1 ยันปี5 ยอมรับว่าช่วงนั้นเราก็เริ่มมีทะเลาะบ้างตามประสา​ แล้วช่วงนั้นเราเอาแต่ใจ​ ค่อนข้างจะงี่เง่าเลยก็ว่าได้​ออารมณ์​แบบว่าเธอต้องอยู่ในสายตาเรา​ เราห้ามนุ่นนี่​ เราคิดว่าคงเพราะจุดนี้แหละถึงอาจทำให้แฟนเราเปลี่ยนไป
แรกๆทะเลาะกันมันก็เคลียร์​ได้นะ​เพราะอยู่ด้วยกัน​ แต่ก็มีทะเลาะกันเรื่อยๆ​ พอนานวันเข้าจากที่เขาไม่เที่ยวก็เที่ยวกลางคืนตลอดถ้ามีโอกาส​  ด้วยความที่เราเป็นคนขี้โมโหเราก็จะเช็คทุกช่องทางเพื่อติดตามแฟน​ เลยทำให้แฟนเราอึดอัด​  แต่เราก็ประคับประคองกันมาได้จนปี​ 3 เราเพิ่มความรักด้วยการไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด​ ทำกิจกรรมหลายอย่างด้วยกัน​ ส่วนทะเลาะมันก็มีปกติ... 

จนปี 3  พ่อแม่เราทั้งสองก็ให้หมั้นกัน​ (จริงๆเรื่องนี้เรามีปัญหากับครอบครัวเรารู้สึกว่าเป็นการเร่งรีบเกินไป​ แต่เราขัดคำสั่งไม่ได้)​ เรากับแฟนก็ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน​ ยอมรับเลยว่า​ 3 ปีกว่าที่คบกันมามันมีทั้งทุกข์และสุขเยอะมาก​ ถึงจะเป็นความรักวัยเรียน​ เราผ่านทุกเทศกาล​ผ่านอะไรด้วยกันมามากจริงๆ​ แล้วช่วง​ที่กล่าวมานี้​ แฟนเราไม่เคยนอกใจเลยแม้จะแสดงอาการเฟรนด์​ลี่ออกมาบ้างประปราย​ เราคิดว่า
คงเป็นเพราะนิสัย​แหละ​   แต่ช่วงนั้นเรายังงี่เง่าอยู่​ มีจู้จี้บ้างบ่นบ้าง​ ช่วงที่อยู่ด้วยกันเราพบว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีระเบียบ
งานทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานบ้านเราทำให้ได้หมด  เเต่ขอแค่อย่าทำห้องรกไปกว่าเดิม​  เราก็ได้แต่คิดว่าเพราะเขาเป็นผู้ชาย​ เพราะมุมดีของเขาคือการพาเราไปทุกที่ๆอยากไป
เราเลยตัดข้อนี้ออกไปได้.... 

ผ่านไปจนจะจบปี​ 3 แฟนเราต้องไปสังเกตการณ์​ที่โรงเรียน
  2 สัปดาห์​ น่าจะเป็นช่วงที่ห่างกันแรกๆ​ เพราะตัวติดกันตลอด​ และเรากลับพบบางอย่าง....  คือปกติเราจะห้ามแฟนหลายอย่างมาก​  จะทำอะไรต้องขออนุญาต​เราก่อน​ และเมื่อก่อนเขาให้เช็คเฟสเราไว้ใจเขามาก​ ตรงนี้ก็คงทำให้เขาอึดอัด​ จำได้ว่าตอนห่างกันเริ่มมีทะเลาะกัน​ คุยกันน้อยลง​ 
หลังๆ​เวลาทะเลาะ​แฟนเราจะตัดสาย​  ปิดเครื่อง​หนีเราตลอด​ เคยหนีเรามากสุด​ 5​ วัน​ ช่วงแรกที่คบเขาไม่เป็นแบบนี้​ เขาจะง้อและปรับความเข้าใจ​ ช่วงที่เขาไม่อยู่เราเช็คเฟสก็พบว่ามีการคุยกับเพื่อนที่ไปสอนด้วยกัน​ในเชิงจีบเรื่องนี้ก็ทำให้เราทะเลาะกันหนักอีก​ เราก็บอกว่าให้คุยแค่งาน​ ถ้าอย่าอื่นไม่ต้องติดต่อกัน​ พอเรื่องนี้เกิดเราก็ไม่เคยสบายใจ​ เพราะไปนึกถึงช่วงที่เขาทักไปคุยกับคนทั้งสาขา​.. 

จนเขาได้กลับมาเรารู้สึกว่ารอบนี้เขาไม่เหมือนคนเดิมเลย
ช่วงแรกที่คบ​ จะโพสต์​ถึงเราตลอด​ เฟสก็ขึ้นสถานะ​ มีอะไรก็แท็ก ถึงขั้นเอาสตอรี่เราไปตั้งเป็นคอลเลคชั่น​ เราเริ่มสังเกต​ว่าพอเขามีสังคมมากขึ้น​  เขาก็ไม่เคยโพสต์​หรือเอ่ยถึงเราอีกเลยในโซเชียล​อ้างว่า​ ก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว​ เรายิ่งไม่สบายใจเข้าไปใหญ่...  แล้วพอทะเลาะกันทีไรเขาจะลบสถานะออก​ จนเราไม่ให้เขาขึ้นแล้วเพราะขึ้นทีไรก็จะหาเรื่องลบ​ ความสัมพันธ์​ก็สั่นคลอน​

ตอนทะเลาะกันถ้าอยู่ห่างกันไม่ว่าเขาจะผิดหรือถูก​ เขาจะไม่รับฟังกลับโมโหใส่เราแทนเพื่อให้เรื่องจบ​  ตามด้วยปิดเครื่องหรือบล็อกเฟส​
ถ้าทะเลาะตอนอยู่ด้วยกันหลังๆมาเขาเริ่มโมโห​ร้าย​ จะไม่สนใจเลยว่าเราผิดหรือเขาผิดจะโมโหและทำร้ายร่างกายเรา
ช่วงนั้นเราคิดจะเลิกนะ​ แต่เลิกไม่ได้เพราะอยู่ด้วยกัน​ เราก็ได้แต่คิดว่า​  เพราะที่งี่เง่ามันเลยทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้​ แล้วพอเขาหายโกรธ​เขาก็จะมาทำดีกับเราเราก็จะลืมเรื่องที่ทะเลาะกันไป​  และเรายังอยากให้เขาเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นเราจึงยังอยู่ตรงนั้น​  แม้จะรู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้... 

หลังจากเหตุการณ์จีบเพื่อน​ มันมีอีกหลายเหตุการณ์​เช่น​ ไปเข้าค่ายก็ไปจีบเด็กที่เข้าค่าย​ หรือตอนไปฝึกสอนปี​ 4 ก็ไปกับเพื่อนคนเดิม​ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด​ เลิกเรียนก็ไปดื่มกันไม่เว้นวัน​  หนักสุดคือตอนที่เราแอบดูเฟสเขา​ เขาจีบเด็กนักเรียน​ แล้วหลายคนมาก​ จริงๆมันคงเชิงหยอกล้อแหละ​ แต่เราช็อคไม่คิดว่าเขาจะเป็นถึงขนาดนี้​ ยิ่งบางแชทมีการพิมพ์บอกกันว่า​ โอ๋ๆก็เลยโกรธครูเลย​ ครูขอโทษ​ ครูจะไม่ด่าแล้วคาบหน้า...  พอเราเห็นเราตัดสินใจว่าคงไม่ให้โอกาสละ​ ( อีกตอน​ก่อนหน้าเรื่องนี้​ 3 เดือนเขาขอไปเคานดาวน์ที่บ้านกับเพื่อน​ หนักสุดคือไปจีบเพื่อนที่กลับจากกรุงเทพ​ เราจับได้ก็ตามถึงบ้าน​เพื่อจะเคลียร์​  สุดท้ายก็เลือกเขา​ เราเสียใจมาก​ที่เขานอกใจ​ เขาใช้เวลาอยู่ด้วย​ 3-4​วันเราไม่รู้​ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง​ แต่ด้วยความที่เราโง่และรักเขามากก็เป็นฝ่ายอ้อนวอนไม่ให้เขาทิ้งไป​ เขาจึงเลิกคุยกับเพื่อนคนนั้น)​

ชัดเจนว่าเขาบริหารเสน่ห์​ไปทั่ว​ ตอนนั้นเราคิดเรื่องเขาเยอะมาก​ แต่เราก็ใช้โอกาส​ที่เราไปฝึกงานห่างกับเขา​ คิดว่าน่าจะตัดได้ละ​ จนเราไม่คุยกัน​  2  เดือนกว่า​ สุดท้ายก็มีเหตุให้ทักหากันเรื่องครอบครัว​  จากนั้นก็กลับมาคุยกันยาว​ สุดท้ายก็คบกันเหมือนเดิม​ ตอนนั้นเราพยายามลืมทุกอย่าง​ที่เขาเคยทำ​ เพราะอยากเริ่มใหม่​ เราเปลี่ยนทุกอย่างเราไม่ห้ามอะไรเขาอีกเลย​ อยากทำอะไรทำ​ ขอแค่ไม่นอกใจเราก็พอ​ 
ช่วงนั้นเขาก็ทำดีหลายอย่างก็คิดว่าความสัมพันธ์​คงดีขึ้นละ​ 
แต่เขาเริ่มหวงพื้นที่ส่วนตัว​ ไม่โพสต์​อะไรถึงเรา​ ลบสถานะ​ 
ไม่ให้เช็คอะไรอีก​ ตอนนั้นเราโอเคเรารู้สึกว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น​  จนช่วงเรียนจบ​  เราก็หางานเขาก็อ่านหนังสือสอบเพื่อบรรจุ​ จนในที่สุดเขาก็สอบบรรจุผ่านทุกรอบ​ และได้บรรจุ​ ในจังหวัดบ้านเกิด​ ส่วนเราได้งานที่สนามบินแห่งหนึ่ง​ ในช่วงเรียนจบเราห่างกันเยอะขึ้น​ แต่คุยกันตลอด​ มีทะเลาะกันแต่ก็ประคับประคองมาได้​.... 

เรายอมทุกอย่างเขาเที่ยวกลางคืนบ่อย​ ไปกับเพื่อนบ่อย​  มีสังคมเยอะขึ้น​  จนมันเห็นได้ชัดว่ามันมีอะไรน่าตะหงิดอีกครั้ง​ เราเริ่มกลับมากังวล​ อะไรไม่รู้ดลใจให้เราไปส่องเฟสแฟน​ หารายชื่อเพื่อน​ เราไปเห็นคนนึงมาฝึกสอนที่โรงเรียนแฟน​ เราก็เอาไปถามสรุปทะเลาะกันอีก​ ด้วยความที่เราขี้ระแวงกลัวแฟนจะเป็นแบบเดิม​ ก็เอาเรื่องนี้มาทะเลาะกันเพราะแฟนไม่เคยบอกว่าต้องทำงานกับคนนี้​   จนมันต้องระแวงกันทุกวัน​ ทั้งเรื่องพี่ที่ทำงานเพราะแฟนเราไปกับพี่เขาทุกวันหลังเลิกเรียน​ (พี่เขาโสด)​  เลยชวนแฟนเราไปกินข้าว​ ไปคาเฟ่​ ไปสังสรรค์​บ่อยๆ​ เราก็โมโหอีกเพราะแฟนแทบจะไม่มีเวลาให้เราเลย  ( ที่โมโหเพราะไปกับพี่เขาจะถ่ายรูปถ่ายสตอรี่ให้ตลอด​ แต่คบกับเรามาไม่เคยถ่ายรูปให้เราเลย​ รูปคู่ไม่มีด้วยซ้ำ​ เราก็น้อยใจไปใหญ่)​ ความสัมพันธ์​ก็ตึงเครียดไปอีก​  ทะเลาะกันหนักในแต่ละวันบางวันเราทำงานเราก็ไม่มีสติ​ คิดแต่ว่าแฟนจะทำอะไร​ แฟนจะมีเวลาให้เราไหม​ ไม่มีอะไรที่ทำให้เราเชื่อใจได้เลย​ แต่เราทั้งสองก็หาทางเชื่อมความสัมพันธ์​ด้วยการมาหากันในวันหยุดบ้าง​... 

จนตอนเราไปหาแฟน​ เราแอบเช็คโทรศัพท์​ตอนแฟนหลับ
ก็พบว่า​ แฟนเราจีบน้องคนที่มาฝึกสอนจริงๆ​  และจีบกันมาตลอด​ 2 เดือนที่บรรจุ​ เราจุกมากรอบนี้​  ทุกอย่างมันหายวับไปหมดไม่มีอะไรเหลือ​ เราไม่รู้ว่าตอนอยู่ด้วยกันมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง​  แต่ในแชทเขาคุยกันบ่อยกว่าเรา​ ไม่ถามคำตอบคำ
แถมบางวันมีการชวนกันไปหาตอนเย็นๆ​ บางวันเลิกเรียนชวนกันอออกกำลังกายที่รร.​  หนักสุดน้องเขาแชทมาว่าจะเอาเสื้อไปให้เปลี่ยนที่ห้องพัก​ มีคนอยู่ด้วยไหม...  
แค่อ่านแค่นี้สติกับใจเราก็หลุดไปละ​  ยังมีแชทเพื่อนที่เป็นครูก็ส่งรูปน้องคนนี้มาในแชท​แล้วบอกว่ารีบมาน้องเขาคิดถึงมาก​  แล้วก็ส่งข้อความมาอีกว่าอย่าให้แฟนเธอเห็น...  
เราเห็นละเราพูดไม่ออกเลย​ เราคิดผิดไปจริงๆที่ยังยื้อความสัมพันธ์​ไว้​ ต่อให้จะยื้อจะเปลี่ยนแค่ไหนแฟนเราคงไม่มีทางจะกลับมาเป็นคนเดิม.... 

เราจำได้ว่าหลังวันนั้น​ เราไปทำงาน​เลิก​ 4 ทุ่ม​เรานอนร้องไห้จนตี​ 4  ข้าวไม่กิน​ ไม่อยากทำอะไร​ เป็นแบบนี้ซ้ำๆ​ 1 สัปดาห์​
เราไม่เป็นอันที่จะทำงาน​ เราเริ่มกลับมาจับผิด​ งี่เง่าใส่แฟนอีก​ จนต้องทะเลาะกันทุกวัน​ เพราะน้องคนนั้นยังต้องฝึกงาน​เราลำบากใจมาก​ จนเราข้องใจทักไปถามน้องเขา​ เรื่องมันก็บานปลาย​  จนต้องมานั่งเคลียร์​กัน​  แล้วทั้งสองก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรจริงๆแล้วมันแค่ความสัมพันธ์​พี่น้อง​.... 
เราสบายใจที่ได้เคลียร์​แต่ก็เต็มไปด้วยความกังวล​ หวาดระแรง​ แล้วตอนนี้แฟนเราไม่เคยสำนึกผิด​ ไม่เคยขอโทษ​ ไม่เคยง้อ​ เกิดเรื่องอะไรขึ้นจะโมโหกลบเกลื่อนตลอดถ้าเถียงไม่ได้จะทำร้ายร่างกายอย่างเดียว​ เราก็โง่เองที่ไม่ออกมาสักที​ ไหนจะไม่มีเวลาให้เรา​ ไม่เคยเเกรงใจเราเลยหลังๆ​ เขาทำตัวแย่กับเราคนเดียว​ กับคนรอบข้างเขาใส่ใจเขาให้เกียรติ​ทุกคน​ เขาจะอารมณ์​เสียแค่กับเราเท่านั้น เราเอาแต่คิดเสียดายเวลาที่สร้างมา​ เราแค่คิดว่าลำบากมาด้วยกันแค่อยากมีเขาในอาคต แค่นี้ทนได้​ ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ได้อะไรขึ้นมา​ 

หลังเหตุการณ์​นั้นเราพลาดอย่างมาก​ เราไม่เป็นอีนทำงานจนมีเหตุให้ลาออก​ โทษ​ใครไม่ได้มันเป็นเพราะความไร้เดียงสา​ และความคิดน้อยของเราเอง​ 😭😭  สุดท้ายเราต้องตกอยู่ในสภาวะว่างงานมานั่งหางานใหม่​  บุคคล​ที่น่าสงสารที่สุดคือครอบครัวเรา​ เราไม่เคยนึกถึงพวกเขาเลยเอาแต่นึกถึง​คนอื่นผลเลยออกมาเป็นแบบนี้​ 

ตอนนี้แฟนเราบรรจุได้เกือบปี​ 1 แล้ว​แน่นอนว่าเมื่อมีโอกาสแฟนเราจะบริหารเสน่ห์ตลอด​ (ไปกีฬางานวันครูก็มีกะเทยมาจีบแฟนเรายังคุยกันมาเรื่อยๆเมื่อมีโอกาส​ ไหนจะตอนไปเข้าค่ายลูกเสือเขาก็บอกเพื่อนว่าเขาอยากจีบคนในกลุ่ม​ แถมยังบอกทุกคนว่าโสดอีก​*เราแอบดูแชทและคงจะไม่เสียมารยาท​ดูอีกแล้ว)​  ทุกอย่างเกี่ยวกับเราเขาปิดบังทุกคนหมด​ มันเกิดเหตุการณ์​แบบนี้ขึ้นบ่อยจนใจเรามันชินชา​ ตอนนี้เรายังคบเขาอยู่​  

ไม่รู้เลยจะทำยังไงต่อไป​ เราแค่ยึดติดภาพตอนเขามาจีบเรามีแต่หวังว่าสักวันเขาจะกลับไปเปลี่ยนแบบนั้น​  แต่ตัวตนที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้อาจเป็นตัวตนของเขาจริงๆก็ได้​ เราเลิกกันนับครั้งไม่ถ้วนแต่เราก็ยื้อมาตลอด​ เพราะเราอยากมีเขาในอนาคต​ และเราไม่พร้อมที่จะเห็นเขาไปได้ดีกับคนอื่น​ เรายังเห็นแก่ตัวอยู่​ แต่ตอนนี้เขาบอกเราตรงๆว่าเขาหมดรักและไม่อยากมีเราแล้ว เราแค่ยังไม่ยอมรับความจริง​  สุดท้ายเราก็คงต้องเป็นฝ่ายยอมรับความจริงให้ได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้​ และมันจบลงแล้ว...  เราได้แต่รอวันที่เราจะยืนได้ด้วยตัวเองและวันที่เรารักตัวเองมากกว่าที่รักเขา​ ขอบคุณ​ทุกๆคนที่เสียเวลามาอ่านนะคะ​  ถึงมันจะเป็นความรักเด็กน้อยแต่มันก็ทำให้เรามีความสุขที่สุด​ ณ​ ช่วงหนึ่ง​  

เขียนเกือบครบ​ 10,000​ คำ​ ทุกคนอาจจะรำคานหรือเบื่อกระทู้นี้​ คิดซะว่ามันคือพล็อตละคร​ หรือนิยายก็ได้ค่ะ​ เราแค่อยากมาบันทึกความทรงจำช่วงนึงเอาไว้​ ก่อนที่จะไม่มีมันไปอีกตลอดกาล​  คงจะเป็นครั้งสุดท้ายๆแล้วจริงๆ​ ขอให้เธอโชคดี....  ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่