เราโตมาในครอบครัวที่ค่อนข้าง perfectionist ตั้งแต่เด็กถ้าทำอะไรที่ผิดไปจากที่เขาคิดเราก็จะโดนดุ ด่า ทุกวัน เช่น เรื่องเรียน ถ้าไม่ได้ที่ 1-3 ของห้อง / ไม่ได้ 4.00 เขาก็จะพูดประมาณว่า "ทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้ ขาดไปนิดเดียวก็ 4.00 แล้ว ไม่อ่านหนังสือน่ะสิถึงได้แค่นี้..." ช่วง ม.3 เรารู้ว่าตัวเองไปสายวิทย์ไม่ได้เพราะไม่ใช่สิ่งที่ถนัด แต่ครอบครัวอยากให้เราเรียนสายวิทย์และอยากให้เรียนแพทย์ เราเลยตัดสินใจบอกว่าจะเข้าสายศิลป์เพราะไม่ไหวจริงๆ สรุปก็โดนด่าค่ะ แล้วก็ได้คำพูดประมาณว่า "คนอื่นยังเรียนได้เลย" และเปรียบเทียบกับเพื่อนสนิทเราที่เก่งคำนวณและวิทย์อยู่เสมอ แต่ก็ยังดีที่เราได้เรียนสายศิลป์ตามที่อยากเรียนนะคะ อีกอย่างเวลาเราอยากปรึกษาอะไร แค่เรื่องเล็กๆยิบย่อย เขาก็จะไม่ค่อยอยากคุยก้บเราค่ะ จะคุยแต่หัวข้อเรื่องเรียน เรื่องทำงานอย่างเดียว เราอยากทำในสิ่งที่ชอบ เช่น เรียนทำขนม เล่นกีฬา ก็ไม่เคยจะได้รับการสนับสนุนให้ทำ กลับให้เหตุผลเราว่ามันไร้สาระ เอาเวลาพวกนี้ไปอ่านหนังสือสอบดีกว่าไหม บางครั้งเราก็ร้องไห้ตอนกินข้าวเลยค่ะ เพราะเขาจะชอบพูดอะไรแบบนี้ช่วงกินข้าว ก็โดนด่าอีกค่ะ ว่าจะร้องไห้ทำไม เราไม่รู้จะระบายความรู้สึกกดดันของเรายังไง เรารู้แค่อยากจะให้ถึงเวลาที่ต้องออกจากบ้าน
แล้วช่วงเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง คือ เข้ามหาวิทยาลัยค่ะ บ้านเรากับมหาลัยห่างกันไม่มาก แต่เราขอเลือกอยู่หอเพราะไม่อยากมีปัญหา เพราะเชื่อว่ายังไงก็ต้องมานั่งเจอบทสนทนาตึงเครียดทุกวันแน่นอน ช่วงเรียนเราก็ทำงาน part time ไปด้วย ซึ่งที่บ้านเราไม่สนับสนุนให้ทำค่ะ ให้เหตุผลว่างานมันไม่ดี ไปทำทำไม (ร้านสะดวกซื้อ) แต่เราก็แอบทำต่อไปเพราะอยากหาเงินด้วยตัวเอง เรารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่ต้องโดนครอบครัวกำหนดให้ทำนู่นนี่โดยที่เราไม่ได้อยากจะทำ ขณะเรียนมหาลัยมันก็เหนื่อยมากสำหรับเรา เราอยากบอกครอบครัวทุกวันว่าเราเหนื่อย มันเครียด แต่เวลากลับบ้านทีไรยังไม่ทันจะเอ่ยปากบอกความรู้สึกตัวเอง แค่นั่งรถจากหอไปบ้านบทสนทนาในรถก็เปิดด้วย "สอบแล้วใช่ไหม ทำได้ไหม คิดว่าจะได้เกรดเท่าไร ห้ามติดเอฟเด็ดขาดนะ" เราเคยได้เกรด D วิชาเดียว โดนด่ายับเลยค่ะ (ขนาดรอดเอฟ) บอกว่าเราชอบหาเรื่องยุ่งๆ บ้านไม่ค่อยจะกลับ แอบเที่ยวล่ะสิถึงได้เกรดเท่านี้ พอเราแก้ตัวว่าไม่ใช่ เพราะเราก็อยู่แต่หอ อยู่กับเพื่อนช้วยกันติว สิงอยู่ห้องสมุดแทบทุกวัน เราก็ทำได้แค่นั่งเงียบให้เขาด่า แล้วจบที่แอบร้องไห้คนเดียว จนรู้สึกไม่อยากกลับบ้านอีกแล้ว ปกติเราจะกลับทุกวันหยุด แต่หลังจากวันนั้น เรากลับบ้านเฉพาะปิดเทอม ซึ่งพอไม่ได้กลับบ้าน เราสุขภาพจิตดีมากๆๆๆๆๆ แต่เราก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากบ้านตัวเองได้อยู่ดี...
ตอนนี้เราเพิ่งเรียนจบค่ะ รอเวลาไปทำงาน ระหว่างรอก็ต้องกลับมาอยู่บ้าน แล้วสภาพสถานการณ์ในบ้านก็วุ่นวาย ชวนทะเลาะกัน พูดกันเสียงดัง เราไม่อยากจะอยู่บ้านเลยค่ะ เราเคยตัดสินใจรวบรวมความกล้าบอกครอบครัวว่า จะขอไปเช่าหออยู่คนเดียวนะโดยใช้เงินเก็บที่มีก้อนนึง แล้วระหว่างรอเวลาไปทำงานก็จะทำพาร์ทไทม์ไปด้วย จะไม่ขอเงินเลยสักบาท เราก็โดนด่าอยู่ดีค่ะ ว่าจะไปทำไม บ้านก็มีอยู่ อยู่บ้านนี่แหละ อย่าทำตัวให้มันยุ่งมากเลย บ้านตัวเองมี เผือกไม่อยากจะอยู่เนาะ เราไม่มีสิทธิจะเปิดปากพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการเลยสักนิดค่ะ เรามีอาชีพและที่ทำงานที่ใฝ่ฝัน แต่เขาก็จะบังคับให้เราต้องเป็นแบบที่เขาอยากให้เป็น พูดตลอดเลยค่ะว่าต้องเรียนต่อยัน ป.เอกนะ เป็นอาชีพ...ให้ได้นะ ไปให้สูงที่สุด ทั้งที่เราก็เคยบอกค่ะว่ามันไปไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ... ตั้งแต่เรียนจบมาก็อยู่บ้านทุกวันนี่แหละค่ะ ยกเว้นไปสอบถึงจะได้ออกจากบ้าน 4-5 วัน ดีใจมากเมื่อใกล้ถึงเวลาต้องไป เราผิดไหมคะ ถ้าไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่มีความรู้สึกคิดถึงบ้าน ไม่คิดถึงคนในบ้านเลย เราอยากออกไปอยู่คนเดียวจริงๆค่ะ อยากจะขนของเดินออกไปเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เราอยากระบายความในใจทั้งหมด แต่มันติดที่ไม่มีใครรับฟัง ไม่มีเลยจริงๆ เราอาจจะโดนหลายๆท่านที่อ่านกระทู้นี้ด่าก็ได้นะคะ 5555 ก็เตรียมใจในระดับนึง
มีใครเคยมีความรู้สึกแบบเราไหมคะ อยากขอกำลังใจหรือวิธีแก้ปัญหานี้จริงๆค่ะ 😭
ผิดไหม ถ้าอยู่กับครอบครัวแล้วไม่มีความสุข
แล้วช่วงเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง คือ เข้ามหาวิทยาลัยค่ะ บ้านเรากับมหาลัยห่างกันไม่มาก แต่เราขอเลือกอยู่หอเพราะไม่อยากมีปัญหา เพราะเชื่อว่ายังไงก็ต้องมานั่งเจอบทสนทนาตึงเครียดทุกวันแน่นอน ช่วงเรียนเราก็ทำงาน part time ไปด้วย ซึ่งที่บ้านเราไม่สนับสนุนให้ทำค่ะ ให้เหตุผลว่างานมันไม่ดี ไปทำทำไม (ร้านสะดวกซื้อ) แต่เราก็แอบทำต่อไปเพราะอยากหาเงินด้วยตัวเอง เรารู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่ต้องโดนครอบครัวกำหนดให้ทำนู่นนี่โดยที่เราไม่ได้อยากจะทำ ขณะเรียนมหาลัยมันก็เหนื่อยมากสำหรับเรา เราอยากบอกครอบครัวทุกวันว่าเราเหนื่อย มันเครียด แต่เวลากลับบ้านทีไรยังไม่ทันจะเอ่ยปากบอกความรู้สึกตัวเอง แค่นั่งรถจากหอไปบ้านบทสนทนาในรถก็เปิดด้วย "สอบแล้วใช่ไหม ทำได้ไหม คิดว่าจะได้เกรดเท่าไร ห้ามติดเอฟเด็ดขาดนะ" เราเคยได้เกรด D วิชาเดียว โดนด่ายับเลยค่ะ (ขนาดรอดเอฟ) บอกว่าเราชอบหาเรื่องยุ่งๆ บ้านไม่ค่อยจะกลับ แอบเที่ยวล่ะสิถึงได้เกรดเท่านี้ พอเราแก้ตัวว่าไม่ใช่ เพราะเราก็อยู่แต่หอ อยู่กับเพื่อนช้วยกันติว สิงอยู่ห้องสมุดแทบทุกวัน เราก็ทำได้แค่นั่งเงียบให้เขาด่า แล้วจบที่แอบร้องไห้คนเดียว จนรู้สึกไม่อยากกลับบ้านอีกแล้ว ปกติเราจะกลับทุกวันหยุด แต่หลังจากวันนั้น เรากลับบ้านเฉพาะปิดเทอม ซึ่งพอไม่ได้กลับบ้าน เราสุขภาพจิตดีมากๆๆๆๆๆ แต่เราก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากบ้านตัวเองได้อยู่ดี...
ตอนนี้เราเพิ่งเรียนจบค่ะ รอเวลาไปทำงาน ระหว่างรอก็ต้องกลับมาอยู่บ้าน แล้วสภาพสถานการณ์ในบ้านก็วุ่นวาย ชวนทะเลาะกัน พูดกันเสียงดัง เราไม่อยากจะอยู่บ้านเลยค่ะ เราเคยตัดสินใจรวบรวมความกล้าบอกครอบครัวว่า จะขอไปเช่าหออยู่คนเดียวนะโดยใช้เงินเก็บที่มีก้อนนึง แล้วระหว่างรอเวลาไปทำงานก็จะทำพาร์ทไทม์ไปด้วย จะไม่ขอเงินเลยสักบาท เราก็โดนด่าอยู่ดีค่ะ ว่าจะไปทำไม บ้านก็มีอยู่ อยู่บ้านนี่แหละ อย่าทำตัวให้มันยุ่งมากเลย บ้านตัวเองมี เผือกไม่อยากจะอยู่เนาะ เราไม่มีสิทธิจะเปิดปากพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการเลยสักนิดค่ะ เรามีอาชีพและที่ทำงานที่ใฝ่ฝัน แต่เขาก็จะบังคับให้เราต้องเป็นแบบที่เขาอยากให้เป็น พูดตลอดเลยค่ะว่าต้องเรียนต่อยัน ป.เอกนะ เป็นอาชีพ...ให้ได้นะ ไปให้สูงที่สุด ทั้งที่เราก็เคยบอกค่ะว่ามันไปไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ... ตั้งแต่เรียนจบมาก็อยู่บ้านทุกวันนี่แหละค่ะ ยกเว้นไปสอบถึงจะได้ออกจากบ้าน 4-5 วัน ดีใจมากเมื่อใกล้ถึงเวลาต้องไป เราผิดไหมคะ ถ้าไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่มีความรู้สึกคิดถึงบ้าน ไม่คิดถึงคนในบ้านเลย เราอยากออกไปอยู่คนเดียวจริงๆค่ะ อยากจะขนของเดินออกไปเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้จะทำยังไง เราอยากระบายความในใจทั้งหมด แต่มันติดที่ไม่มีใครรับฟัง ไม่มีเลยจริงๆ เราอาจจะโดนหลายๆท่านที่อ่านกระทู้นี้ด่าก็ได้นะคะ 5555 ก็เตรียมใจในระดับนึง
มีใครเคยมีความรู้สึกแบบเราไหมคะ อยากขอกำลังใจหรือวิธีแก้ปัญหานี้จริงๆค่ะ 😭