เรื่องราวความประทับใจ ในการแข่งขันโอลิมปิค ของนักกีฬา ที่ชื่อว่า "Matthias Steiner" Olympic Beijing 2008

ใครพอจะจำเรื่องราวของนักกีฬาคนหนึ่ง ที่ได้สร้างตำนาน เป็นผู้ที่ได้รักษาคำมั่นสัญญา ที่ทำไว้กับภรรยาที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ในเหตุการณ์ แข่งขันกีฬาโอลิมปิค ทีกรุงปักกิ่ง ในปี 2008 ได้บ้าง   

ขอนำเรื่องราว ของนักกีฬาผู้นี้ มาให้อ่านกันอีกที    "Matthias Steiner"

 Matthias Steiner เป็นนักยกน้ำหนัก เกิดที่ประเทศ ออสเตรีย แต่ย้ายสัญชาติตามภรรยา และได้มายกน้ำหนักให้กับประเทศ เยอรมนี
เขาได้ลงแข่งการแข่งขันยกน้ำหนัก ในรุ่น 105 กิโล ขึ้นไป ในกีฬาโอลิมปิค ฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ที่ กรุงปักกิ่ง ในปี 2008
ก่อนการแข่งขัน ประมาณ 1 ปี ในช่วงของการเก็บและเตรียมตัว ในการเข้าแข่งขัน  Matthias Steiner ได้สูญเสีย ภรรยา ของเขา คุณ Susann  ไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์  เหตุการณ์นั้นทำให้เขาเคว้งไปพักใหญ่ ตัดสินใจในชีวิตไม่ได้ว่า จะทำอย่างไร จะหยุดเล่นกีฬา ยกน้ำหนัก แล้วหันหลังให้กับวงการนี้ไป เพราะขาดแรงบัลดาลใจ  หรือจะเดินหน้าฝึกฝนต่อไป เพื่อที่จะคว้าเหรียญทองมาคล้องให้ได้ เพราะได้ให้คำมั่นสัญญากับภรรยาของเขาไว้ 

สุดท้ายเขาได้ตัดสินใจที่จะพิสูจน์ตัวเอง เขาได้ทำการเก็บตัวและฝีกฝนอย่างหนัก  และได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิค ที่ กรุงปักกิ่ง 
ในการแข่งขันยกน้ำหนักในท่า snatch  ครั้งที่ 3 เขาไม่สามารถยกบาร์ให้ผ่านได้ และทำให้เขาตามหลังคู่แข่งและหลุดโอกาสในการแย่งเหรียญได้ 

การที่เขาจะกลับมาสู่ในเกมการแข่งขันและสามารถแย่งเหรียญมาคล้องคอได้ คือเขาจะต้องทำการยกน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เขาได้ยกมามากถึง 12 กิโล
ซึ่งในการยกท่า Clean and Jerk  ครั้งแรกเขาก็ยกไม่ผ่าน ทำให้โอกาสในการได้เหรียญหลุดล่องลอยห่างออกไป แล้วหากอยากจะทำเหรียญให้ได้เขาจะต้องยกน้ำหนักให้มากถึง 258 กิโล ถึงจะมีโอกาสชนะเลิศได้เหรียญทอง นั่นคือต้องยกน้ำหนักมาก 12 กิโลของน้ำหนักสูงสุดที่เคยฝึกมา ในชีวิตเขาเลย 

การยกครั้งที่สาม ครั้งสุดเขาออกมาทำสมาธิ แล้วก็เริ่มยก บาร์เหล็กขึ้นมาด้วยแรงกายและความมุ่งมั่นทั้งหมดที่มีอยู่ ฝืนแรงต้านทานของร่างกายกับน้ำหนักที่มากเกินความสามารถในการยก  แต่สุดท้ายเขาก็สามารถยกมันผ่านได้ และก็ชนะเลิศเป็นอันดับที่1 

เขาร้องไห้อย่างบ้าคลั่งบนเวทีการแข่งขันในวันนั้น ผู้ชนยืนปรบมือให้เขาอย่างยาวนานเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ ความมุ่งมั่นและเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา ของเขา
ในที่สุดเขาก็สามารถทำตามคำสัญญาได้เหรียญทองมาครองตามที่ทำไว้กับภรรยาของเขา  ในการขึ้นรับเหรียญ เขาได้นำภาพถ่ายของภรรยาของเขาออกมาแล้วชูให้ทั้งโลกเห็น เป็นภาพที่ประทับใจเป็นอย่างยิ่ง 

ถึงแม้ว่าในการยกน้ำหนักครั้งสุดท้าย ที่เขายืนอยู่หน้าบาร์เหล็กอยู่คนเดียว  แต่เขากลับสัมผัสได้ว่า มีมืออีกสองข้างที่มองไม่เห็นมาช่วยเขายกน้ำหนักครั้งสุกท้ายครั้งนั้น  เขาบอกว่า เขาไม่ได้เป็นคนเหลวไหลและไม่เชื่อในเรื่องลี้ลับ แต่ในการยกน้ำหนักครั้งสุดท้ายเขาสัมผัสได้ว่า มีสิ่งที่มองไม่เห็น มาช่วยให้เขามีแรงเค้น แล้วสามารถยกบาร์เหล็กนั้นขึ้นมาได้   
 "ไม่มีอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไป ผมทำได้แล้ว ผมเป็นอิสระแล้ว ผมเป็นผู้ชายที่มีความสุขมากที่สุดบนโลกนี้"  Matthias Steiner


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่