ประเทศไทยเรานับถือพุทธศาสนาที่นับว่าบริสุทธิ์ที่สุด จากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์?

เรียนท่านผู้ที่เข้าใจผิดหรือผู้ที่ขาดความรู้ในเรื่องพุทธศาสนา เนื่องจากผมศึกษาพุทธศาสนาและอ่านประวัติพระพุทธศาสนาจากหลายๆแห่งทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และคุยกับผู้ที่มีความรู้ทางพุทธศาสนามาเกือบทุกๆระดับ ด้วยเหตุนี้ผมจึงทราบเกี่ยวกับการกระจายตัวและหลักศรัทธาของพระพุทธศาสนาพอสมควร แต่ไม่ลึกซึ้งไปถึงหลักการของแต่ละนิกายทางพุทธศาสนา 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 การที่ศาสนาแต่ละศาสนามีหลายนิกายนั้น เพราะเหตุว่าไมยึดหลักคำสอนที่เป็นหนึ่งเดียวเป็นหลัก หรือว่าคัมภีร์มีการบันทึกประวัติศาสนาในแง่มุมต่างๆของผู้รวบรวม และเนื่องจากศาสนาพราหมณ์ มีอิทธพลมากในสมัยนั้น แม้แต่ครอบครัวของพระพุทธองค์เองก็นับถือศาสนาพราหมณ์ ผมจะไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่าประเทศไทยเรานับถือพุทธศาสนาที่นับว่าบริสุทธิ์ที่สุดคามคำสอนของพระพุทธองค์แล้ว แต่พุทธศาสนิกชนก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า ในบรรดาพุทธศาสนิกชนมากกว่า 700 ล้านคนบนโลกนี้ไม่ใช่พุทธศาสนิกชนที่แท้จริงเท่าพุทธศาสนิกชนในสังคมพุทธศาสนาของไทยเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากในศาสนาอิสลามมีเพียงคัมภีร์อัลกุรอานเพียงฉบับเดียวที่เป็นแหล่งวิชาทางศาสนาเพียงแหล่ลงเดียว และเป็นบัญญัติสูงสุดจากพระเจ้า/อัลลอฮ์ ถึงแม้กระนั้นก็ตามศาสนาอิสลามก็ยังมีการแตกแยกและการแบ่งศาสนาอิสลามออกเป็นนิกายต่างๆอีกหลายสิบนิกายทั้งๆที่การแบ่งแยกศาสนาอิสลามออกเป็นนิกายต่างๆนั้นเป็นบาปในศาสนาอิสลาม และอัลลอฮ์และท่านศาสดามูฮัมมัดไม่รับรองและรับรู้ความสำคัญของนิกายเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ไม่อาจจะปฏิเสธว่ามุสลิมกว่า 1.5 พันล้านคน ไม่ใช่มุสลิม ตราบใดที่เขายังศรัทธาต่อพระเจ้า/อัลลอฮ์ อยู่ในจิตใจของเขา 

เนื่องจากผมศึกษาอัลกุรอานและเข้าใจจุดมุ่งหมายของอัลกุรอาน รูปแบบการจัดแบ่งเนื้อหาในอัลกุรอาน ซึ่งประกอบด้วยหลักศรัทธา หลักศีลธรรมรวมทั้งข้อห้ามข้อปฏิบัตฺิ, หลักการปกครอง, ขบวนการยุติธรรม และประวัติศาสตร์การสงครามตั้งแต่เริ่มต้นประกาศศาสนาระหว่างอรับผู้บูชาเจว็ดและอรับมุสลิมใหม่ ผู้ปฏิเสธเจว็ด กับหลักการใหม่ของศาสนาอิสลามที่ปฏิเสธการบูชาเจว็ดและการบูชาเทพเจ้าต่างๆหรือสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย โดยรวมอำนาจทั้งหมดให้มาอยู่ร่วมกันในพระเจ้าองค์เดียวหรือมหา อำนาจเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นอำนาจที่มนุษย์ควรยึดถือเพื่อกราบไหว้เคารพบูชา ทั้งนี้เพื่อที่ไม่ให้มนุษย์หลงไปกราบไหว้สิ่งต่างๆอย่างเลื่อนลอยที่ไม่มีจุดมุ่งหมาย เห็นอะไรผิดปกติก็พากันกราบไหว้ไปเสียหมด  กับทั้งมีการสร้างเจว็ดในรูปต่าง แล้วมนุษย์ก็เสกเป่าเรียกร้องสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกให้เข้าไปสิงหสถิตอยู่ภายในเจว็ดที่มนุษย์สร้างขึ้นมา แล้วนำสิ่งนั้นมากราบบูชา ด้วยเหตุนี้ท่านศาสนทูต มูฮัมมัดจึงอธิบายตามหลักการคำสอนของ อัลกุรอานไว้ในคำสอนของท่าน(ฮาดีษ) เกี่ยวกับเรื่องการเสกเป่าว่าเป็นการสร้างภาคี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนมากที่ผมเห็นในกระทู้ต่างๆที่พุทธศาสนิกบางท่าน โปสต์บัญญํติต่างๆจากอัลกุรอาน เพื่ออ้างอิงว่าศาสนาอิสลามมีคำสอนที่โหดร้ายทารุณ ดังนั้นมุสลิมจึงนำคำสอนเหล่านั้นมาใช้ ปฏิบัติในสังคมมนุษย์ ซึ่งศาสนาไม่ควรจะนำคำสอนที่ขาดมนุษยธรรมเช่นนั้นมาสั่งสอน แสดงให้เห็นว่าศาสนาอิสลามขาดความเมตตากรุณา, แต่ผู้ที่นำบัญญํติเหล่านั้นมาอ้างอิงไม่เข้าใจว่า เป็นบัญญัติเกี่ยวกับสงครามในประวัติศาสตร์ และเป็นการใช้จิตวิทยาในการสงครามเพื่อให้ทหารมีกำลังในการต่อสู้ข้าศึก ผู้ที่ทำการต่อต้านการเผยแพร่ศาสนาอิสลาม ที่สอนให้ชาวอรับทะเลทรายที่ป่าเถื่อนเลิกประเพณีที่ งมงายในการกราบไหว้บูชา ต้นไม้ใหญ่ๆ, ภูเขา และเจว็ดต่างๆ ที่พวกเขาสร้างปั้นขึ้นมาเพื่อการกราบไหว้บูชา  บัญญัติดังกล่าวในอัลกุรอานภาษาอังกฤษ เรียกว่า "Sword Verse" ซึ่งมีอยู่ใน บที่ 9. ซูเราะฮฺอัตเตาบะฮฺ (บท การสำนึกผิด) บัญญัติที่ 9:1-9:7
จากภาพข้างบนนี้แสดงให้เห็นว่าบัญญัติเหล่านั้น เป็นบัญญํติที่เกี่ยวกับเหตุการณ์การต่อสู้ในประวัติศาสตร์ สงครามระหว่างอรับผู้บูชาเจว็ดพยายามขัดขวาง การประกาศศาสนาอิสลามซึ่งห้ามและยกเลิกการบูชาเจว็ด จึงเกิดการต่อสู้ป้องกันตัว และแสดงการให้อภัย เมื่ออรับบูชาเจว็ด (Pagan) เหล่านั้น เลิกการบูชาเจว็ด และในทำนองเดียวกัน (บัญญัติที่ 8) ถ้ามุสลิมไม่ทำการป้องกันตัว อรับ Pagan ก็จะเข่นฆ่ามุสลิมเช่นกัน บัญญัติเหล่านี้ไม่มีอะไรที่สอนให้มุสลิมฆ่าบุคคลผู้ใดในปัจจุบัน การที่พุทธสมาชิกอ้างอิงบัญญัติเหล่านี้ในภาพดังกล่าวเนื่องจากขาดความรู้หรือ Ignorant ต่ออัลกุรอาน ซึ่งเป้นที่เข้าใจได้
 การที่ผมนำพุทธศาสนาบางนิกาย มากล่าวถึงในที่นี้ เพื่อชี้แสดงให้เห็นว่าตามประวัติศาสตร์พุทธศาสนานั้นเริ่มแรกทีเดียว มีความเชื่อในเรื่องผู้สร้าง ถึงแม้ว่าพุทธศาสนิกชน คนไทยเราจะปฏิเสธก็ตาม แต่ผู้เขียนประวัติพุทธศาสนาก็ไม่อาจที่จะยกเว้นประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาได้ ทั้งนี้เพราะว่าในปัจจุบันพุทธศาสนายังมีพิธีกรรมของพราหมณ์ที่ชาวพุทธถือปฏิบัติกันเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งจะเห็นจากการเคารพพระพรหมณ์มีอยู่ทั่วไปในสังคมไทยเรา และในสังคมของประเทศที่ประชาชน ผู้ถือปฏิบัติพุทธศาสนา เช่น ในประเทศธิเบต และในรัฐภูฏาน ซึ่งประเทศที่อยู่ติดกับอินเดียและจีน ใกล้เคียงกับ 5 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทยเรานั่นเอง ประเทศที่แสนที่จะมีความสุขและสงบเงียบนี้ เป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาที่เข้มข้น และลึกซึ้ง ทำให้ทั้งประเทศมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก สตรีมีสิทธิที่จะมีสามีได้มากกว่า 4-5 คน  โดยเชื่อว่า อวัยวะเพศชายมีความสำคัญถึงกับต้องมีการฉลองเป็นประเพณีประจำปี, และพระพุทธศาสนาในประเทศธิเบต ที่มาขององค์ดาไล ลามะ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และผู้นำของชาวทิเบต ที่เชื่อว่าเป็นร่างมาเกิดของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และสืบทอดการส่งตำแหน่งนี้มานานกว่า 600 ปี ขององค์ ดาไลลามะธิเบต ที่ยังมีความเชื่อในพระพรหมณ์ผู้สร้าง

 การเรียนรู้ความเป็นมาของแต่ละศาสนาอย่างถูกต้องจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นของศาสนาต่างๆโดยเฉพาะศาสนาอิสลามซึ่งมีความแตกต่างกันมากจากสังคมหนึ่งกับอีกสังคมหนึ่ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่