จะแอบชอบต่อไป หรือว่าจะบอกออกไป

สวัสดีนะคะ ทุกคน
       เราไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเรียกว่าอะไร เราเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งสมัครไปทำงาน เราเป็นผู้หญิงที่ทำงานเป็น IT แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นผู้หญิงนะคะ แต่ด้วยการทำงานด้านไอที มันก็จะเป็นสาวหวานๆ มากไม่ได้ มันก็จะไม่คล่องตัวมากนัก บริษัทที่เราได้งานใหม่ จะเป็นบริษัท ที่แบบไม่มี LGBTQ+ เลย ซึ่งต่างจากบริษัทเดิมที่เราออกมา จะเป็น LGBTQ+ เกือบหมดเลยหรา เราก็เลยจะค่อนข้างจะปรับตัวยาก ไม่ค่อยกล้าคุยกับใคร เพราะไม่รู้ว่าต้องเริ่มคุยยังงัย บวกกับเราเป็นคนขี้อาย ขี้เขิน มันก็เลยยากเข้าไปอีก 
       จนวันหนึ่งเราลงไปเช็คอุปกรณ์คอม ซ่อม Printer ด้านล่าง ก็สังเกตุน้องพนักงานผู้หญิงคนหนึ่ง มักจะชอบมาแอบดู อยู่ห่างๆ แอบมอง แต่พอเรามองกลับไป น้องก็จะหันไปทำอย่างอื่น หรือเดินหนีไป แต่น้องคนนี้ เราเห็นวันแรก น้องหน้าตาน่ารักดี จะนิ่งๆ หน่อย เราก็จะสังเกตุแบบนี้เรื่อยๆ จนบางทีเราก็อยากจะถามว่า มีอะไรมัย หรืออยากคุยอะไร ถามได้นะ แต่เราเองก็ไม่กล้า จนมีวันหนึ่งมีเหตุการณ์ที่เราต้องกลับออฟฟิตไปตอนเย็น เพราะว่าเราออกไปสาขามา ต้องกลับออฟฟิต แต่ว่าคนกลับหมดแล้ว ไม่มีกุญแจ น้องอีกคนก็เลยโทรหาน้องคนนี้ เพื่อช่วยเปิดประตูให้หน่อย เพราะว่าน้องอยู่ใกล้ และนั้นก็คือ น้องมาเปิดประตูให้ เราก็แบบทำมัยน้องน่ารักจัง จริงๆ ไม่ต้องมาเปิดให้ก็ได้ แล้วน้องก็บอกกับเราว่า ต้องซื้อขนมให้แล้วหล่ะ เราก็เลยบอกว่าได้สิ เด๋วพน.ซื้อขนมมาให้นะ แล้วก็ขอบคุณนะ ที่มาเปิดประตูให้ ปกติเราเจอกันก็จะเฉพาะแค่เรื่องงาน ทักทายปกติ แต่ก็ไม่เคยคุยกันเล่นๆ 
        ตอนเช้าวันต่อมา เราก็ซื้อขนมวางไว้ที่โต๊ะ เพราะว่าน้องยังไม่มา น้องก็ถามเราว่า ซื้อขนมมาให้เหรอ เราก็เลยบอกว่าใช่ ทานด้วยนะ น้องบอกว่าไม่ทานหรอก จะเก็บเอาไว้... หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ก็มีไลน์คุยกันนะ เรามักจะเป็นห่วงน้องเรื่องขี่มอไซต์ ไม่ใส่หมวก แล้วก็ไม่ชอบรัดผม เพราะเรากลัวน้องผมเสียเอา ก็เลยเอายากรัดผมให้น้องไว้ แต่น้องไม่ค่อยคุยไลน์มากนัก ส่วนใหญ่แชทจะหนักขวา แต่เราไม่รู้ทำมัย อยู่ๆ ก็รู้สึกเป็นห่วงน้องในทุกเรื่องๆ การขี่มอไซต์ไม่ใส่หมวก ไม่ใส่เสื้อ อันตราย ก็ได้แต่เป็นห่วง 
        จนวันหนึ่งใกล้วันเกิด ก็เลยชวนน้องไปกินหมูกะทะกัน วันนั้นก็เลยบอกน้องว่า มีอะไรจะถาม หรือคุยมัย ถามได้นะ น้องก็ถามว่า ทำงานที่นี้โอเคมัย เราก็บอกว่าโอเค แต่ก็ปรับตัวยากหน่อย ก็บอกไปตามที่เราพิมพ์ไว้ข้างต้น ว่าเพราะอะไร แล้วก็กินหมูกะทะกันปกติ จนน้องอีกคนถามเราว่า เราเคยมีแฟนมัย เราก็เลยบอกว่า เคยมีสิ น้องถามว่า ผญ  หรือ ผช. เราก็บอกว่า เราเคยมีทั้ง 2 เลยนะ สำหรับเราเรื่องความรักมันไม่ได้ จำกัดเรื่องเพศสภาพ เราก็เลยมองหน้าน้องนิดหน่อย แล้วน้องอีกคนก็เลยถามว่า ความรักเหมือนกันมัย เราบอกว่าไม่เหมือน มันจะคนละแบบกันเลยหรา แล้วน้องก็เลยถามว่า ทำมัยถึงเลิก เราก็บอกว่า ยังงัยดี ผช. พี่บอกเลิกเค้า แต่ผญ. เค้าบอกเลิกพี่ น้องก็ถามต่ออีกว่า เหตุผล อะไร ผญ. ที่บอกเลิกพี่เพราะว่า เค้าชอบผู้ชาย ไม่ได้ชอบผู้หญิงด้วยกัน ก็เท่านั้นเอง เราก็เลยบอกว่า มันผ่านมาแล้ว 
         หลังจากนั้น เรามาส่งน้องนะ แล้วก็บอกน้องว่า เรารู้จักกันเยอะแล้วเนอะ น้องก็บอกว่ารู้จักแล้ว แล้วก็หลังจากนั้น เราก็มั้งจะคุยไลน์นะ เพราะว่าเราอ่ะ คุยต่อหน้าไม่ค่อยเก่ง แต่เราจะคุยไลน์เยอะกว่า แต่มันเหมือนกลายเป็นว่า เหมือนน้องไม่ค่อยกล้าคุยหรือป่าวเราไม่แน่ใจ มันเหมือนอยู่ออฟฟิต เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย คุยกันแค่เรื่องงาน มันก็เลยทำให้เรารู้สึกแปลกๆ กับน้อง เวลาเจอน้องมันกลายเป็นว่าอยู่ๆ เราก็ใจเต้นแรง หวิวๆ อยากคุยด้วย อยากรู้จักให้มากๆ แต่เราไม่รู้ว่าน้องคิดยังงัย เหมือนมันห่างออกไป จากการที่เราคิดว่า เราได้คุยกันวันนั้น อาจจะสนิทกันขึ้น แต่สำหรับเรา ทำมัยถึงเรายังรู้สึก ไม่ค่อยได้คุยกัน มันห่างออกไป กลายเป็นเราสนใจน้องมากขึ้น มีแต่คำถามในหัวว่าน้องเป็นอะไร หรือเพราะว่าวันนั้นที่คุยกัน หรือเพราะว่าเราเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง น้องก็เลยกลัวเรา หรือแบบรังเกลียดเรามัย เพราะเราบอกไปว่า เราไม่ได้มองความรัก ที่เพศ ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่ คุยแล้วสบายใจ เป็นเซฟโซน ได้ ก็คงเป็นคนนั้น แล้วเราก็มองที่น้องแล้วก็ยิ้มๆ ในวันนั้นนะ หรือว่าจริงๆ แล้ว เราแอบชอบน้องเค้าแล้วจริงๆ เราควรจะบอกน้องดีมัย หรือว่าเราควรจะแอบชอบแบบนี้ต่อไป เป็นห่วงอยุ่ห่างๆ ไม่เข้าไปทำให้น้องอึดอัด หรืออะไรก็ตาม  เราคิดว่า เราแอบชอบต่อไปแบบนี้มันน่าจะดีกว่าเนอะ เพราะว่ายังงัยก็ต้องทำงานด้วยกันอยู่ดี เก็บความรู้สึกไว้ข้างในมันก็น่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ยังได้เห็นน้องในทุกๆ วัน สำหรับเราก็น่าจะพอแล้วหรา หรือทุกคนคิดว่ายังงัยดี ใครเคยมีประสบการณ์แบบเรามัย แชร์ให้เราได้เลยนะ 😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่